การได้ไปเรียนต่อและใช้ชีวิตในต่างประเทศมันสวยหรูอย่างที่เขาพูดกันไหมนะ ?
เมื่อเส้นทางชีวิตของเด็กจบใหม่ไม่ได้จบลงที่การหางานทำเพียงอย่างเดียว ยังมีเด็กจบใหม่อีกมากมายที่สนใจจะได้ใช้ชีวิตแบบที่ต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นการได้ศึกษาต่อหรือการได้ใช้ชีวิตในต่างประเทศ ใครที่สนใจจะค้นหาประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิตและต้องการคำแนะแนวไปสู่โลกใบใหม่ที่ทำให้ได้เติบโตต่อไป
ห้ามพลาด! กับบทสัมภาษณ์ของ คุณนิชา วงศ์ศุภสวัสดิ์ เจ้าของเพจ NichaWong ผู้คว้าปริญญาโทด้าน MBA จาก Harvard Business School และปัจจุบันทำงานอยู่ที่ Google ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้มาแชร์ประสบการณ์การเรียนและทำงานที่ต่างประเทศ ที่อาจจะไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใครหลายคนคิด
จุดเริ่มต้นในการเรียนและใช้ชีวิตในต่างประเทศ
คุณนิชาเล่าว่า เธอได้แรงบันดาลใจมาจากการที่พี่ชายทั้ง2คน ได้ไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา และตัวเธอได้ไปเยี่ยมพี่ชายที่นั้นเป็นประจำกับครอบครัว ทำให้ตัวเธอรู้สึกคุ้นเคยและอยากไปใช้ชีวิตที่นั้นบ้าง
ดังนั้น เมื่อเรียนจบปริญญาตรี จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว เธอจึงตัดสินใจไปเรียนต่อระดับปริญญาโทที่อเมริกา เพื่อที่จะได้ต่อยอดความรู้ที่มีอยู่เดิมและใช้ชีวิตในแบบที่เธออยากเป็น
การเตรียมตัวในการศึกษาต่อที่ประเทศอเมริกา
คุณนิชากล่าวว่า ตัวเธอนั้นรู้ตัวเร็วว่า อยากเรียนต่อต่างประเทศตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ทำให้คุณนิชาเริ่มสอบ standardise test ที่มหาวิทยาลัยกำหนด เพื่อสมัครเข้าหลักสูตร MBA ที่เรียกว่าการสอบ “GMAT”
พอเธอสอบผ่านแล้วจึงเริ่มทำงานในประเทศไทยก่อน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงาน และสามารถนำไปเขียนใน essay เกี่ยวกับผลงานความสำเร็จของเธอ และได้ขอ recommendation letter จากหัวหน้างานไว้ด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อนำไปสมัครศึกษาต่อในปริญญาโทนั้นเอง
การเรียน การสอน และกิจกรรมที่ Harvard เป็นอย่างไร
การเรียนที่ Harvard จะค่อนข้างต่างจากการเรียนที่ไทย เพราะอาจารย์จะให้เราเรียนรู้จาก case study เป็นส่วนใหญ่ ทุกครั้งก่อนเข้าเรียนเราจะต้องอ่านหนังสือไปล่วงหน้า เพื่อนำไปสร้าง discussion ต่อในคลาส และอาจารย์จะสนับสนุนให้นักเรียนทุกครั้งได้ฝึกการออกความคิดเห็นในมุมมองของผู้บริหาร
ในเวลาว่างก็สามารถไปเข้าชมรมได้ ที่ Harvard จะมีชมรมเยอะมาก ขึ้นอยู่กับความชอบของนักเรียนแต่ละคน ว่ามีความสนใจทางด้านไหนบ้าง เช่น Retail Club ที่ช่วยเพิ่มความรู้ทางด้านการทำธุรกิจ และช่วยการnetworkingของคนในชมรม หรือ ชมรมตามเชื้อชาติต่างๆก็มี เช่น South East Asia Club ที่รวมนักเรียนชาวเอเชียไว้ด้วยกัน
นอกจากนี้กลุ่มนักเรียนยังมีการรวมตัวจัดงาน Confernce ที่เชิญ Speaker ชื่อดังมาพูดให้ความรู้อีกด้วย เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเพื่อนเลย
การเรียนต่อและทำงานที่ต่างประเทศสวยหรูอย่างที่ใครเขาพูดกันหรือไม่
คุณนิชากล่าวว่า ความสามารถในการปรับตัวนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่สำหรับเธอนั้น เธอคิดว่าเธอได้ความรู้สึกที่ครบรสเลย ไม่ว่าจะเป็น สุข เศร้า เหงา ร้องไห้
