หากคุณกำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานและมองหาบริษัทที่มีเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่นและมีอิสระทางความคิด การทำงานในบริษัท Startup อาจเป็นตัวเลือกที่ดี
Startup คือ บริษัทใหม่ที่มีการก่อตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบการหนึ่งรายหรือรายหลาย โดยเป้าหมายของสตาร์ทอัพก็คือการออกผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ที่ไม่เหมือนใครสู่ตลาด รวมถึงแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ผู้บริโภคเผชิญ และเงินทุนที่ใช้ในการจัดการส่วนใหญ่มักมาจากผู้ก่อตั้ง หลังจากนั้นก็จะได้รับเงินทุนจากนักลงทุนหรือผู้ให้กู้
การทำงานในบริษัทที่ก่อตั้งใหม่อย่าง Startup อาจมีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างจากบริษัทเอกชนใหญ่ๆ และสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจสงสัยก็คือ การทำงานกับบริษัท Startup มีข้อดีอย่างไร ทำไมถึงควรทำงานกับบริษัท Startup สักครั้งในชีวิต
ทำไมถึงควรทำงานกับ Startup?
1. มีโอกาสได้เรียนรู้มากกว่า
Startup หลายแห่งจะมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบหลาย ๆ อย่างให้กับพนักงาน เพราะไม่มีเงินจ้างพนักงานหลาย ๆ ตำแหน่งหรือหลายฝ่ายได้ โดย Startup จะจ้างคนที่มีชุดความสามารถหนึ่งและให้แต่ละคนมีบทบาทหน้าที่มากขึ้น เพื่อชดเชยการขาดพนักงาน
สิ่งนี้จะทำให้พนักงานได้รับโอกาสในการเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้และไม่เคยทำมาก่อนในการทำงานในบริษัทใหญ่ นอกจากนี้ การทำงานในบริษัท Startup ยังเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถทำงานโดยตรงกับผู้ก่อตั้งหรือบุคคลอื่น ๆ ที่อยู่เบื้องหลังการก่อตั้งนี้ ซึ่งจะทำให้เรียนรู้โดยตรงจากบุคคลเหล่านี้ได้
2. เวลาการทำงานยืดหยุ่น
Startup มักให้เวลาการทำงานที่ยืดหยุ่นแก่พนักงาน และบางที่ก็ให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ นี่เป็นสิทธิประโยชน์ที่ดีสำหรับคนที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ดี
3. ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่เหมือนใคร
การทำงานกับบริษัท Startup จะไม่เหมือนกับการทำงานในบริษัทประเภทอื่น ทำให้พนักงานมักจะได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใคร เช่น การมีอาหารกลางวันให้กับพนักงาน การสร้าง NapPod หรือห้องงีบให้
4.สวัสดิการมากมาย
Startup มักจะมอบสวัสดิการมากมายให้กับพนักงานเพื่อรักษาความพึงพอใจ ตัวอย่างสวัสดิการที่สามารถพบเห็นได้บ่อย ๆ เช่น ข้าวและน้ำฟรี สมาชิกฟิตเนสฟรี ส่วนลดบริการหรือสินค้าของบริษัท เวลาการทำงานยืดหยุ่น สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ลาหยุดแบบได้รับค่าจ้างไม่จำกัด และอื่น ๆ
5. เพิ่มความพึงพอใจในงาน
พนักงานในบริษัท Startup มักจะมีความพึงพอใจในงานมากกว่า เพราะรู้สึกว่าตัวเองมีความเกี่ยวข้องกับการเติบโตและมีส่วนสนับสนุนความสำเร็จของบริษัท ซึ่งสิ่งนี้จะมีอิมแพคต่อความพึงพอใจโดยรวมของพนักงาน นอกจากนี้ เนื่องจาก Startup มีพนักงานน้อย ผู้บริหารจึงสามารถดูแลความสุขของพนักงานได้อย่างทั่วถึงกว่า
6. มีอิสระในการทำงาน
พนักงานในบริษัท Startup จะมีอิสระในการทำงานมากกว่า เพราะพนักงานในบริษัทมีเพียงไม่กี่คน จึงทำให้มีการกำกับดูแลน้อย ซึ่งจะทำให้พนักงานมีอำนาจในการตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง
7. มีโอกาสสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
คนที่ทำงานกับ Startup มักจะมีโอกาสในการแสดงความรู้และทักษะของตนเอง ในขณะที่บริษัทใหญ่ ๆ มักจะมีสายบังคับบัญชาซึ่งความคิดต่าง ๆ จะต้องผ่านผู้บังคับบัญชาไปเป็นทอด ๆ แต่พนักงาน Startup สามารถนำเสนอความคิดโดยตรงได้เลย ทำให้มีโอกาสในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้มากกว่า
อย่างไรก็ตาม การทำงานกับ Startup ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาและชั่งน้ำหนักก่อนตัดสินใจ เช่น อาจไม่มั่นคงเท่าการทำงานบริษัทใหญ่ งานหนัก เวลาทำงานยาวนาน โครงสร้างไม่ชัดเจน มีความเปลี่ยนแปลงให้เห็นอยู่เสมอ มีทรัพยากรจำกัด และมีอิสระเกินไป โดยข้อดีและข้อเสียนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท ดังนั้นจึงควรศึกษาและหาข้อมูลก่อนตัดสินใจเข้าทำงาน
ที่มา - Indeed