การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้เกิดวิกฤตการจ้างงานในหลายๆ ประเทศ ทำให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างทั้งหลายต่างต้องดิ้นรนเพื่อตอบสนองต่อตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป
หลายคนได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการถูกเลิกจ้างหรือการปิดธุรกิจ โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคงหนีไม่พ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
แม้ว่าจะมีอุตสาหกรรมจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ แต่ก็ยังมีอุตสาหกรรมที่สามารถเติบโตขึ้นได้ในช่วงโควิด-19 จนเกิดความต้องการการจ้างงานเป็นจำนวนมาก
แล้วอาชีพสายไหนที่กำลังเป็นที่ต้องการและไม่ต้องกลัวตกงานในปี 2022? ตามมาดูกันได้เลย!
1. อาชีพสายสุขภาพและการแพทย์ (Healthcare)
การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อบุคลากรทางการแพทย์มาก ไม่ว่าจะเป็นการติดไวรัสระหว่างการปฏิบัติงาน หรือการต้องอยู่เวรดูแลผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 เป็นระยะเวลาติดต่อกันหลายเดือน ซึ่งมีผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า คนที่ทำงานในสายงานนี้กว่าหนึ่งในสาม กำลังคิดที่จะลาออกจากงาน
นอกจากนี้ อาชีพทางด้านพยาบาลยังเป็นอาชีพที่ขาดแคลนคนที่มีทักษะมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้อาชีพสายสุขภาพและการแพทย์จะเป็นอาชีพอันดับต้นๆ ที่เป็นที่ต้องการในอนาคต
2. อาชีพสายไอที (Information Technology)
ไอทีเป็นอาชีพที่เติบโตมาหลายปีแล้ว แต่ในปัจจุบันการทำงานทางไกลและการพัฒนาสมาร์ทโฟนมีความสำคัญมากขึ้น ทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันเป็นที่ต้องการมากขึ้นในตลาดแรงงาน
The Bureau of Labor Statistics ได้คาดการณ์ว่า สายงานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์จะเติบโตขึ้นถึง 22% ภายในปี 2030 ซึ่งจะทำให้มีงานเกิดขึ้นกว่า 300,000 ตำแหน่ง พร้อมเงินเดือนที่มากกว่าหกหลัก และสำหรับใครที่เป็น Introvert สายอาชีพนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
3. อาชีพสายการจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management)
การระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดการ Lockdown ขึ้น ส่งผลให้ผู้คนสั่งซื้อของออนไลน์เป็นจำนวนมาก จนทำให้สายอาชีพการจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management) รวมถึงตัวแทนจัดซื้อ (Purchasing Agent) ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ (Logistics Analyst) และผู้จัดการประจำศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Manager) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. อาชีพสายการจัดการด้านการเงิน (Financial Management)
มีการคาดการณ์ว่า อาชีพสายการจัดการด้านการเงิน จะเติบโตถึง 15% ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยผู้จัดการด้านการเงิน (Financial manager) มีหน้าที่ในการตรวจสอบรายรับและรายจ่ายของบริษัท พร้อมมองหาวิธีการทำให้กำไรบริษัทเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ที่ปรึกษาด้านการจัดการ (Management consultant) ก็จะมีอัตราการเติบโตและมีรายได้เฉลี่ยสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
5. อาชีพสายคณิตศาสตร์ประกันภัยและนักสถิติ (Actuarial and Statistician)
อาชีพสายคณิตศาสตร์ประกันภัย จะมีอัตราการเติบโตเกือบๆ 20% ภายในปี 2030 รวมถึงจะมีรายได้มากกว่าหกหลักด้วย โดยส่วนมากนักคณิตศาสตร์ประกันภัยจะทำงานในบริษัทประกันภัย โดยทักษะสำคัญที่เป็นที่ต้องการในสายอาชีพนี้คือ การประเมินความเสี่ยง ใครที่ชอบข้อมูลและสถิติ อาชีพนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก
ส่วนนักสถิติก็มีการคาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 30% ภายในปี 2030 เช่นกัน โดยนักสถิติมีหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลเชิงตัวเลข ช่วยบริษัทวิเคราะห์และคาดการณ์ยอดขาย ผลกำไร และอุปสรรคต่อการเติบโตในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการหางานที่มีรายได้เยอะที่สุด หรือการหางานที่มีการเติบโตสูงที่สุดอาจจะเป็นเรื่องสำคัญในโลกที่กำลังเปลี่ยนไป แต่การพัฒนาทักษะให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเมื่อเราพัฒนาทักษะตัวเองอยู่ตลอด ยังไงก็ไม่มีวันตกงานแน่นอน
ที่มา - Forbes