Buy Now, Pay Later vs Credit Cards แบบไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่มากกว่ากัน! | Techsauce
talentsauce logo
ฝากประวัติ ค้นหา Tech Talent Talent Insights Job Hack Life Hacks News Video Podcast
Buy Now, Pay Later vs Credit Cards แบบไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่มากกว่ากัน!
By Chanapa Siricheevakesorn ธันวาคม 10, 2023
share facebook icon share facebook icon hover share x icon share x icon hover share line icon share line icon hover share icon share icon hover

เพื่อน ๆ เคยซื้อของแบบที่ได้ของมาก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลังไหม? ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักวิธีการซื้อของแบบ Buy Now, Pay Later (BNPL) หรือ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง ที่เป็น Options ให้เราเลือกซื้อความสุขได้พริบตาแล้วค่อยไปจ่ายเงินในภายหลัง ช่วยอำนวยความสะดวกในวันที่ช็อตแต่ของจำเป็นดันหมด หรือมีโปรดีจนพลาดไม่ได้ แต่เอ๊ะ! แล้วเจ้า BNPL แตกต่างกับการใช้บัตรเครดิตอย่างไรนะ?

Buy Now, Pay Later vs Credit Cards แบบไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่มากกว่ากัน!

รู้จัก Buy Now, Pay Later (BNPL) หรือ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง 

ไม่กี่ปีมานี้ บริการซื้อก่อน จ่ายทีหลังหรือ BNPL ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เพราะแพลตฟอร์มที่มีการบริการแบบ BNPL ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมรายปี ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน และมักจะมีวิธีการชำระเงินให้เลือกแบบยืดหยุ่น ทั้งชำระงวดเดียวในเดือนต่อไป หรือแบ่งชำระเงินเป็นงวด(อาจมีการคิดดอกเบี้ยเพิ่มเติม) ซึ่งหากเป็นร้านค้าที่ร่วมรายการ ในบางครั้งก็สามารถแบ่งชำระได้แบบไม่มีดอกเบี้ย เช่น การผ่อนชำระ 0% สูงสุด 6-12 เดือน เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละแพลตฟอร์ม 

ทำให้ BNPL เป็นฟีเจอร์ที่สอดคล้องกับความต้องการอิสรภาพทางการเงินของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น ความโปร่งใสในการทำธุรกรรมทางการเงิน และต้องการหลีกเลี่ยงภาระผูกพันระยะยาว แถมการสมัครและอนุมัติสินเชื่อ BNPL ยังง่ายกว่าแบบบัตรเครดิตอีกด้วย เพราะทางแพลตฟอร์มที่ปล่อยสินเชื่อจะอ้างอิงจากพฤติกรรมในการใช้จ่ายของเราที่ผ่านมา แล้วกำหนดเครดิตวงเงินให้ซึ่งแต่ละคนจะได้วงเงินไม่เท่ากัน

ข้อดีของ BNPL

  • ความโปร่งใส: โดยทั่วไปบริการ BNPL เสนอข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ตรงไปตรงมา ทำให้มือใหม่ก็สามารถทำความเข้าใจการชำระเงินของตนได้ง่ายขึ้น โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงหรือโครงสร้างดอกเบี้ยที่ซับซ้อน
  • ผ่อน 0%: แพลตฟอร์ม BNPL หลายแห่งมีแผนผ่อนชำระแบบปลอดดอกเบี้ย เช่น ผ่อน 0% 10 เดือน ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถวางแผนการชำระเงินได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • ไม่มีการตรวจสอบเครดิต: บริการ BNPL ต่างจากบัตรเครดิตตรงที่ไม่มีการตรวจสอบเครดิตแบบดั้งเดิมที่ต้องยื่น Statement หรือตรวจสอบเครดิตทางการเงิน ทำให้เพื่อน ๆ ที่ไม่เคยมีบัตรเครดิตก็สามารถใช้งานได้

ข้อเสียของ BNPL

  • ค่าธรรมเนียมเมื่อชำระล่าช้า: การพลาดกำหนดเวลาการชำระเงินด้วยบริการ BNPL อาจส่งผลให้เกิดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นได้ และอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมความน่าเชื่อถือทางเครดิตของเพื่อน ๆ ได้
  • ล่อใจให้ใช้จ่ายเกินตัว: ด้วยความสะดวกในซื้อก่อน จ่ายทีหลัง อาจทำให้เผลอซื้อของมากเกินตัว แม้แต่ละยอดจะดูไม่เยอะ แต่พอต้องมารวมยอดที่ต้องชำระก็อาจทำให้เพื่อน ๆ หน้าซีดกันไปเลยทีเดียว

รู้จักบัตรเครดิต

บัตรเครดิต ตัวเลือกทางการเงินสำหรับคนที่อยากใช้จ่ายอย่างคล่องตัว โดยมีวงเงินเครดิตตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของบัตรแต่ละประเภท โดยอ้างอิงตามความสามารถในการผ่อนชำระจาก Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของแต่ละบุคคล สามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการได้อย่างหลากหลาย 

