TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นสุดฮิต ไม่ได้โด่งดังแค่ตัวแอปฯ แต่ "วัฒนธรรมการทำงาน" ของที่นี่ก็เป็นที่พูดถึงไม่แพ้กัน ทำให้ในปี 2023 Tiktok มีผู้ใช้งานกว่า 1.1 พันล้านคน จาก 160 ประเทศ บทความนี้จะพาไปดูความเป็นมาและเบื้องหลังความสำเร็จของ TikTok กัน ว่าเขามีสูตรอะไร ที่ทำให้พนักงานกล้าคิด กล้าทำ กล้ารังสรรค์ความครีเอทีฟ จนแอปฯ ปังขนาดนี้!
กว่าจะเป็น Tiktok
TikTok เกิดมาจากบริษัทเทคโนโลยีของจีนที่ชื่อว่า ByteDance เดิมมีการปล่อยแอปฯ ออกมาครั้งแรกในชื่อ Douyin (โต่วหยิน) เปิดตัวประมาณเดือนกันยายนปี 2016 แนวคล้าย ๆ แอปฯ Facebook หรือ Instagram (สองแพลตฟอร์มนี้ไม่มีให้บริการในจีน)
ต่อมา พฤศจิกายนปี 2017 ByteDance ก็ได้ซื้อแอปฯ ทำคลิปลิปซิงค์ชื่อ Musical.ly ซึ่งแอปนี้เด็ดตรงให้ Musers หรือผู้ใช้สามารถเล่นลิปซิงค์ ใส่เพลง โชว์ในคลิปสั้น ๆ 15 วินาทีได้! แต่สุดท้าย ByteDance ก็ได้ปิดแอป Musical.ly แล้วนำฟีเจอร์เจ๋ง ๆ มาใส่ใน Douyin แทน
สิงหาคมปี 2018 ByteDance ก็ได้ปล่อย Douyin เวอร์ชั่นโกอินเตอร์ ที่ชื่อว่า TikTok ออกมาให้ผู้ใช้ทั่วโลก โดยจุดเด่นของ TikTok เลยคือ Algorithm ที่ฉลาดมาก โดยแอปฯ จะรู้ได้ว่าเราชอบคลิปแนวไหน เลื่อนผ่านไวแค่ไหน แล้วก็เอาคลิปแบบที่เราฟินมาแนะนำให้เราดูอีก!
8 มกราคม 2019 TikTok ได้จดขึ้นทะเบียนธุรกิจในประเทศไทยและยังคงดำเนินธุรกิจพร้อมทั้งขยาย “TikTok” สู่ยุค “Creative economy” ชูกลยุทธ์ “TikTok For All” เพื่อดันธุรกิจไทยเปลี่ยนผ่านสู่การสร้าง Content รูปแบบใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ธุรกิจนั้นเติบโตและก้าวไปสู่ E-commerce
วัฒนธรรมการทำงานที่ TikTok เป็นยังไง?
- Context Not Control: ฉีกทิ้งระบบออฟฟิศแบบเก่าที่หัวหน้าสั่งอย่างเดียว พนักงานแค่ทำตาม เพราะที่ Tiktok ไฟเขียวให้ความคิดสร้างสรรค์กับพนักงานเต็มที่ มีอิสระคิดนอกกรอบ พอทำงานในรูปแบบนี้ก็ทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วม มีอิสระ ทำให้ทำงานเร็ว คล่องตัว มองภาพรวมร่วมกันแบบ Connect the dot สภาพแวดล้อมในการทำงานก็สนุกสนาน มีชีวิตชีวานั่นเอง
- Open Communication: ลืมภาพลักษณ์องค์กรแบบลำดับชั้นไปได้เลย! ที่ TikTok พนักงานคุยกันเองได้หมด คุยกับใครก็ได้ แม้แต่ CEO ก็ติดต่อได้ง่าย ๆ แบบนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกมีคุณค่า ความคิดเห็นทุกคนถูกรับฟัง ส่งเสริมการทำงานร่วมมือสุดๆ
- Day One Mindset: คิดแบบ Startup อยู่ตลอด ที่ TikTok ไม่ยึดติดกับความสำเร็จ แม้จะประสบความสำเร็จไปแล้ว แต่ก็ไม่เคยหยุดพัฒนา และยังคงรักษาความกระตือรือร้นไว้เหมือนบริษัท startup ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เน้นทดลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอด ทำให้ไม่ตกเทรนด์
- Close Collaboration: ทีมเวิร์คคือที่สุด! เคล็ดลับความสำเร็จของ TikTok อย่างนึงคือ การทำงานร่วมมือกันระหว่างทีม Engineering, ทีม Product, ทีม Sales หรือแม้กระทั่งทีม Data science ต่างฝ่ายต่างทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์โดนใจตลาด ตอบโจทย์ผู้ใช้ ฝ่ายขายก็ขายของได้รัว ๆ
- Making Collaboration Work: มีโครงสร้างชัดเจน + เข้าถึงข้อมูลจริง ถึงจะเน้นทำงานร่วมกัน แต่ TikTok ก็มีการวางแผนโครงสร้างการทำงานที่ชัดเจน มีการประชุมทีมทุกไตรมาส เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน นอกจากนี้ พวกเขายังให้ทีมพัฒนาสินค้า และนักวิจัยเข้าร่วมประชุมกับลูกค้า เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาการใช้งานจริง ๆ ข้อมูลที่ได้จากตรงนี้ ก็ํเอามาพัฒนาสินค้าต่อยอดได้ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ TikTok โดนใจผู้ใช้ไปเต็ม ๆ
อยากทำงานที่ TikTok ต้องเป็นคนแบบไหน?
- Curiosity: ช่างสงสัย! อยากรู้อยากเห็น เรียนรู้ได้ตลอด
- Discipline: มีวินัย! ถึงจะอิสระ แต่ก็ต้องวางแผนเป็น
- Prioritization: จัดลำดับความสำคัญเก่ง! บริหารเวลาเป็นเลิศ
Perk and Benefits
- ประกันสุขภาพ
- ประกันทันตกรรม
- ฟรี อาหาร ขนมและเครื่องดื่ม
- Pet Friendly Workplace
- โปรแกรมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านออนไลน์คอร์สและโปรแกรมต่าง ๆ
- เวลาทำงานยืดหยุ่น และมีการทำงานในรูปแบบ Hybrid Work
- นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการและกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ อีกมากมายตามเทศกาลและโอกาสต่าง ๆ
เคล็ดลับความสำเร็จของ TikTok ก็คือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นทำงานร่วมกัน เปิดกว้าง และสนุก พนักงานทุกคนรู้สึกมีคุณค่าเหมือนเป็นเจ้าของบริษัท (Ownership) เพื่อรังสรรค์สิ่งที่ดีกว่าให้กับผู้คนและสังคมนั่นเอง
หากใครกำลังหางานอยู่และสนใจร่วมงานกับ Tiktok สามารถดูตำแหน่งที่เปิดรับสมัครได้ที่หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://careers.tiktok.com/
อ้างอิง : big3, moneyandbanking, investopedia, investopedia, levels, youtube, themuse