เพื่อน ๆ เคยซื้อของแบบที่ได้ของมาก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลังไหม? ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักวิธีการซื้อของแบบ Buy Now, Pay Later (BNPL) หรือ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง ที่เป็น Options ให้เราเลือกซื้อความสุขได้พริบตาแล้วค่อยไปจ่ายเงินในภายหลัง ช่วยอำนวยความสะดวกในวันที่ช็อตแต่ของจำเป็นดันหมด หรือมีโปรดีจนพลาดไม่ได้ แต่เอ๊ะ! แล้วเจ้า BNPL แตกต่างกับการใช้บัตรเครดิตอย่างไรนะ?
รู้จัก Buy Now, Pay Later (BNPL) หรือ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง
ไม่กี่ปีมานี้ บริการซื้อก่อน จ่ายทีหลังหรือ BNPL ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เพราะแพลตฟอร์มที่มีการบริการแบบ BNPL ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมรายปี ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน และมักจะมีวิธีการชำระเงินให้เลือกแบบยืดหยุ่น ทั้งชำระงวดเดียวในเดือนต่อไป หรือแบ่งชำระเงินเป็นงวด(อาจมีการคิดดอกเบี้ยเพิ่มเติม) ซึ่งหากเป็นร้านค้าที่ร่วมรายการ ในบางครั้งก็สามารถแบ่งชำระได้แบบไม่มีดอกเบี้ย เช่น การผ่อนชำระ 0% สูงสุด 6-12 เดือน เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละแพลตฟอร์ม
ทำให้ BNPL เป็นฟีเจอร์ที่สอดคล้องกับความต้องการอิสรภาพทางการเงินของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น ความโปร่งใสในการทำธุรกรรมทางการเงิน และต้องการหลีกเลี่ยงภาระผูกพันระยะยาว แถมการสมัครและอนุมัติสินเชื่อ BNPL ยังง่ายกว่าแบบบัตรเครดิตอีกด้วย เพราะทางแพลตฟอร์มที่ปล่อยสินเชื่อจะอ้างอิงจากพฤติกรรมในการใช้จ่ายของเราที่ผ่านมา แล้วกำหนดเครดิตวงเงินให้ซึ่งแต่ละคนจะได้วงเงินไม่เท่ากัน
ข้อดีของ BNPL
- ความโปร่งใส: โดยทั่วไปบริการ BNPL เสนอข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ตรงไปตรงมา ทำให้มือใหม่ก็สามารถทำความเข้าใจการชำระเงินของตนได้ง่ายขึ้น โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงหรือโครงสร้างดอกเบี้ยที่ซับซ้อน
- ผ่อน 0%: แพลตฟอร์ม BNPL หลายแห่งมีแผนผ่อนชำระแบบปลอดดอกเบี้ย เช่น ผ่อน 0% 10 เดือน ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถวางแผนการชำระเงินได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ไม่มีการตรวจสอบเครดิต: บริการ BNPL ต่างจากบัตรเครดิตตรงที่ไม่มีการตรวจสอบเครดิตแบบดั้งเดิมที่ต้องยื่น Statement หรือตรวจสอบเครดิตทางการเงิน ทำให้เพื่อน ๆ ที่ไม่เคยมีบัตรเครดิตก็สามารถใช้งานได้
ข้อเสียของ BNPL
- ค่าธรรมเนียมเมื่อชำระล่าช้า: การพลาดกำหนดเวลาการชำระเงินด้วยบริการ BNPL อาจส่งผลให้เกิดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นได้ และอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมความน่าเชื่อถือทางเครดิตของเพื่อน ๆ ได้
- ล่อใจให้ใช้จ่ายเกินตัว: ด้วยความสะดวกในซื้อก่อน จ่ายทีหลัง อาจทำให้เผลอซื้อของมากเกินตัว แม้แต่ละยอดจะดูไม่เยอะ แต่พอต้องมารวมยอดที่ต้องชำระก็อาจทำให้เพื่อน ๆ หน้าซีดกันไปเลยทีเดียว
รู้จักบัตรเครดิต
บัตรเครดิต ตัวเลือกทางการเงินสำหรับคนที่อยากใช้จ่ายอย่างคล่องตัว โดยมีวงเงินเครดิตตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของบัตรแต่ละประเภท โดยอ้างอิงตามความสามารถในการผ่อนชำระจาก Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของแต่ละบุคคล สามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการได้อย่างหลากหลาย
ข้อดีของบัตรเครดิต
