เมื่อพูดถึงการไปเรียนต่อต่างประเทศ หลายคนอาจจะนึกถึงการเรียนต่อปริญญาโท แต่จริง ๆ แล้วการศึกษาในโลกนี้มีตัวเลือกให้เรามากกว่าที่คิด และหนึ่งในนั้นก็คือ ‘Ausbildung’ การเรียนสายอาชีพของประเทศเยอรมนี
บทความวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักว่า Ausbildung คืออะไร พร้อมเจาะลึกประสบการณ์ต่าง ๆ ทั้งการใช้ชีวิตและการเรียนในประเทศเยอรมนี กับคุณกนกวรรณ ศรีอรพิมพ์ หรือคุณบ๋อม ผู้มีประสบการณ์ตรงในการเรียน Ausbildung สายโรงแรม
ทำความรู้จัก Ausbildung
Ausbildung ถ้าเทียบง่าย ๆ กับภาษาไทยก็คือ การเรียนสายอาชีพ ซึ่งจะเป็นการเรียนไปพร้อมกับการฝึกงาน โดยปกติระยะเวลาของการเรียนจะอยู่ที่ 2-3 ปี แตกต่างกันไปในแต่ละสายอาชีพ และการเรียน Ausbildung นั้นไม่มีค่าใช้จ่ายในการเรียน (แต่ก็มีบางสายอาชีพที่ต้องจ่ายเงินเรียนเอง) อีกทั้งยังได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ จากบริษัทในขณะที่เรียนด้วย ซึ่งเพียงพอต่อการดำรงชีวิตอยู่ในเยอรมนี
แต่สำหรับใครที่คิดว่ารายได้ระหว่างเรียนนั้นไม่เพียงพอ ก็สามารถทำงานพาร์ทไทม์เสริมได้ (ในกรณีที่บริษัทอนุญาต) และที่เยอรมนีก็มีหน่วยงานที่คอยให้คำปรึกษา และช่วยเหลือในเรื่องด้านการเรียน การทำงาน รวมไปถึงด้านการเงินสำหรับคนที่เรียน Ausbildung อีกด้วย
โดยคุณสมบัติสำคัญที่ต้องมีในการสมัคร Ausbildung ก็คือ ภาษาเยอรมันระดับ B1-B2 ขึ้นไป เพราะเมื่อเข้าไปเรียนแล้ว จะเจอกับการเรียนการสอนที่เป็นภาษาเยอรมันทั้งหมด และบางสายอาชีพก็จะมีศัพท์ใหม่ ๆ ที่เป็นศัพท์เฉพาะทางด้วย การมีความรู้ทางด้านภาษาในระดับหนึ่งจึงมีความสำคัญ
ในส่วนของขั้นตอนการเตรียมตัวในการสมัคร ควรเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือนก่อนถึงช่วงเวลาเปิดรับสมัคร โดยส่วนใหญ่แล้วโรงแรมจะเปิดรับสมัครในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และสิงหาคมของแต่ละปี และในช่วงการเตรียมตัวก็ควรศึกษาว่า สายที่เราอยากเรียนต้องมีหลักฐานอะไรในการยื่นสมัคร และมีอะไรที่เราควรเตรียมตัวเป็นพิเศษบ้าง
และสำหรับใครที่สงสัยว่า Ausbildung จำเป็นต้องจบปริญญาตรีหรือไม่? คำตอบก็คือ ไม่จำเป็นต้องจบปริญญาตรี คนที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) หรือมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ก็สามารถสมัครได้เช่นกัน โดยในแต่ละสายอาชีพอาจจะต้องเทียบวุฒิการศึกษา เพื่อดูว่าวุฒิที่เรามีจากประเทศไทยเข้ากับระบบการศึกษาที่ประเทศเยอรมนีได้หรือไม่
การตัดสินใจครั้งใหญ่ในการเรียน Ausbildung แทนการเรียนปริญญาโท
ตอนนั้นชั่งใจอยู่นานมาก เพราะถ้าเรียนปริญญาโทก็จะเน้นไปทางสายวิชาการ แต่การเรียน Ausbildung ก็มีข้อดีที่เรามองเห็นคือ การได้ลงมือปฏิบัติงานจริงและได้เรียนทฤษฎีควบคู่กันไปด้วย รวมถึงในระหว่างการฝึกงานเราก็ยังมีรายได้
