ในปี 2021 ที่ผ่านมาชาวอเมริกันลาออกจากงานสูงเป็นประวัติการณ์ และตำงานว่างก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ว่า Great Resignation อาจลากยาวมาจนถึงปีนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าคนทำงานยังคงมีอำนาจในการเลือกงานที่ตอบสนองต่อความต้องการของตนเอง
เมื่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังคงอยู่กับเราในปีนี้ ทำให้นายจ้างต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของแรงงาน เช่น การทำงานทางไกล มีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น ค่าตอบแทนสูง การใส่ใจต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากขึ้นในยุคปัจจุบัน
สำหรับนายจ้างที่ต้องการคนรุ่นใหม่ไฟแรงเข้าร่วมองค์กร จะต้องเจอกับความท้าทายนี้ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะคนที่มีความสามารถกำลังมีทางเลือกมากมาย หากองค์กรไหนต้องการรักษาหรือดึงดูดคนรุ่นใหม่ไฟแรงให้มาอยู่กับองค์กร ก็ควรปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของแรงงานดังนี้
1. ปรับปรุงกระบวนการจ้างงาน
เนื่องจากปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีมาอย่างต่อเนื่อง นายจ้างจึงควรปรับปรุงกระบวนการว่าจ้างงานให้สามารถหาผู้สมัครได้เร็วขึ้น แต่ต้องเร็วแบบมีประสิทธิภาพโดยลดระยะเวลาในกระบวนการจ้างงานให้น้อยลง
Eric Di Monte ผู้อำนวนการฝ่าย Talent Acquisition ของ Warner Music Group กล่าวว่า Recruiter ควรใช้การสรรหาเชิงรุกไม่ใช่แค่การโพสต์ตำแหน่งงานเพียงอย่างเดียว
2. เพิ่มค่าตอบแทนและสวัสดิการ
ค่าตอบแทนที่จะสามารถดึงดูดคนเก่งเข้ามาทำงานได้ต้องไม่ใช่แค่เงินเดือนขั้นต่ำ เช่น เงินเดือนขั้นต่ำของเด็กที่จบปริญญาตรี 15,000 บาท แต่ต้องเป็นเงินเดือนและสวัสดิการที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่าง
3. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี
หากไม่สามารถเพิ่มค่าตอบแทนได้ อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ต่อสู้กับองค์กรอื่นๆ ได้ก็คือ การมีวัฒนธรรมการทำงานที่ดี โดยวัฒนธรรมในที่นี้หมายถึงทั้งวัฒนธรรมขององค์กรและวัฒนธรรมของทีมด้วย เพราะผู้สมัครงานหลายคนจะเปรียบเทียบเงินเดือนกับชื่อเสียงของบริษัท
วัฒนธรรมการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญมากในช่วงการทำงานแบบ Hybrid นายจ้างบางคนอาจมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการทำงานทางไกล แต่บริษัทที่มีวัฒนธรรมการทำงานที่ดีจะต้องไม่ทำให้พนักงานเผชิญกับความเครียดทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจที่มากจนเกินไป
4. มีนโยบายการทำงานทางไกลที่ชัดเจน
พนักงานต้องการรู้ว่าจะต้องทำงานที่ไหนในช่วงเวลานี้ แต่พนักงานประมาณ 89% ต้องการทำงานจากที่บ้านเพราะไม่อยากเสี่ยงออกไปเจอโควิด ดังนั้นบริษัทใดที่มีนโยบายการทำงานแบบ Work From Home ก็จะสามารถดึงดูดเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงได้มากกว่า ดังนั้นจึงควรบอกให้ชัดว่าบริษัททำงานในออฟฟิศ ทำงานทางไกล หรือทำงานแบบ Hybrid
5. ปรับความคาดหวังที่มีต่อพนักงงาน
การคาดหวังให้พนักงานทำงานหนักเกินเหตุเป็นความคิดที่ปราศจากความเข้าอกเข้าใจ หากองค์กรไหนยังคาดหวังแบบนี้อยู่ก็ควรปรับมุมมองและความคาดหวังที่มีต่อพนักงานลง
6. แสดงให้เห็นถึง Diversity, Equity และ Inclusion
หลายคนเมื่อสมัครงานแล้วก็อยากจะเห็นว่าบริษัทนั้นๆ จะยอมรับความหลากหลาย มีความเท่าเทียมกัน และคำนึงถึงทุกคนหรือไม่ ดังนั้นนายจ้างจึงควรแสดงให้เห็นว่าส่งเสริมความเท่าเทียมจริงๆ ไม่ใช่แค่การอวดอ้าง
อย่างไรก็ตาม องค์กรควรแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ตัวเองเป็นจริงๆ ไม่ใช่การขายฝันต่อคนที่กำลังหางาน เพราะเราอยู่ในยุคที่สามารถหาข้อมูลได้ง่ายๆ จากอินเทอร์เน็ต และถึงแม้จะดึงคนเก่งๆ เข้าไปได้ แต่ก็อาจอยู่ได้ไม่นาน
ที่มา - Fast Company