- สร้างประวัติเครดิต: การใช้บัตรเครดิตอย่างมีความรับผิดชอบสามารถช่วยให้คนรุ่นใหม่สามารถสร้างประวัติเครดิตของตัวเองได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการกู้ซื้อบ้านและซื้อรถในอนาคตได้
- รางวัลและสิทธิพิเศษ: บัตรเครดิตหลายใบ มีโปรโมชั่น สะสมคะแนน แลกคะแนน Cashback และสิทธิพิเศษอื่น ๆ ทำให้บางครั้งการใช้บัตรเครดิตก็ได้สิทธิประโยชน์ที่มากกว่า
- การใช้ฉุกเฉิน: บัตรเครดิตเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในกรณีฉุกเฉิน ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงเงินได้ทันทีเมื่อจำเป็นต้องใช้
ข้อเสียของบัตรเครดิต
- อัตราดอกเบี้ย: บัตรเครดิตมักมาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า โดยเฉพาะคนที่มีเครดิตจำกัด ทำให้จำเป็นต้องชำระยอดให้เต็มจำนวนในแต่ละเดือน
- การสะสมหนี้: นิสัยทางการเงินที่ไม่ดีอาจนำไปสู่หนี้บัตรเครดิต ซึ่งส่งผลเสียต่อความเป็นอยู่ทางการเงินของเพื่อน ๆ ได้
สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้อย่างชาญฉลาด
แม้ว่า BNPL และบัตรเครดิตจะมีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาเป้าหมายทางการเงิน พฤติกรรมการใช้จ่าย และระดับความรับผิดชอบทางการเงินของเรา และนี่คือปัจจัยที่ควรพิจารณา
- เป้าหมายทางการเงิน: พิจารณาว่าเป้าหมายทางการเงินของเราคืออะไร? คือ จัดการกับการหมุนเวียนเงินสด การสร้างเครดิตหรือการสิทธิใช้ประโยชน์จาก Cashback และสิทธิพิเศษ
- นิสัยการใช้จ่าย: ประเมินพฤติกรรมการใช้จ่ายส่วนบุคคลเพื่อพิจารณาว่าตัวเลือกไหนสอดคล้องกับความสามารถในการชำระเงินให้ตรงเวลาและหลีกเลี่ยงการสะสมหนี้ได้ดีกว่า
- ด้านดอกเบี้ย: ระวังอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต และค่าธรรมเนียมล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นกับบริการ BNPL
สรุป
บริการ Buy Now, Pay Later (BNPL) หรือ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง อาจเหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยมีประวัติบัตรเครดิตและต้องการหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยสูง ๆ ซึ่งแผนการชำระเงินอาจไม่ได้ปลอดดอกเบี้ยเสมอไปซึ่งต้องเช็กให้ละเอียด และต้องยอมรับว่าบริการนี้อาจจะช่วยสร้างเครดิตแค่ภายในแพลตฟอร์มที่ใช้บริการ แต่ไม่ได้ช่วยสร้างประวัติเครดิตที่สามารถกู้บ้าน รถ หรือเงินก้อนในอนาคตกับธนาคารได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เผลอซื้อของมากเกินตัวได้อีกด้วย
บัตรเครดิตอาจเป็นตัวเลือกที่ดี หากเพื่อน ๆ มีรายได้ประจำและสามารถชำระบัตรได้ทุกเดือน ด้วยการใช้บัตรเครดิตจะทำให้เพื่อน ๆ สร้างประวัติเครดิตซึ่งสามารถช่วยในกรณีที่ต้องทำธุรกรรมกับธนาคารได้ เช่น การซื้อรถหรือบ้านได้
สุดท้ายนี้สำหรับคนรุ่นใหม่ การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างบริการ Buy Now, Pay later และบัตรเครดิตเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล เป้าหมายทางการเงิน และการจัดการทางการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ
แม้ว่าบริการ BNPL จะให้ความยืดหยุ่นและโปร่งใส แต่บัตรเครดิตก็ให้โอกาสในการสร้างเครดิต รับ Cashback และเข้าถึงโปรโมชั่นที่หลากหลายกว่า ท้ายที่สุดแล้ว ConNEXT หวังว่าด้วยข้อมูลที่เรารวบรวมมาให้ จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถตัดสินใจ ใช้เงินอย่างมีสติ และช่วยให้คนรุ่นใหม่นำตัวเลือกในทางการเงินไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดนะ
อ้างอิง : investopedia, cnbc