ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจของเราถึงขั้นวิกฤตจริง ๆ สิ่งนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากวิกฤตโรคระบาด ทำให้ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานโดยตรง ซึ่งในปีนี้การจ้างงานมีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว และอาชีพที่คาดการณ์ว่าจะมาแรงในปีนี้ คืออาชีพที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี (Green-collar jobs) และอีกหนึ่งอาชีพที่มาแรงไม่แพ้กันคืออาชีพแพทย์หรืองานที่ต้องช่วยเหลือผู้คน
ข้อมูลการจ้างงานของ ManpowerGroup บริษัทให้บริการการจ้างงานระดับโลก พบว่ามีการประกาศรับสมัครงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งสิ่งนี้สามารถบ่งบอกแนวโน้มความต้องการของตลาดแรงงานและคุณสมบัติที่คนทำงานต้องมีในอนาคตได้
และนี่คือ 7 แนวโน้มการจ้างงานในอนาคตจะมีอะไรบ้างมาดูกัน!
7 แนวโน้มการจ้างงานในอนาคต
1.อาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน
- งานที่ช่วยเหลือผู้คน
งานด้านการแพทย์จะได้รับความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยพยาบาลอันดับสอง ซึ่งทั้งสองอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ต้องการมากที่สุด
นอกจากนี้ผู้ช่วยทางการแพทย์ รังสีแพทย์ หรืองานที่ช่วยเหลือสังคม ถูกจัดอยู่ 20 อันดับแรกที่ตลาดแรงงานต้องการ นอกจากนี้มีข้อมูลว่าประเทศต้องการนักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้นประมาณ 300% ต่อปี และคาดว่าเทรนด์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่จะยังคงได้รับความนิยมต่อไป เนื่องจากทักษะทางการแพทย์มีความต้องการสูงในระยะยาว
- งานที่เกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภค
อีกหนึ่งงานที่มีแนวโน้มสูงว่าจะมีการเปิดรับสมัครสูงในอนาคต จะเป็นงานเกี่ยวกับการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น บริษัทที่ทำเกี่ยวกับการขายของออนไลน์หรือเดลิเวอรี่ ซึ่งคาดว่าบริษัทอย่าง Amazon, Pizza Hut และบริษัทส่งอาหาร Doordash จะเป็นนายจ้างชั้นนำในปี 2025
- งานที่มีส่วนช่วยพัฒนาบริษัท
อาชีพที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับข้อนี้ คือ “นักพัฒนาแอปพลิเคชัน” เนื่องจากพอ AI ได้เข้ามามีบทบาทกับเรามากขึ้น ทำให้หลายบริษัทต่างต้องการคนที่มีความรู้เกี่ยวกับ AI เข้ามาในบริษัท เพื่อหวังให้พัฒนาองค์กร คาดว่าในอนาคต Walmart หรือ บริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ในสหรัฐ และ Doordash แพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ที่นิยมที่สุดในอเมริกา จะเป็นผู้จ้างงานชั้นนำสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้าน AI
2. องค์กรจะมองหาคนที่มีทักษะตามที่ต้องการ
แนวโน้มการจ้างงานในอนาคตพบว่า 77% ของนายจ้างจะมองหาพนักงานที่มีทักษะใหม่ ๆ ที่ตรงตามบริษัทต้องการโดยตรงมากกว่าการมาฝึกหรือมาพัฒนาทักษะทีหลัง เพราะพวกเขามองว่าคนกลุ่มนี้ต้องเข้ามาช่วยหรือพัฒนาองค์กรได้จริงและรวดเร็ว
3. ผู้หญิงจะเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานสูงขึ้น
หลังจากเกิดเหตุการณ์วิกฤตโรคระบาด พบว่าผู้หญิงหลายล้านคนลาออกจากงานและหลังจากนั้นไม่ถึง 3 ปี การจ้างงานของผู้หญิงก็พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 25 – 54 ปี มีอัตราการจ้างงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในปัจจุบันเทรนด์การทำงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีกำลังมาแรง ทำให้มีแนวโน้มว่าผู้หญิงจะจำเป็นต่อการทำงานในอนาคตมากยิ่งขึ้น
4. งานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมมาแน่
อาชีพที่กำลังเป็นที่สนใจของตลาดแรงงานมากที่สุด คืองานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและงานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งในอนาคตงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะมีแนวโน้มการทำงานแบบ Blue-collar (คนทำงานที่ไม่ได้ทำในออฟฟิศ) ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นายจ้างเริ่มหันมาให้ความสนใจกับงานในข้อนี้มากขึ้น
5. นายจ้างและพนักงานจะมีความร่วมมือกันมากขึ้น
การจ้างงานในอนาคตมีแนวโน้มว่านายจ้างและพนักงานจะร่วมมือในการทำงานกันมากขึ้น เนื่องจากนายจ้างมองว่าพนักงานก็เป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่ช่วยให้องค์กรเติบโตจริง ๆ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่าพนักงานจะมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและมีสิทธิ์ในการตัดสินใจเช่นเดียวกับนายจ้าง
6. ยุคแห่งธุรกิจ Startup
ใครที่กำลังวางแพลนจะสมัครงานหรือย้ายงาน สิ่งสำคัญที่ควรจะศึกษาเอาไว้ถ้าอยากได้งาน คือธุรกิจที่เกี่ยวกับ Startup ซึ่งในปี 2023 ได้เป็นปีแห่ง Main Street (ธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง) สาเหตุที่เราควรจะศึกษาเรื่องนี้ไว้ เพราะจะมีนายจ้างที่เริ่มอยากจะสร้างธุรกิจ Startup มากขึ้น ซึ่งเขาจะมองหาคนที่มีความสามารถ (คนที่โดนออกจากงานหรือคนที่กำลังหางาน) เป็นจำนวนมากมาช่วยในการพัฒนาบริษัทของพวกเขา
7. องค์กรจะให้คุณค่าประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานมากขึ้น
การทำงานไม่จำเป็นต้องนั่งออฟฟิศอีกเสมอไป เพราะการทำงานแบบ Hybrid จะกลายเป็นเรื่องปกติ รวมถึงการทำงานอยู่บ้าน หรือ Work from Home นายจ้างจะเริ่มให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ทำที่ไหนแล้วทำได้ดี นั่งทำงานที่ไหนแล้วมีสมาธิ ก็ให้นั่งทำที่นั่น เพียงแต่ต้องมีงานส่ง ซึ่งในปัจจุบันพนักงานหลายคนก็มองหารูปแบบการทำงานที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของตัวเอง เพราะฉะนั้นองค์กรไหนที่มีการทำงานแบบ Hybrid หรือ Work from Home ก็อาจจะดึงดูดพนักงานได้มากกว่าองค์กรอื่น ๆ
อ้างอิง : weforum