“การไปเรียนต่างแดน ไม่ใช่แค่การไปเที่ยว ไม่ได้มีแต่ด้านสวยหรู มันก็มีมุมเครียดเหมือนกัน เพราะเรามาจากต่างเมือง มาตัวคนเดียว และมีความกดดันในคลาสเรียน เพราะเราจะเจอแต่คนเก่ง ๆ จากทั่วโลก”
และเมื่อเรียนจบแล้ว คุณนิชาได้พูดถึงความเครียดในการหางาน เพราะที่อเมริกา หางานค่อนข้างยาก เพราะเราไม่ได้เป็น Citizen ที่นั้น และบางงานก็สงวนเอาไว้ในคนอเมริกันทำเท่านั้น เรามาด้วยวีซ่านักเรียนทำให้ทำงานต่อได้อีกแค่ปีเดียว เราจึงต้องหางานจากบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีสวัสดิการในการทำวีซ่าให้ด้วย
เราควรจะไปเรียนต่อไหม หรือ ทำงานก่อนดี
ขึ้นอยู่กับตัวเราว่า เรารู้ตัวรึยังว่าอยากทำงานแบบไหน สายงานไหน ถ้ารู้ตัวแล้ว มั่นใจแล้ว สามารถไปทำงานได้เลย แต่หากเรารู้ว่าเราชอบอยู่แล้ว แต่เราอยากที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ ก็สามารถจะไปเรียนต่อให้ได้ความรู้อย่างลึกที่สุด ถึงจะทำงาน หรือ ถ้าเราอยากลงสนามการทำงานจริงแล้ว หรือยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ก็ทำงานหาประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอสิ่งที่ตนสนใจก็ได้
การทำงานที่google เป็นอย่างไรกันนะ?
คุณนิชาเล่าว่า ทาง Google กำลังมองหาตำแหน่ง Consulting อยู่พอดี และเธอเองได้มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนจากประเทศไทย เธอจึงได้รับโอกาสเข้ามาทำในตำแหน่งนี้
แต่เธอเพิ่งจะได้เข้ามาทำงานในช่วงCOVID-19 ระบาดที่ผ่านมา จึงได้แต่ Work From Home อยู่ที่บ้าน ทั้ง ๆ ที่บริษัทระดับโลกอย่าง Google มีสวัสดิการให้มากมายในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็น ห้องนวด ฟิตเนส อาหารฟรี และ อื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะ WFH แต่เพื่อน ๆ ที่ทำงานจะให้ความร่วมมือ ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ในอนาคตหากสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น เธอจะได้เข้าไปทำงานที่บริษัทอย่างแน่นอน เพราะ Google เชื่อว่า การที่เราทำงานในออฟฟิสจะช่วยให้เรามีความCreative และ Productive มากกว่า
สำหรับคนที่ตัดสินใจจะไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนเดินทาง
คุณนิชาแนะนำว่าเราต้องมีความใจกว้าง เพราะที่นี้ไม่ใช่บ้านเรา คนที่นี้จะ individualistic มาก ๆ หากใครที่กลัวจะไม่คุ้นชินกับวิถีชิวิตของคนที่นี่ แนะนำให้ดูหนังก่อนมาได้เพื่อสร้างความคุ้นเคย หรือเมื่อมาถึงแล้วลองหาเพื่อนที่เป็นต่างชาติเหมือนกัน หรือคนไทยด้วยกัน เพราะเราจะเข้าอกเข้าใจกันดี
เราสามารถหาได้ตามกลุ่มใน Facebook เช่น กลุ่มคนไทยใน Boston หรือ กลุ่มคนไทยใน LA และยังช่วยคลายเหงาให้เราได้อีกด้วย การทำอาหารก็เป็นอีกทักษะที่ควรมี เพราะร้านอาหารไทยที่นี้อาจหายากได้ แล้วแต่เมือง และมีราคาที่แพงมาก
สุดท้ายนี้คุณนิชา ได้ฝากถึงเพื่อนๆที่อยากจะไปเรียนที่ต่างประเทศว่า ให้หมั่นถามตัวเองว่า เราอยากทำอะไรในชีวิต ตามหาความชอบของตัวเองให้เจอ และเราจะต้องทำอย่างไรให้บรรลุเป้าหมายนั้นในการทำงานควรเลือกสิ่งที่เราชอบเรียนจริง ๆ เพราะใบปริญญานั้น จะช่วยเราหางานไปทั้งชีวิตของเราเลย
สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจบทความเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน ทักษะที่จำเป็นในอนาคต สามารถลงทะเบียนเพื่อรับอัพเดทข้อมูลข่าวสาร และบทความในอนาคต จาก ConNEXT ได้ ที่นี่ https://bit.ly/3xKvJtn
ติดต่อร่วมงานกับ ConNEXT ได้ที่อีเมล [email protected]