เมื่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อย่าง Omicron เข้ามาสร้างความน่ากังวลให้กับคนทั่วโลก ทำให้บางบริษัท เช่น Google ได้เลื่อนแผนการให้พนักงานกลับออฟฟิศออกไป และตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคมเป็นต้นไป พนักงานในประเทศอังกฤษจะต้องทำงานจากที่บ้านถ้าเป็นไปได้
แต่พนักงานทั้งหลายกำลังบ่นว่าพวกเขากำลัง Burnout จากการประชุมทางวิดีโอติดๆ กัน ซึ่งอาการนี้เรียกได้ว่าเป็น Zoom Fatigue
Nick Bloom ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับการทำงานทางไกลมา 20 ปี และในช่วงการระบาดของโควิด-19 เขายังได้ร่วมก่อตั้ง The Survey of Working Attitudes and Arrangements ซึ่งเป็นการติดตามทัศนคติต่อการทำงานทางไกล
Bloom กล่าวว่า ถ้าพนักงานต้องทำงานที่บ้านเต็มเวลา ก็อาจทำให้ Zoom Fatigue เป็นหนึ่งในความท้าทายของคนที่ทำงานทางไกล
นอกจากนี้ Bloom ยังกล่าวในงาน Insider's Global Trends Festival อีกว่า การใช้ Zoom เหมาะกับการพูดคุยตัวต่อตัว ไม่เหมาะกับการที่มีคน 30 คน แต่มีคนพูดอยู่เพียงคนเดียว
จากการวิจัยของ Bloom พบว่า การพูดคุยใน Zoom ที่มีคนแค่ 4 คนจะทำให้มีประสิทธิภาพ เพราะถึงแม้จะไม่ดีเท่าการเจอตัวเป็นๆ แต่ก็ยังสามารถเห็นสีหน้าของกันและกันได้ และยังสามารถพูดคุยได้ตลอดโดยไม่ต้องปิดเสียง
แต่การประชุมแบบมี 10 คนขึ้นไป จะทำให้ไม่สามารถเห็นหน้าคนอื่นได้ครบ และยังต้องปิดเสียงตลอดด้วย ถ้าต้องการใช้ Zoom เพื่อพบปะผู้คน ควรกำหนดการพูดคุยกันเป็นแบบ 1:1 หรือ 1:2 แทนการโทรทีเดียว 20 คน
นอกจากการลดจำนวนคนในการประชุมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำคือ การลดจำนวนการประชุม และการปิดกล้องในการประชุม ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยป้องกันความเหนื่อยล้าจากการประชุมออนไลน์ได้
ในท้ายที่สุด Zoom ก็ไม่ได้มีแค่ข้อเสียอย่างเดียว เพราะ Zoom สามารถทำให้เราทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าต้องใช้อีเมลหรือโทรศัพท์ในการทำงานเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนก็คงจะมีความลำบากในการทำงานมากกว่าตอนนี้ก็เป็นได้
ที่มา - Business Insider