หลังจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เราต่างก็มีความคิดที่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยเลยทันที แต่สำหรับบางคนก็อาจจะสับสนว่าหรือควรหันไปไล่ตามความฝันโดยการเริ่มทำงานก่อนดี? และจัสติน เอลเลนก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องตัดสินใจเลือกทางแยกนี้
จัสติน เอลเลนเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันอายุน้อยของรายการทำขนมยอดนิยมบน Netflix และรับทำเค้กตามสั่งจากที่บ้านเป็นอาชีพเสริม โดยเขามีรายได้ประมาณ 5,000 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 180,000 บาท) แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อน เนื่องจากเห็นเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็สมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัย
แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะอยู่กับการเป็นคนทำขนมเค้ก เพราะเชื่อว่าทุกคนต่างก็มีเส้นทางเป็นของตัวเอง และในเวลาเพียงแค่สองปีต่อมา เขาก็ได้กลายเป็นเจ้าของร้านเค้กชื่อว่า Everything Just Baked แบบเต็มเวลา พร้อมทั้งมีรายได้ 100,000 ดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 3.6 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน หรือเจ้าของธุรกิจ ที่อยากเรียนรู้ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจกับ Techsauce Global Summit 2022 งาน Tech Conference ระดับเอเชีย ซื้อบัตรราคาพิเศษด่วนที่ https://bit.ly/3NXwoPU
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเขาก็ได้เดบิวต์ในรายการ Is It Cake? ของ Netflix ซึ่งเป็นรายการประกวดทำขนม แต่เส้นทางความสำเร็จนี้ใช่ว่าจะได้มาโดยไม่เคยผ่านความล้มเหลวมาก่อน มาดูกันว่ากว่าจะมีวันนี้เอลเลนต้องผ่านอะไรมาบ้าง
จุดเริ่มต้นของการเป็นคนทำขนมเค้กคนดัง
เริ่มแรกเลยคือ เอลเลนรู้ว่าชื่อเสียงบนโลกโซเชียลมีเดียมีส่วนสำคัญในการสร้างธุรกิจ แต่ต้องใช้การฝึกฝนและความกล้าในการทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จัก เพราะในตอนนั้นโซเชียลของเขาดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
แต่เอลเลนก็เห็นว่า Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่กำลังผลักดันคอนเทนต์ด้านวิดีโอเป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเปิดกล้องและแชร์เกร็ดเล็กๆ ของการเป็นคนทำขนมเค้กในวัยเด็ก ซึ่งในตอนแรกเขารู้สึกอายมาก แต่ก็ทำให้ใกล้ชิดกับผู้คนมากขึ้น และเมื่อผู้คนสนุกไปกับคอนเทนต์ คนเหล่านั้นก็จะอยากจ่ายเงินซื้อมากขึ้น
ถึงแม้ว่าเอลเลนจะไม่ได้จริงจังกับการโพสต์โซเชียลมีเดียในตอนแรกๆ แต่เขาก็ค่อยๆ สร้างผู้ติดตามและลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการทำขนมทุกครั้งที่มีโอกาส
จะเห็นได้ว่าบนโลกนี้มีคนซื้อกระเป๋าราคาแพงๆ ของดีไซเนอร์ชื่อดัง เพราะเขาทำให้ลูกค้าเข้าใจคุณค่าในแบรนด์และสิ่งที่แบรนด์นั้นๆ มอบให้ การทำขนมเค้กขายก็เช่นกัน