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ปริญญาโทให้ไม่ได้ เพราะถ้าเรียนปริญญาโทเราก็จะไม่มีรายได้ในแต่ละเดือน ทำให้ต้องหาเวลาว่างทำงานพาร์ทไทม์ควบคู่ไปกับการเรียนด้วย ซึ่งการเรียนเต็มเวลาและทำงานไปด้วยก็อาจจะหนักเกินไป แต่ Ausbildung จะแบ่งช่วงเวลาการเรียนและการทำงานอย่างชัดเจน
ตัวอย่างเช่น สายโรงแรมจะมีการเรียนเป็นบล็อกคือ ในแต่ละเดือนจะเรียน 1 สัปดาห์ และทำงาน 3 สัปดาห์ ซึ่งระบบการเรียนตรงนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละสายอาชีพ เราก็เลยมองเห็นว่า Ausbildung เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะทำให้ก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานของประเทศเยอรมนีได้ง่ายขึ้น
ในท้ายที่สุดเราจึงตัดสินใจเลือกเรียน Ausbildung และเลือกสายโรงแรม โดยเหตุผลที่เลือกสายโรงแรมเป็นเพราะไม่ถนัดและไม่ชอบด้านสายการแพทย์ เนื่องจากกลัวเลือดและกลัวเข็มเป็นการส่วนตัว ทำให้คิดว่าตนเองไม่เหมาะกับสายงานด้านนั้น และด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาจึงคิดว่าทางที่สามารถไปต่อได้ก็คือ สายโรงแรม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเคยทำงานกับชาวต่างชาติมาและสายโรงแรมก็มีงานหลากหลายแผนกให้เราได้เรียนรู้ รวมถึงเรามีใจรักในงานด้านบริการ ทำให้รู้สึกว่างานนี้น่าจะตอบโจทย์เรามากที่สุด
อุปสรรคในการเรียนข้ามสายจาก ‘ศิลปศาสตร์’ สู่ ‘การโรงแรม’
เราจบปริญญาตรีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ สาขาภูมิศาสตร์ จึงทำให้รู้สึกว่าการเรียนสายโรงแรมแตกต่างจากการเรียนศิลปศาสตร์เป็นอย่างมาก เพราะเราไม่มีความรู้และประสบการณ์ด้านการโรงแรมมาก่อน ซึ่งในสายโรงแรมก็มีหลายแผนก ไม่ว่าจะเป็น แผนกแม่บ้าน แผนกต้อนรับ ร้านอาหาร บาร์ หรือแม้กระทั่งงานในออฟฟิศ ทุกอย่างที่พูดถึงมานี้ใหม่สำหรับเรามาก แต่พอเข้าไปทำแล้ว ทำให้รู้ว่าเราไม่ต้องกลัว เพราะทุกคนก็เริ่มต้นใหม่เหมือนกันและเราก็เข้ามาเพื่อเรียนรู้
อีกหนึ่งอุปสรรคที่เป็นปัญหาใหญ่ในการเรียนก็คือ ภาษาเยอรมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรียนข้ามสาย เพราะเราไม่คุ้นชินเนื้อหาด้านการเรียนสายโรงแรม แต่เมื่อผ่านการเรียนปริญญาตรีมาแล้ว การเรียน Ausbildung ก็ไม่เกินความสามารถแน่นอน เราแค่ต้องใช้ความเข้าใจและความพยายามมากขึ้น
และในส่วนของการฝึกงานเราโชคดีที่มีคนสอนงานอยู่ตลอด เราก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไป โดยในช่วงสัปดาห์แรก ๆ อาจจะเหนื่อยมากหน่อย แต่เคล็ดลับในการทำงานของเราคือ การจดว่าต้องทำอะไรบ้าง เมื่อกลับบ้านก็ทบทวนสิ่งที่จดไว้ พอผ่านไปสักพักเราก็เริ่มชินและเริ่มทำงานได้ดีขึ้น
เรามีช่วงเวลาที่ท้อแล้วก็ร้องไห้ แต่พอมองย้อนกลับไปถึงตอนที่เราได้รับโอกาสในการทำงานนี้ว่าตอนนั้นเราภูมิใจในตัวเองมากแค่ไหน จึงทำให้รู้สึกว่าร้องไห้ได้ เหนื่อยได้ แต่ต้องลุกขึ้นสู้ต่อไป
คำแนะนำในการเรียนภาษาเยอรมัน
