การผันตัวจากคนทำขนม สู่เจ้าของธุรกิจรายได้หลักล้าน | Techsauce
talentsauce logo
ฝากประวัติ ค้นหา Tech Talent Talent Insights Job Hack Life Hacks News Video Podcast
การผันตัวจากคนทำขนม สู่เจ้าของธุรกิจรายได้หลักล้าน
By Connext Team กรกฎาคม 21, 2022
share facebook icon share facebook icon hover share x icon share x icon hover share line icon share line icon hover share icon share icon hover

หลังจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เราต่างก็มีความคิดที่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยเลยทันที แต่สำหรับบางคนก็อาจจะสับสนว่าหรือควรหันไปไล่ตามความฝันโดยการเริ่มทำงานก่อนดี? และจัสติน เอลเลนก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องตัดสินใจเลือกทางแยกนี้

จัสติน เอลเลนเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันอายุน้อยของรายการทำขนมยอดนิยมบน Netflix และรับทำเค้กตามสั่งจากที่บ้านเป็นอาชีพเสริม โดยเขามีรายได้ประมาณ 5,000 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 180,000 บาท) แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อน เนื่องจากเห็นเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็สมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัย

เจ้าของธุรกิจ

แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะอยู่กับการเป็นคนทำขนมเค้ก เพราะเชื่อว่าทุกคนต่างก็มีเส้นทางเป็นของตัวเอง และในเวลาเพียงแค่สองปีต่อมา เขาก็ได้กลายเป็นเจ้าของร้านเค้กชื่อว่า Everything Just Baked แบบเต็มเวลา พร้อมทั้งมีรายได้ 100,000 ดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) 

นอกจากนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน หรือเจ้าของธุรกิจ ที่อยากเรียนรู้ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจกับ Techsauce Global Summit 2022 งาน Tech Conference ระดับเอเชีย ซื้อบัตรราคาพิเศษด่วนที่ https://bit.ly/3NXwoPU

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเขาก็ได้เดบิวต์ในรายการ Is It Cake? ของ Netflix ซึ่งเป็นรายการประกวดทำขนม แต่เส้นทางความสำเร็จนี้ใช่ว่าจะได้มาโดยไม่เคยผ่านความล้มเหลวมาก่อน มาดูกันว่ากว่าจะมีวันนี้เอลเลนต้องผ่านอะไรมาบ้าง

จุดเริ่มต้นของการเป็นคนทำขนมเค้กคนดัง

เริ่มแรกเลยคือ เอลเลนรู้ว่าชื่อเสียงบนโลกโซเชียลมีเดียมีส่วนสำคัญในการสร้างธุรกิจ แต่ต้องใช้การฝึกฝนและความกล้าในการทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จัก เพราะในตอนนั้นโซเชียลของเขาดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

แต่เอลเลนก็เห็นว่า Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่กำลังผลักดันคอนเทนต์ด้านวิดีโอเป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเปิดกล้องและแชร์เกร็ดเล็กๆ ของการเป็นคนทำขนมเค้กในวัยเด็ก ซึ่งในตอนแรกเขารู้สึกอายมาก แต่ก็ทำให้ใกล้ชิดกับผู้คนมากขึ้น และเมื่อผู้คนสนุกไปกับคอนเทนต์ คนเหล่านั้นก็จะอยากจ่ายเงินซื้อมากขึ้น

ถึงแม้ว่าเอลเลนจะไม่ได้จริงจังกับการโพสต์โซเชียลมีเดียในตอนแรกๆ แต่เขาก็ค่อยๆ สร้างผู้ติดตามและลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการทำขนมทุกครั้งที่มีโอกาส 

จะเห็นได้ว่าบนโลกนี้มีคนซื้อกระเป๋าราคาแพงๆ ของดีไซเนอร์ชื่อดัง เพราะเขาทำให้ลูกค้าเข้าใจคุณค่าในแบรนด์และสิ่งที่แบรนด์นั้นๆ มอบให้ การทำขนมเค้กขายก็เช่นกัน

หลังจากเอลเลนพยายามมาเรื่อยๆ ก็ทำให้เขามีผู้ติดตามบน Instagram แตะ 50,000 คน และมีรายได้ประมาณ 5,000-9,000 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 180,000-320,000 บาท) ในช่วงมัธยมปลาย เอลเลนจึงรู้สึกว่าสิ่งนี้อาจทำเป็นธุรกิจที่จริงจังได้

