เป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กจบใหม่ที่จะมาค้นพบทีหลังว่า สิ่งที่พวกเขาเคยเลือกเรียนในอดีต ไม่สามารถตอบโจทย์กับสิ่งที่อยากจะทำต่อไปในอนาคตได้ ทุกคนล้วนมีสิทธิ์ที่จะเลือกเส้นทางชีวิตใหม่ได้เสมอ แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อไปสู่จุดนั้น
ชีวิตของเรา การก้าวข้ามผ่านจากวัยเรียนสู่วัยทำงาน การสมัครงานเป็นสิ่งที่น่ากลัวและท้าทาย เเต่น้องคิดจะทำและยืนยันจะทำให้ได้ น้องคือคนที่กล้าหาญ และขอให้ใช้ความกล้าหาญให้ถูกจุดและเป็นประโยชน์
เรื่องราวการเปิดมุมมองการเรียนจบไม่ตรงสายได้ถูกถ่ายทอดผ่านประสบการณ์โดยตรงของ คุณชญาน์ทัต วงศ์มณี หรือ ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ คนที่ทำงานไม่ตรงกับสิ่งที่เรียนมาก่อน ในงาน 'ConNEXT Virtual Job Fair and Career Talk 2021’ เพื่อเป็นแนวทางพิสูจน์ให้กับเด็กจบใหม่เห็นว่า การเรียนจบไม่ตรงสายไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป สำหรับใครที่พลาด Session ของคุณท็อฟฟี่ ทาง Connext ได้รวบรวมใจความสำคัญไว้ที่นี่เเล้ว
เรียนจบไม่ตรงสายไม่ใช่อุปสรรค ความเเตกต่างไม่ใช่จุดอ่อนเเต่เป็นเอกลักษณ์
ในโลกของการทำงานองค์กรที่เเข็งเเรงไม่ได้มองหาคนที่เหมือนกัน เพราะงานที่ออกมาจะเป็นรูปแบบเดิม เเต่มองหาความแตกต่างจากคนที่หลากหลายทั้งด้านความคิด ชาติพันธ์ุ เพศ รสนิยม เราทุกคนมีประสบการณ์ความรู้ต่างกัน อย่ามองว่าความเเตกต่างเป็นจุดอ่อน เเต่คือจุดเเข็งที่ทำให้เราพิเศษและนำไปสู่เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิม
ทุกประสบการณ์ที่ผ่านมามีความหมาย
ทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิตมาพร้อมบทเรียนเสมอ คุณท็อฟฟี่ได้เล่าประสบการณ์ตัวเองว่าตอนมัธยมปลายที่ต้องเลือกเรียนระหว่างสายวิทย์กับสายศิลป์ ซึ่งคุณท็อฟฟี่อยากเรียนสายศิลป์ เเต่ในที่สุด ความกตัญญูก็ชนะความฝัน คุณท็อฟฟี่ได้เลือกเรียนสายวิทย์เพื่อพ่อเเม่ พอได้มาเรียนสายวิทย์ ชีวิตของคุณท็อฟฟี่ได้เปลี่ยนไป จากคนที่เรียนเก่ง มีความสุขกับการเรียน และมีคนให้ความสนใจ กลายเป็นคนไม่มีความสุขกับการเรียน ไม่เข้าใจในสิ่งที่เรียน เกรดตก และไม่ถูกมองเห็นอีกต่อไป สิ่งที่คุณท็อฟฟี่ได้เรียนรู้จากเรียนสายวิทย์ครั้งนี้ คือ เมื่อคุณท็อฟฟี่ได้เข้าใจความรู้สึกหัวอกของ Underdog การปฎิบัติต่อคนอื่นว่าเค้าไม่มีความหมาย มันเจ็บปวดเเค่ไหนที่ถูกมองเห็น แต่สิ่งนี้ทำให้คุณท็อฟฟี่ได้เรียนรู้อย่างนึงว่าตัวเองเป็นคนชอบเขียน เพื่อทำให้ตัวเองถูกมองเห็นอีกครั้ง คุณท็อฟฟี่จึงตัดสินลงประกวดเเต่งกลอนและคว้าที่ 1 มาได้
เหตุการณ์นั้นทำให้คุณท็อฟฟี่ค้นพบว่าตัวเองอยากเป็นนักเขียนเเค่ไหน การที่เราไม่เก่งในฟิสิกส์เคมีชีวิต ไม่ได้แปลว่าเราไม่มีคุณค่า การเรียนจบไม่ตรงสายก็เหมือนกัน ทุกประสบการณ์ที่ผ่านไม่ได้ศูนย์เปล่า ลองมองให้ไกลกว่าอาชีพ สิ่งที่เราได้เรียนมาจะหล่อหลอมและติดอาวุธให้เราโดยที่ไม่รู้ตัว
โลกการทำงานต้องการมากกว่า Hard Skills เพราะบริษัทต้องการคนที่มี Soft Skills