หลังจากเอลเลนพยายามมาเรื่อยๆ ก็ทำให้เขามีผู้ติดตามบน Instagram แตะ 50,000 คน และมีรายได้ประมาณ 5,000-9,000 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 180,000-320,000 บาท) ในช่วงมัธยมปลาย เอลเลนจึงรู้สึกว่าสิ่งนี้อาจทำเป็นธุรกิจที่จริงจังได้
จากคนทำขนมเค้กธรรมดาๆ สู่เจ้าของธุรกิจ
หลังจากการขายขนมของเอลเลนได้รับการสนับสนุนในโรงเรียนมัธยมปลาย เขาก็เริ่มคิดว่าจะทำขนมเค้กเป็นอาชีพ แต่มีคนไม่เห็นด้วย เพราะหลายคนต่างก็คิดว่าอาชีพนี้ทำเงินได้ไม่เยอะ และงานก็หนัก
แต่เอลเลนก็มีแผนใหญ่เป็นของตัวเองและรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องพวกนี้ อีกทั้งยังคิดว่าในสนามนี้ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ มีหลายเส้นทางให้เลือกเดิน เช่น คนทำขนมก็สามารถสร้างธุรกิจเป็นของตัวเองและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาวางขายได้
พอถึงช่วงใกล้เรียนจบเอลเลนก็ต้องมานั่งคิดว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อไปดี ตอนนั้นเพื่อนทุกคนก็เริ่มมองหามหาวิทยาลัยที่จะเรียนต่อ เอลเลนก็เคยคิดถึงโรงเรียนสอนทำอาหารเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ทางของตัวเอง เพราะการเรียนต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ทำให้รู้สึกว่าไม่คุ้ม อีกทั้งยังมองว่าไม่มีใครสามารถสอนวิธีสร้างสรรค์ศิลปะได้จริงๆ สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น
หลังจากเรียนจบเขาจึงตัดสินใจเดินตามเส้นทางที่ตัวเองเลือกไว้ตั้งแต่แรก
คำแนะนำในการทำธุรกิจจากเอลเลน
แม้ว่าโซเชียลมีเดียจะช่วยให้สามารถทำการตลาดแบบฟรีๆ ได้ แต่เอลเลนก็ต้องการความช่วยเหลือด้านเงินทุนเพื่อให้ธุรกิจยังคงสามารถเดินหน้าต่อไปได้
โดยในช่วงแรกๆ ที่เอลเลนกำลังขายคุกกี้ เขาขอเงินพ่อแม่ประมาณ 500 ดอลลาร์ (ประมาณ 18,000 บาท) เพื่อซื้อกล่องและอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาขอเงินจากพ่อแม่เพื่อทำธุรกิจ
และแม้ว่าพ่อกับแม่ของเขาจะยังไม่เชื่อมั่นการทำธุรกิจของลูกชายตัวเอง แต่เอลเลนก็เชื่อว่าความสำเร็จที่เขามีทุกวันนี้ก็มาจากคำพูดดีๆ ของพ่อแม่ นั่นคือ “ให้ลงทุนในสิ่งที่คุณได้กำไรใหม่เสมอ”
“ฉันเอาเงินที่ได้จากการขายขนมกลับมาใช้ใหม่กับธุรกิจของฉัน ไม่ได้เอาไปซื้อ Jordans” เขากล่าวพร้อมอ้างถึงรองเท้า Nike ยอดนิยม ที่มีราคาอย่างน้อย 200 ดอลลาร์ (ประมาณ 7,000 กว่าบาท)
การดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะในช่วงแรกๆ อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือย อย่าเสียเงินเพียงเพราะคิดว่าตัวเองมีความคิดที่ดี เพราะการทำธุรกิจนั้นมีราคาแพง แล้วธุรกิจของคุณจะสามารถเติบโตเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้
สำหรับใครที่อยากรับฟังคำแนะนำหรือประสบการณ์การทำธุรกิจในด้านต่างๆ มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็น NFT/Digital Assets, AI/DATA, Deep Tech, Metaverse, FinTech / DeFi, Startup / VC และอื่นๆ อีกเพียบ ห้ามพลาดกับงาน Techsauce Global Summit 2022 ที่จะจัดขึ้นวันที่ 26 - 27 สิงหาคมนี้ที่ ICONSIAM ถ้าไม่อยากพลาดโอกาสนี้ รีบซื้อบัตรได้ที่ https://bit.ly/3NXwoPU
อ้างอิง cnbc