เมื่อการงานที่มั่นคงก็สำคัญ แต่แพชชั่นก็เรียกร้องความเป็นตัวตน แล้วจะเลือกเส้นทางไหนดี?
คุณสรวิศ ไพบูลย์รัตนากร หรือ "ครูยีราฟ" ได้ตัดสินใจเริ่มต้นการเดินทางที่เปลี่ยนแปลง Careepath ของตัวเอง โดยทิ้งอาชีพที่มั่นคงและมีรายได้สูงอย่างการโปรแกรมเมอร์ไว้เบื้องหลัง สู่หนึ่งแรงผลักดันในการปฏิรูปการศึกษาและก่อตั้ง ‘มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์’ หรือที่รู้จักกันในนาม Saturday School
แรงบันดาลใจที่อยากจุดประกายความฝันให้เด็กไทย
ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่บ้านเมืองมีปัญหาหลาย ๆ อย่างรวมกับได้ใช้เวลาเป็นโปรแกรมเมอร์มาหนึ่งปีแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกว่าไม่สามารถเพิกเฉยต่อปัญหาสังคมที่กดดันรอบตัวได้ ด้วยความคิดที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาและพัฒนาเด็ก ๆ ที่เปรียบเสมือนต้นกล้าของชาติ จึงลาออกจากงานและใช้เวลาสองปีในการเป็น “คุณครูยีราฟ” เพื่อสอนวิชาคณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพฯ ย่านบางนาเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับเด็ก ๆ ในชุมชนซึ่งก็ทำให้ได้เห็นถึงความท้าทายหลาย ๆ อย่างที่หยั่งรากลึกในระบบการศึกษาของไทย โดยหนึ่งในนั้นคือการตระหนักว่าการเรียนการสอนแบบให้เกรดในระบบอย่างเดียวไม่สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของเด็กออกมาได้
ในปี 2014 จึงก้าวไปอีกขั้นด้วยการก่อตั้ง Saturday School ดำเนินโครงการ "วิชานอกหลักสูตร" เพื่อเติมเต็มและสร้างโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบแบบ Active Learning ลองเรียนรู้และลงมือทำจริงทุก ๆ วันเสาร์ โดยมีหลายวิชาให้เลือกเรียน เช่น วิชา STEM, Cover Dance, ร้องเพลง, อีสปอร์ต, ออกแบบสติกเกอร์ไลน์, ดิจิทัลคอนเทนต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยในห้องเรียนของ Saturday School จะมีการเรียนการสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นหลัก พร้อมทั้งปรับแผนการเรียนให้เหมาะกับเด็ก ๆ แต่ละคน โดยรวบรวมอาสาสมัครคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพและมีจิตอาสาจากทุกสาขาอาชีพ มาแบ่งปันความรู้ให้เด็ก ๆ สร้างพื้นที่เพื่อให้พวกเขาได้ลองผิดลองถูกและสามารถแสดงศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เพื่อจุดประกาย สร้างความมั่นใจและสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ สามารถเติบโตและพัฒนาศักยภาพของตัวเองเพื่อต่อยอดสู่อนาคต
จากวันแรกจนถึงวันนี้ของ Saturday School
ในช่วงแรกของการทำ Saturday School ยอมรับว่ายากมากเพราะเรายังไม่ได้มีโครงสร้างการทำงานที่เป็นระบบ รวมทั้งจำนวนคน และเงินทุนก็ยังไม่คงที่สักเท่าไหร่ ทำให้ในมุมของการทำโครงการที่พัฒนาเด็ก ๆ ที่ไม่ได้มีกำลังจ่ายเพื่อเรียนเสริมนั้นค่อนข้างมีอุปสรรค
แม้จะเหนื่อยหน่อยเพราะต้องหารายได้มาดำเนินการต่อแต่ก็ต้องลุยด้วยแพชชั่น การแก้ปัญหาในช่วงแรก ๆ รายได้จึงมาจากการสอนเขียน Coding จากนักเรียนที่พอมีกำลังจ่าย แต่นานๆ เข้าร่างกายเราก็ไม่ไหว เลยหาลู่ทางอื่นๆ โดยการพิทชิง (Pitching) ขอความสนับสนุนและความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ เอกชน รวมถึงผู้คนที่ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาจึงทำให้ปัจจุบันสามารถดำเนิน Saturday School ได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Saturday School ได้พัฒนาและขยายไปตามโรงเรียนและชุมชนมากกว่า 60 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และ 9 จังหวัด ด้วยการสนับสนุนจากอาสาสมัคร 3,830 คน ครู 820 คน ที่มาร่วมกันสร้างพื้นที่และโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เจอศักยภาพของตัวเองกว่า 9,450 คน โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาในกรุงเทพฯ พื้นที่ใกล้เคียง และทุกจังหวัดทั่วประเทศ
อ่านมาจนถึงจุดนี้จะเห็นได้ว่า การเดินทางบนเส้นทางของคุณยีราฟ จากโปรแกรมเมอร์สู่ผู้อยู่เบื้องหลังการศึกษานอกห้องเรียน เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังของแพชชั่น ความกล้าและความทุ่มเท โดย Saturday School เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าการศึกษาสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตและเสริมศักยภาพของเด็ก ๆ ที่ในอนาคตจะกลายเป็นดั่งต้นไม้ใหญ่ที่มีประสิทธิภาพในสังคมไปทีละขั้น ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของไทยจำเป็นต้องใช้ความร่วมมือกันทุกภาคส่วน เพื่อส่งผลให้เกิดสังคมที่เต็มไปด้วยบุคคลที่มีคุณภาพกล้าไล่ตามความฝัน สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
สามารถติดตามอัปเดตของ Saturday School ได้ที่: เพจ Saturday School