อย่างแรกคือ ต้องรู้ก่อนว่าตัวเองชอบอะไร ถ้าชอบดูซีรีส์หรือฟังเพลง ก็แนะนำให้ฝึกดูซีรีส์หรือฟังเพลงเป็นภาษาเยอรมันเพื่อฟังให้คุ้นชินหู หรือถ้ามีเพื่อนเป็นชาวเยอรมันซึ่งเป็นเจ้าของภาษา ก็ฝึกพูดกับพวกเขา จะช่วยทำให้เราเรียนรู้ได้เร็วขึ้น และในปัจจุบันแหล่งการเรียนภาษาเยอรมันมีเยอะมาก ทั้งใน YouTube ที่เป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ หรือ Podcast ก็มีข่าวภาษาเยอรมันที่พูดช้า ๆ ให้ฟังเหมือนกัน
แต่เคล็ดลับส่วนตัวที่เราฝึกก็คือ การอ่านนิทานเด็กภาษาเยอรมัน เพราะนิทานเด็กจะมีศัพท์ที่ไม่ยากจนเกินไป ซึ่งจะทำให้เราไม่กดดันตัวเอง และเมื่อเรามีคลังคำศัพท์ที่มากขึ้นแล้ว ก็ให้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งที่มีความยากขึ้น โดยอาจจะเป็นการฟังข่าวจากวิทยุ โทรทัศน์ หรือการอ่านข่าว อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาเยอรมัน
ประสบการณ์และความประทับใจในการใช้ชีวิตที่เยอรมนี
เมื่อเรามาใช้ชีวิตและทำงานที่ประเทศเยอรมนีแล้ว ทำให้เราเป็นคนมีระเบียบมากขึ้น เนื่องจากต้องวางแผนชีวิตตัวเองมากขึ้นว่าในแต่ละวันหรือในแต่ละสัปดาห์เราจะทำอะไรบ้าง เพราะซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดค่อนข้างเร็วกว่าที่ไทย และปิดทุกวันอาทิตย์ อีกเรื่องที่ประทับใจคือระบบขนส่งสาธารณะของที่นี่ ซึ่งเราสามารถเช็คตารางรถไฟ รถบัส หรือรถรางได้จากแอพพลิเคชัน ทำให้สะดวกต่อการวางแผนการเดินทางของเราในแต่ละวันอีกด้วย
ในด้านการทำงาน เรารู้สึกว่ากฎหมายคุ้มครองแรงงานของประเทศเยอรมนีค่อนข้างเข้มแข็ง ทำให้พนักงานจะได้รับสิทธิที่มีความยุติธรรม เช่น วันหยุด 27 หรือ 30 วันต่อปี หรือเมื่อเราลาป่วยกับเจ้านาย เขาก็จะไม่มีสิทธิถามว่าเราป่วยเป็นอะไร หรือป่วยจริงหรือไม่
นอกจากนี้ เมื่อเรารู้สึกว่ามีปัญหาอะไรในการทำงาน ก็สามารถพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาได้ จะไม่มีการปล่อยให้มันผ่าน ๆ ไป อีกทั้งยังสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองได้อย่างเต็มที่
ฝากถึงผู้ที่อยากเรียน Ausbildung ข้ามสาย
ไม่ต้องกลัว หากเรามีความตั้งใจอยู่เสมอก็ไม่มีอะไรที่เราไม่สามารถทำได้ และสำหรับคนที่กลัวว่าตัวเองไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ก็ให้ดูเราไว้เป็นตัวอย่าง เพราะเราก็เริ่มจากศูนย์ด้านการโรงแรมเหมือนกัน แต่เราก็มีความกล้ามากพอที่จะสมัคร
ถ้าเราได้รับโอกาสในการทำงานต่อก็ถือว่าเป็นกำไร แต่ถ้าไม่ได้ก็ให้ถือว่าเป็นประสบการณ์และเรียนรู้จากตรงนั้นว่า เราควรพัฒนาตรงไหนให้ดียิ่งขึ้น แล้วก็เดินหน้าสมัครต่อไปจนกว่าจะถึงวันที่คนอื่นเห็นถึงความสามารถของเรา
เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์การเรียนต่อที่ไม่ซ้ำใครและสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คน หากใครที่สนใจอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ การเรียนสายอาชีพของเยอรมนีอย่าง Ausbildung ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว