SEAC จับมือ ทูตฟินแลนด์ และ Code School Finland ร่วมกันผลักดันการศึกษาไทยให้ไปไกลกว่าเดิม โดยการพัฒนาการสอนครูด้วยหลักสูตรจาก Code School Finland เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักเรียนทุกช่วงวัย เพราะคนเรามีความรู้แบบเดิมๆ ไม่ได้อีกต่อไป แต่ต้องมีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกการทำงานในอนาคต
SEAC คืออะไร?
คุณอริญญา เถลิงศรี ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ SEAC เล่าว่า เมื่อก่อนเป็นคนเรียนหนังสือไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ แต่มีโอกาสได้ไปเรียนที่ประเทศแคนาดาตอนเรียนจบมัธยมปลาย แล้วรู้สึกว่าระบบและรูปแบบการสอนที่นั่นสามารถจุดประกายความฝันให้เด็กได้ ทำให้คิดขึ้นมาว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เนื้อหาที่เรียน แต่เป็นวิธีการเรียนการสอน ในขณะที่เด็กไทยก็เป็นเด็กที่มีคุณภาพแต่สภาพแวดล้อมทางด้านการศึกษาอาจจะไม่เอื้อเท่าไหร่ หลังจากเรียนจบจึงมุ่งมั่นอยากเข้ามาผลักดันการศึกษาของประเทศไทย
โดยเริ่มแรก SEAC มุ่งไปที่ภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจต่างๆ ก่อน เพื่อสร้างคนทำงานให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีสากล แต่รู้สึกว่าอาจจะยกระดับศักยภาพของผู้คนไม่ทันการกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วถ้ามุ่งเน้นแค่ธุรกิจ บริษัท หรือหน่วยงานรัฐ
ทำให้ตัดสินใจก้าวเข้ามาทำงานร่วมกับภาคการศึกษาในประเทศ และเข้าร่วมพัฒนาหลักสูตรกับมหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่างๆ ต่อมาก็หันมาให้ความสำคัญที่ตัวเด็กด้วยว่าจะทำอย่างไรให้เด็กไทยก้าวเข้าสู่เวทีระดับโลกได้ และไม่ใช่แค่เก่งเรื่องเรียนอย่างเดียว แต่เก่งเรื่องการใช้ชีวิตด้วย SEAC จึงเฟ้นหาพันธมิตรที่จะสามารถเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้ ซึ่งสถาบันที่อยู่อันดับหนึ่งในใจจากทั้งหมด 94 สถาบันคือ Code School Finland
Code School Finland สถาบันสอนทักษะแห่งอนาคตระดับโลก
สาเหตุที่ SEAC ตัดสินใจจับมือกับ Code School Finland เพราะสถาบันนี้เน้นการสร้างครู โดยครูไม่จำเป็นต้องเก่งเรื่องที่สอนจนถึงขั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ต้องเป็นคนที่มีวิธีในการถ่ายทอดความรู้และเข้าถึงนักเรียนได้ เพื่อให้สามารถพัฒนาทักษะแห่งอนาคตให้กับนักเรียนได้อย่างเป็นวงกว้าง ซึ่งจะมีทั้งส่วนที่เป็น Hard Skills หรือทักษะเชิงเทคนิค และ ‘Soft’ Transversal Skills หรือทักษะจำเป็นที่นำไปใช้ต่อยอดได้ แน่นอนว่าการยกระดับเรื่องการศึกษาไม่สามารถทำคนเดียวได้ จึงต้องมีภาครัฐ ภาคเอกชน และแพลตฟอร์ม YourNextU ก็จะเข้ามาช่วยยกระดับในเรื่องนี้ด้วย
ยูริ ยาร์วียาโฮ (H.E. Jyri Järviaho) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “จากผลการศึกษาโดย OECD ที่ทำการวิจัยมาเป็นระยะเวลา 20 ปี พบว่า ประเทศฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก แล้วโรงเรียนก็มีการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการศึกษาให้ดียิ่งขึ้นอยู่ตลอด” เพราะฉะนั้นการเรียนในห้องเรียนธรรมดาๆ ไม่พออีกต่อไป แต่จะต้องมีการเรียนการสอนเรื่องทักษะแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี AI และอื่นๆ เพราะสิ่งที่นักเรียนได้เรียนจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในอนาคต
นอกจากนี้ ไคซู พัลลาสกัลลิโอ (Ms. Kaisu Pallaskallio) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของสถาบัน Code School Finland กล่าวเสริมว่า “รูปแบบการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นความรู้ด้านวิธีสอน (Pedagogical Model) ของ Code School Finland ก็ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าวิธีนี้ได้ผลดีต่อผู้เรียนในหลายๆ ประเทศ เช่น สวีเดน สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และอื่นๆ”
โดยหลักสูตรจาก Code School Finland มีทั้งแบบคอร์สที่นำไปปรับใช้ในโรงเรียน ส่วนนักเรียนทั่วไปสามารถสมัครเรียนได้โดยตรงกับ YourNextU by SEAC และจะมีการนำร่องใช้กับโรงเรียนต้นแบบ 12 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนซ์, โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย, โรงเรียนอัสสัมชัญ หลักสูตรภาษาอังกฤษ, โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย, โรงเรียนสารสิทธิ์วิทยา, โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี, โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร, โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย, โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย, โรงเรียนดอนบอสโกวิทยา, โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 นี้เป็นต้นไป
หลักสูตร Code School Finland ที่เปิดให้เรียนในประเทศไทย
- หลักสูตร Code and Create - ระดับเริ่มต้น สำหรับนักเรียนอายุ 9 ปีขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐาน โดยใช้โปรแกรม Scratch เป็นสื่อการสอนหลัก มุ่งเน้นผลลัพธ์ให้เกิดความเข้าใจแนวคิดและฝึกฝนทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สามารถสร้างเรื่องราวที่ตัวละครมีการตอบโต้กัน (Interactive Story) และสร้างเกมส์ในระดับพื้นฐาน (Simple Game) ได้
- หลักสูตร Develop and Test - ระดับกลาง สำหรับนักเรียนอายุ 11 ปีขึ้นไป ต้องมีความรู้พื้นฐานด้าน Code & Create หรือเทียบเท่า ใช้โปรแกรม Scratch เป็นสื่อการสอนหลัก มุ่งเน้นผลลัพธ์ให้เกิดความเข้าใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการออกแบบเกมส์ สามารถสร้างเกมส์เพื่อการเรียนรู้และแอปพลิเคชันโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้
- หลักสูตร Solutions and Syntax – ระดับกลาง สำหรับนักเรียนอายุ 14 ปีขึ้นไป ต้องความรู้พื้นฐาน Code & Create และ Develop & Test หรือเทียบเท่า ใช้โปรแกรม Python เป็นสื่อการสอนหลัก มุ่งเน้นผลลัพธ์ให้ผู้เรียน เข้าใจความจำเป็นของการแก้ปัญหาในโลกเทคโนโลยี สามารถสร้างโปรแกรมที่มีประโยชน์ใช้งานง่ายและสร้างระบบสั่งการอัตโนมัติของหุ่นยนต์ได้ด้วยโปรแกรม Python
สำหรับสถาบันการศึกษาใดที่สนใจหลักสูตร Coding / AI / Robotics สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.yournextu.com/code-school-finland-form