ในสมัยก่อนการหาคนมาทำงานในตำแหน่งหนึ่ง บริษัทจะมองหาคนเก่ง ที่มี Hard Skills แต่ในปัจจุบันโลกการทำงานได้เปลี่ยนไป Soft Skills มีความสำคัญเทียบเท่า Hard Skills ในการเลือกคนเข้าทำงาน Soft Skills เป็นสิ่งที่ได้ไม่ว่าจะเรียนสายไหน เพราะทุกคนผ่านการทำงานกลุ่ม การทำกิจกรรม ซึ่ง Soft Skills คือสิ่งสำคัญที่ทำให้พัฒนาตัวเองและองค์กรได้ไกลขึ้น
เรียนรู้ใหม่ตลอดชีวิต
ความรู้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นเราตั้งหมั่นพัฒนาและเรียนรู้ตลอดเวลา ต่อให้เรียนจบไม่ตรงสาย ทุกการทำงาน เริ่มต้นใหม่จาก 0 ดังนั้นสิ่งที่สำคัญ คือ อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ใหม่ตลอดชีวิต
ทำยังไงให้เป็นคนถูกเลือก เมื่อเรียนไม่ตรงสาย
องค์กรมักมีคำถามกับคนที่เรียนไม่ตรงสายว่า ทำไมถึงมาทำงานนี้ ทำไมไม่ทำงานตรงสาย ดังนั้นเเค่เเสดงความสนใจเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เราต้องแสดงหลักฐานแห่งความจริงจัง นั่นก็คือ ประสบการณ์ การศึกษาเรียนที่สนใจเพิ่มเติม เพื่อทำให้องค์กรเห็นว่าเราสนใจงานนี้จริงๆและเราพยายามที่จะเอาชีวิตของเราไปอยู่ใกล้กับสิ่งนั้น
จุดแข็งที่เเตกต่างเป็นประโยชน์กับองค์กร
ประสบการณ์ทุกอย่างมีคุณค่า ที่สามารถนำสิ่งนั้นมาใช้เป็นจุดเเข็งที่มีประโยชน์ต่อองค์กร เมื่อเรียนไม่ตรงสาย ทำให้เราต้องศึกษาและค้นคว้ามากขึ้น เจอปัญหาและฝ่าฝันไปให้ได้ นำสิ่งนี้ไปใช้ในการสัมภาษณ์ เพราะสิ่งนี้คือหลักฐานที่ถ่ายทอดความกล้าหาญของเราเอง
ทัศนคติที่ตรงกับวัฒนธรรมองค์กรและความเป็นพลเมืองของโลก
ลองศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร เพราะสิ่งนี้จะทำให้เรารู้ว่า คนเเบบไหนที่องค์กรตามหา ไปจนถึงเมื่อเราทำงานที่นี่ ที่นี่จะหล่อหลอมให้เราเป็นคนแบบไหน ตรงกับคนที่เราอยากเป็นหรือไม่ ซึ่งเราสามารถค้นคว้าได้จาก บทสัมภาษณ์ของผู้บริหาร ถามจากคนที่ทำงานในองค์กรนั้น และประสบการณ์การเป็นลูกค้า และที่สำคัญมากๆในยุคนี้และอนาคต คือการเป็น Global Citizen การเข้าใจประเด็นต่างๆที่โลกที่โลกใจ คุณค่าที่คนทั้งโลกยึดถือ รู้ว่าโลกหมุนไปทางไหน เชื่อในการมองเห็นทุกคนเป็นคนที่เท่ากัน จะทำให้เราเป็นคนที่มีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้นกว่าเดิม ทำให้มองเห็นชีวิตว่าไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหนก็ตาม ถ้าเราทำงานนั้นให้เป็นประโยชน์กับโลกใบนี้ได้ ทุกอย่างจะมีประโยชน์ทั้งหมดเเน่นอน
ในฐานะคนที่ทำงานมาหลายปี คุณท็อฟฟี่เคยมีประสบการณ์การทำงานไม่ตรงสายมาก่อน ชีวิตการทำงานมันยากมากๆ เเต่คำว่ายากไม่ได้แปลว่าเป็นไปไม่ได้ อย่าให้ความยากมาเป็นอุปสรรคที่จะหยุดเราได้ ถ้าเรามีเป้าหมายเเล้วทำให้เต็มที่เพื่อไปถึงเป้าหมาย ฝึกเรียนรู้ตลอดเวลา ทำตัวเองให้มีคุณค่ากับองค์กรและสังคม สิ่งนี้จะทำให้เราเป็นมนุษย์ทำงานที่ไม่ใช่เเค่เก่ง แต่มีคุณค่า และทำให้โลกมีคุณค่าไปด้วย
และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ติดตามคอนเทนต์ที่น่าสนใจจาก session อื่นๆ ภายในงานได้ที่ ConNEXT