แม้ว่าการใช้ AI ในการทำงานนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนและหลายคนอาจมีอคติกับ AI ว่าจะมาแย่งงานมนุษย์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า AI ก็มีประโยชน์ต่อการทำงานมากเช่นกัน และยังมีพนักงานอีกหลายคนที่ใช้ AI ในการช่วยทำงาน แต่ทำไม? พนักงานกว่า 42% กลับไม่กล้าบอกเจ้านายว่าพวกเขาใช้ AI ช่วยในการทำงาน มาหาคำตอบไปด้วยกันในบทความนี้
จากผลสำรวจของ Advertising Week Europe (Event ประจำปีที่รวมมืออาชีพจากหลายสายอาชีพเพื่ออัพเดทเทรนด์) เผยว่ามากกว่า 1 ใน 3 ของพนักงานทุกวัย กลัวที่จะเผยว่าพวกเขาใช้ AI ในการทำงาน โดยเฉพาะพนักงานวัย Gen Z กว่า 42% และ Millenial 40% ซึ่งความกลัวนี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่องค์กรต่างไม่มีนโยบายรองรับ AI ในการทำงานที่ชัดเจน จึงทำให้พนักงานไม่มั่นใจว่าควรเปิดเผยดีหรือไม่
ผลสำรวจยังกล่าวอีกว่าพนักงานที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี เคยใช้ AI ในการทำงานเพียงแค่ 31% เท่านั้น ในทางกลับกัน พนักงานที่มีประสบการณ์น้อยกว่า 15 ปี กลับใช้ AI ในการทำงานถึง 62%
โดยองค์กรด้านเทคโนโลยีและการเงินนั้นมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการใช้ AI มากกว่าองค์กรเภสัชกรรม การศึกษา ค้าปลีก และการบริการ ซึ่งยังไม่ค่อยได้นำ AI มาใช้ในการทำงานมากนัก
ทำไมพนักงานถึงไม่กล้าบอกว่าใช้ AI ในที่ทำงาน ?
Ruth Mortimer ประธานของ Advertising Week Europe กล่าวว่า “ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ การที่พนักงานออกมายอมรับว่าใช้ AI ในการทำงานนั้นอาจทำให้พวกเขาต้องเสี่ยงตกงาน ดังนั้นองค์กรควรสนับสนุนให้พนักงานได้พูดอย่างเปิดเผย และทำให้พนักงานเข้าใจว่าการใช้ AI ในการทำงานนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิด”
ตั้งแต่ที่ ChatGPT ได้เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 พนักงานจากหลายสายอาชีพ ต่างใช้แชทบอทนี้ในการช่วยทำงาน เช่น การเขียน E-mail, ทำ Content, จัดการ Social Media รวมไปถึงกลยุทธ์ใยขายอสังหาริมทรัพย์
พนักงานคนหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vice ว่าเขาใช้ ChatGPT ในการทำงานกว่า 80% ซึ่งทำให้เขาสามารถทำงานอย่างอื่นได้มากขึ้นในเวลาเดียวกัน
สรุปแล้วการที่พนักงานไม่กล้าบอกนายจ้างว่าพวกเขาใช้ AI นั้น มาจากการที่องค์กรไม่ตั้งนโยบายรองรับการใช้ AI รวมถึงการมีอคติกับการใช้ AI ดังนั้นองค์กรจึงควรเริ่มตื่นตัวที่จะสร้างนโยบายขึ้นมาเพื่อรองรับ AI และทำให้พนักงานรู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยกับผู้จัดการในเรื่องนี้ได้
เขียนโดย : Weerapat Nenbumroong
อ้างอิง : yahoo