จากการสำรวจโดย InterNations ซึ่งเป็นชุมชนออนไลน์ของชาวต่างชาติที่มีสมาชิกมากกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 12,000 มองว่า ‘กัวลาลัมเปอร์’ เป็นเมืองอันดับต้นๆ ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยและย้ายไปทำงานต่างประเทศในปี 2021
‘กัวลาลัมเปอร์’ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซียอยู่ในอันดับแรกจาก 57 เมืองทั่วโลก ‘มาลากา’ เมืองตอนใต้ของสเปน และ ‘ดูไบ’ เมืองในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อยู่ในอันดับที่สองและสามตามลำดับ
การสำรวจนี้เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 โดยให้ชาวต่างชาติให้คะแนนความพึงพอใจใน 4 เรื่องหลักๆ คือ คุณภาพชีวิต เช่น สภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและระบบ WiFi ที่ดี ความสะดวกในการใช้ชีวิต เช่น อุปสรรคด้านภาษาและความเป็นกันเองของคนในพื้นที่ การเงิน เช่น การเข้าถึงระบบบริการสุขภาพในราคาไม่แพง และการทำงาน เช่น ความมั่นคงของงานและความมั่นคงของเศรษฐกิจในประเทศ
ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในสามเมืองที่ได้กล่าวไปข้างต้นได้กล่าวว่า การตั้งรกรากและหาเพื่อนใหม่ๆ ที่นั่นเป็นเรื่องง่าย ชาวต่างชาติในกัวลาลัมเปอร์และมาลากาพอใจกับค่าครองชีพที่ไม่แพงและสามารถจัดการกับการเงินของตัวเองได้ และชาวต่างชาติในมาลากาและดูไบรู้สึกว่าตัวเองมีคุณภาพชีวิตที่ดี
มาดูกันว่า 10 เมืองที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยและย้ายไปทำงานในต่างประเทศมีอะไรบ้าง
1. กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
85% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
78% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
65% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
71% พอใจกับการทำงาน
72% พอใจกับการมี Work-life balance
78% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
2. มาลากา ประเทศสเปน
86% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
86% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
69% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
48% พอใจกับการทำงาน
62% พอใจกับการมี Work-life balance
81% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
3. ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
72% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
31% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
59% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
65% พอใจกับการทำงาน
56% พอใจกับการมี Work-life balance
81% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
4. ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
82% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
28% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
53% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
77% พอใจกับการทำงาน
78% พอใจกับการมี Work-life balance
89% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
5. สิงคโปร์
79% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
21% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
56% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
71% พอใจกับการทำงาน
78% พอใจกับการมี Work-life balance
89% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
6. นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
89% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
84% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
77% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
88% พอใจกับการทำงาน
79% พอใจกับการมี Work-life balance
60% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
7. ปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก
80% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
61% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
52% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
74% พอใจกับการทำงาน
79% พอใจกับการมี Work-life balance
84% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
8. เม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก
83% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
75% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
73% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
71% พอใจกับการทำงาน
58% พอใจกับการมี Work-life balance
62% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
9. บาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
71% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
23% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
42% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
79% พอใจกับการทำงาน
76% พอใจกับการมี Work-life balance
92% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
10. มาดริด ประเทศสเปน
80% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
67% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
68% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
60% พอใจกับการทำงาน
66% พอใจกับการมี Work-life balance
89% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
ความพึงพอใจโดยเฉลี่ยจากชาวต่างชาติทั่วโลก
75% รู้สึกพอใจกับชีวิตทั่วไป
48% รู้สึกพอใจกับค่าครองชีพ
48% บอกว่าหาเพื่อนใหม่ง่าย
68% พอใจกับการทำงาน
66% พอใจกับการมี Work-life balance
71% พอใจกับคุณภาพของการรักษาพยาบาล
สุดท้ายนี้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงผลสำรวจจากชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ ซึ่งอาจเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจได้เพียงด้านหนึ่งเท่านั้น แต่ก็สามารถนำมาเป็นข้อมูลคร่าวๆ ในการค้นหาประเทศที่มีคุณภาพชีวิตที่เหมาะกับคุณได้
ที่มา: CNBC