หลังเรียนจบมหาวิทยาลัย เด็กจบใหม่ต่างก็เจอกับคำถามที่ว่า “เมื่อไหร่จะมีงานทำ” พร้อมได้รับคำแนะนำการทำงานมากมายจากผู้ใหญ่ที่เคยผ่านโลกการทำงานครั้งแรกมาก่อน
แม้ว่าผู้ใหญ่รอบตัวเราจะให้คำแนะนำด้วยความหวังดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคำแนะนำนั้นจะดีเสมอไป เพราะบางสิ่งบางอย่างก็เป็นเรื่องที่อาจเคยใช้ได้ในสมัยก่อน แต่ใช้ไม่ได้ในตอนนี้แล้ว มาดูกันว่า คำแนะนำการทำงาน ‘ล้าสมัย’ จากผู้ใหญ่ ที่เด็กจบใหม่ไม่อยากได้ยินมีอะไรบ้าง
1. ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน
เมื่อเรียนจบมาใหม่ๆ ผู้ใหญ่หลายคนต่างก็บอกว่ามีงานอะไรก็ทำๆ ไปก่อน แต่แนวคิดนี้มีผลเสียมากกว่าที่คิด เพราะเราจ่ายเงินค่าเรียนไปกับการเรียนปริญญาตรีเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เด็กจบใหม่อย่างเราก็มีความหวังที่ว่าจะได้ทำงานที่ตัวเองชื่นชอบและได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม ถ้าเราไม่เลือกงานแล้วต้องเจอกับงานที่ไม่ชอบ สิ่งนั้นก็จะส่งผลเสียต่อทุกด้านในชีวิต ตั้งแต่เสียเวลา ไปจนถึงเสียสุขภาพจิตกับชีวิตการทำงานที่ไม่ชอบ
2. ทำงานไม่ถึงปี ไม่ควรลาออก
ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตามหลังเรียนจบ เรามักจะได้ยินคำว่า “ทำงานไม่ถึงปีไม่ควรลาออก” จากผู้ใหญ่ โดยเขาจะให้เหตุผลว่า ถ้าทำงานไม่ถึงปีแล้วลาออก จะทำให้เราดูเป็นคนที่ไม่สามารถอดทนกับอะไรได้นาน
แต่คำแนะนำนี้เป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะเราจะทนทุกข์อยู่ในที่ทำงานที่ไม่เหมาะสมกับตัวเองไปทำไม แน่นอนว่าเราคงไม่อยากลาออกจากงานแย่ๆ หลังทำงานได้ไม่นานหรอก แต่ถ้าเรามีอะไรที่อยากทำต่อไปแล้ว ก็ไม่ต้องรอให้ถึงหนึ่งปีแล้วค่อยลาออกก็ได้
3. ลำบากวันนี้ สบายวันหน้า
หลายคนอาจมองว่าการทำงานหนัก จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จในภายภาคหน้า แต่การขยันทำงานแบบผิดที่ผิดทาง อีก 10 ปีก็ไม่มีทางรวย เราสามารถเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้ดีกว่าการทำงานหนักที่จะทำให้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตย่ำแย่ลง เช่น การสร้างคอนเนคชัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือลูกค้าต่างก็มีส่วนส่งเสริมและให้โอกาสเราได้พัฒนาต่อไปข้างหน้า
อย่าเชื่อว่าแค่ทำงานหนักแล้วจะสบาย แต่จงจำไว้ว่า ‘Work smart not work hard’ เพราะการทำงานอย่างชาญฉลาดจะนำไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
4. จบมาแล้วต้องทำงานตรงสาย
หากลองสังเกตคนทำงานในโลกปัจจุบันดูก็จะรู้ว่ามีหลายคนที่เลือกทำงานไม่ตรงสาย แต่ก็ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย เราสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองในการหางานสายอื่นและพัฒนาทักษะ รวมถึงคุณสมบัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปไกล การอัปสกิลจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ตัวอย่างเช่น หากเราอยากทำงานด้านประชาสัมพันธ์ แต่หางานไม่ได้สักที ก็ให้ลองหางานด้านอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้อง เช่น การตลาด หลังจากนั้นก็ให้เรียนรู้จากงานนั้นให้มากที่สุด และต่อมาหากเจองานประชาสัมพันธ์ที่น่าสนใจ เราก็จะมีคุณสมบัติในการสมัครงานมากขึ้น
เส้นทางสู่ความสำเร็จของคนเราไม่ได้เป็นเส้นตรงเสมอไป ดังนั้นทั้งผู้ใหญ่ที่คอยสอนคนอื่นด้วยความคิดแบบล้าสมัยและเด็กจบใหม่เอง ควรเปิดใจให้กว้างเข้าไว้
5. เลือกงานที่มีความมั่นคง
แม้ว่าการมีงานที่มั่นคงจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตการทำงาน โดยเฉพาะตอนที่เราเพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ และกำลังอยู่ในช่วงปรับตัว
คำแนะนำนี้เป็นคำแนะนำที่ดี แต่ก็ไม่ดีไปพร้อมๆ กัน เพราะส่วนใหญ่คนที่แนะนำเด็กจบใหม่แบบนี้จะเป็นคนที่มีความมั่นคงในชีวิตแล้ว จึงส่งต่อความเชื่อและสิ่งที่ตัวเองเคยผ่านมาไปสู่คนอื่น
แต่อย่าลืมว่าทุกคนมีพื้นฐานชีวิตและแนวคิดการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเจอสิ่งที่ชอบ แม้งานนั้นจะไม่ได้มีความมั่นคงมาก แต่เขาก็มีความสุขในการทำงานทุกวัน หรือบางคนอาจจะต้องทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองไปก่อนจนกว่าจะมีงานที่ดีกว่านี้เข้ามาก็ได้
อ้างอิง Business Insider, Forbes, Fast Company