จากคนทำขนมเค้กธรรมดาๆ สู่เจ้าของธุรกิจ

หลังจากการขายขนมของเอลเลนได้รับการสนับสนุนในโรงเรียนมัธยมปลาย เขาก็เริ่มคิดว่าจะทำขนมเค้กเป็นอาชีพ แต่มีคนไม่เห็นด้วย เพราะหลายคนต่างก็คิดว่าอาชีพนี้ทำเงินได้ไม่เยอะ และงานก็หนัก

แต่เอลเลนก็มีแผนใหญ่เป็นของตัวเองและรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องพวกนี้ อีกทั้งยังคิดว่าในสนามนี้ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ มีหลายเส้นทางให้เลือกเดิน เช่น คนทำขนมก็สามารถสร้างธุรกิจเป็นของตัวเองและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาวางขายได้

พอถึงช่วงใกล้เรียนจบเอลเลนก็ต้องมานั่งคิดว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อไปดี ตอนนั้นเพื่อนทุกคนก็เริ่มมองหามหาวิทยาลัยที่จะเรียนต่อ เอลเลนก็เคยคิดถึงโรงเรียนสอนทำอาหารเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ทางของตัวเอง เพราะการเรียนต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ทำให้รู้สึกว่าไม่คุ้ม อีกทั้งยังมองว่าไม่มีใครสามารถสอนวิธีสร้างสรรค์ศิลปะได้จริงๆ สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น

หลังจากเรียนจบเขาจึงตัดสินใจเดินตามเส้นทางที่ตัวเองเลือกไว้ตั้งแต่แรก

คำแนะนำในการทำธุรกิจจากเอลเลน

แม้ว่าโซเชียลมีเดียจะช่วยให้สามารถทำการตลาดแบบฟรีๆ ได้ แต่เอลเลนก็ต้องการความช่วยเหลือด้านเงินทุนเพื่อให้ธุรกิจยังคงสามารถเดินหน้าต่อไปได้

โดยในช่วงแรกๆ ที่เอลเลนกำลังขายคุกกี้ เขาขอเงินพ่อแม่ประมาณ 500 ดอลลาร์ (ประมาณ 18,000 บาท) เพื่อซื้อกล่องและอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาขอเงินจากพ่อแม่เพื่อทำธุรกิจ

และแม้ว่าพ่อกับแม่ของเขาจะยังไม่เชื่อมั่นการทำธุรกิจของลูกชายตัวเอง แต่เอลเลนก็เชื่อว่าความสำเร็จที่เขามีทุกวันนี้ก็มาจากคำพูดดีๆ ของพ่อแม่ นั่นคือ “ให้ลงทุนในสิ่งที่คุณได้กำไรใหม่เสมอ”

“ฉันเอาเงินที่ได้จากการขายขนมกลับมาใช้ใหม่กับธุรกิจของฉัน ไม่ได้เอาไปซื้อ Jordans” เขากล่าวพร้อมอ้างถึงรองเท้า Nike ยอดนิยม ที่มีราคาอย่างน้อย 200 ดอลลาร์ (ประมาณ 7,000 กว่าบาท)

การดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะในช่วงแรกๆ อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือย อย่าเสียเงินเพียงเพราะคิดว่าตัวเองมีความคิดที่ดี เพราะการทำธุรกิจนั้นมีราคาแพง แล้วธุรกิจของคุณจะสามารถเติบโตเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้

สำหรับใครที่อยากรับฟังคำแนะนำหรือประสบการณ์การทำธุรกิจในด้านต่างๆ มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็น NFT/Digital Assets, AI/DATA, Deep Tech, Metaverse, FinTech / DeFi, Startup / VC และอื่นๆ อีกเพียบ ห้ามพลาดกับงาน Techsauce Global Summit 2022 ที่จะจัดขึ้นวันที่ 26 - 27 สิงหาคมนี้ที่ ICONSIAM ถ้าไม่อยากพลาดโอกาสนี้ รีบซื้อบัตรได้ที่ https://bit.ly/3NXwoPU

อ้างอิง cnbc

No comment

คัดลอก URL

×

https://techsauce.co/talentsauce/talent-insights/from-baker-to-entrepreneur