ข้อดีของบัตรเครดิต

  • สร้างประวัติเครดิต: การใช้บัตรเครดิตอย่างมีความรับผิดชอบสามารถช่วยให้คนรุ่นใหม่สามารถสร้างประวัติเครดิตของตัวเองได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการกู้ซื้อบ้านและซื้อรถในอนาคตได้
  • รางวัลและสิทธิพิเศษ: บัตรเครดิตหลายใบ มีโปรโมชั่น สะสมคะแนน แลกคะแนน Cashback และสิทธิพิเศษอื่น ๆ ทำให้บางครั้งการใช้บัตรเครดิตก็ได้สิทธิประโยชน์ที่มากกว่า
  • การใช้ฉุกเฉิน: บัตรเครดิตเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในกรณีฉุกเฉิน ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงเงินได้ทันทีเมื่อจำเป็นต้องใช้

ข้อเสียของบัตรเครดิต

  • อัตราดอกเบี้ย: บัตรเครดิตมักมาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า โดยเฉพาะคนที่มีเครดิตจำกัด ทำให้จำเป็นต้องชำระยอดให้เต็มจำนวนในแต่ละเดือน
  • การสะสมหนี้: นิสัยทางการเงินที่ไม่ดีอาจนำไปสู่หนี้บัตรเครดิต ซึ่งส่งผลเสียต่อความเป็นอยู่ทางการเงินของเพื่อน ๆ ได้

สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้อย่างชาญฉลาด

แม้ว่า BNPL และบัตรเครดิตจะมีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาเป้าหมายทางการเงิน พฤติกรรมการใช้จ่าย และระดับความรับผิดชอบทางการเงินของเรา และนี่คือปัจจัยที่ควรพิจารณา

  • เป้าหมายทางการเงิน: พิจารณาว่าเป้าหมายทางการเงินของเราคืออะไร? คือ จัดการกับการหมุนเวียนเงินสด การสร้างเครดิตหรือการสิทธิใช้ประโยชน์จาก Cashback และสิทธิพิเศษ
  • นิสัยการใช้จ่าย: ประเมินพฤติกรรมการใช้จ่ายส่วนบุคคลเพื่อพิจารณาว่าตัวเลือกไหนสอดคล้องกับความสามารถในการชำระเงินให้ตรงเวลาและหลีกเลี่ยงการสะสมหนี้ได้ดีกว่า
  • ด้านดอกเบี้ย: ระวังอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต และค่าธรรมเนียมล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นกับบริการ BNPL

สรุป

บริการ Buy Now, Pay Later (BNPL) หรือ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง อาจเหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยมีประวัติบัตรเครดิตและต้องการหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยสูง ๆ ซึ่งแผนการชำระเงินอาจไม่ได้ปลอดดอกเบี้ยเสมอไปซึ่งต้องเช็กให้ละเอียด และต้องยอมรับว่าบริการนี้อาจจะช่วยสร้างเครดิตแค่ภายในแพลตฟอร์มที่ใช้บริการ แต่ไม่ได้ช่วยสร้างประวัติเครดิตที่สามารถกู้บ้าน รถ หรือเงินก้อนในอนาคตกับธนาคารได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เผลอซื้อของมากเกินตัวได้อีกด้วย 

บัตรเครดิตอาจเป็นตัวเลือกที่ดี หากเพื่อน ๆ มีรายได้ประจำและสามารถชำระบัตรได้ทุกเดือน ด้วยการใช้บัตรเครดิตจะทำให้เพื่อน ๆ สร้างประวัติเครดิตซึ่งสามารถช่วยในกรณีที่ต้องทำธุรกรรมกับธนาคารได้ เช่น การซื้อรถหรือบ้านได้ 

สุดท้ายนี้สำหรับคนรุ่นใหม่ การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างบริการ Buy Now, Pay later และบัตรเครดิตเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล เป้าหมายทางการเงิน และการจัดการทางการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ 

แม้ว่าบริการ BNPL จะให้ความยืดหยุ่นและโปร่งใส แต่บัตรเครดิตก็ให้โอกาสในการสร้างเครดิต รับ Cashback และเข้าถึงโปรโมชั่นที่หลากหลายกว่า ท้ายที่สุดแล้ว ConNEXT หวังว่าด้วยข้อมูลที่เรารวบรวมมาให้ จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถตัดสินใจ ใช้เงินอย่างมีสติ และช่วยให้คนรุ่นใหม่นำตัวเลือกในทางการเงินไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดนะ


อ้างอิง : investopediacnbc

No comment

คัดลอก URL

×

https://techsauce.co/talentsauce/personal-finance/which-is-better-for-the-younger-generations-purchasing-habits-buy-now-pay-later-or-credit-cards