ข้อดี–ข้อเสีย ของอาชีพผู้จัดการคืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นอาชีพที่องค์กรต้องการตัวมากที่สุด | Techsauce
talentsauce logo
ฝากประวัติ ค้นหา Tech Talent Talent Insights Job Hack Life Hacks News Video Podcast
ข้อดี–ข้อเสีย ของอาชีพผู้จัดการคืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นอาชีพที่องค์กรต้องการตัวมากที่สุด
By Connext Team เมษายน 25, 2023
share facebook icon share facebook icon hover share x icon share x icon hover share line icon share line icon hover share icon share icon hover

เรียกได้ว่าตั้งแต่เกิดวิกฤตโรคระบาดส่งผลให้ อาชีพ “ผู้จัดการ” หรือ Management มีความสำคัญต่อองค์กรมากขึ้น นั่นเป็นเพราะตำแหน่งของผู้จัดการมีหน้าที่ช่วยเหลือและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานทั้งหมด รวมถึงประสิทธิผลให้กับองค์กร จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากองค์กรจะให้ความสำคัญกับตำแหน่งงานนี้มากขึ้น 

หากคุณกำลังสนใจงานสายนี้หรือกำลังสงสัยว่าการเป็นผู้จัดการจะเหมาะกับคุณไหม วันนี้ ConNEXT มีคำตอบมาฝาก ไปดูกันเลย! 

ข้อดี–ข้อเสีย ของอาชีพผู้จัดการคืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นอาชีพที่องค์กรต้องการตัวมากที่สุด

อาชีพผู้จัดการ หรือ Management คืออะไร

ปกติแล้วหน้าที่ของผู้จัดการ คือการบริหารทีม บริหารทรัพยากร ให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ โดยผู้จัดการที่ดีจำเป็นต้องมีทักษะในการสื่อสารที่ดี การตัดสินใจที่เด็ดขาด และมีการแก้ปัญหาที่ดีด้วย 

ซึ่งหากพูดถึงรายได้รู้หรือไม่ว่ารายได้โดยเฉลี่ยของ Management นั้นอยู่สูงกว่าตำแหน่งงานอื่นๆ ซึ่งจากรายงานของ Bureau of Labor Statistics  หรือสำนักงานสถิติแรงงานแห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า กลุ่มอาชีพการจัดการมีรายได้เฉลี่ยสูงสุดถึง 102,450 ดอลลาร์/ปีหรือประมาณ 3,560,188 บาท/ปี 

อาชีพผู้จัดการ หรือ Management มีกี่ประเภท? 

Bridgitt Haarsgaard ผู้ก่อตั้งบริษัท GAARD Group กล่าวว่า “ผู้จัดการจะต้องจัดการได้ทุกอย่างตั้งแต่การจัดการบุคลากร โครงการ จนถึงเรื่องการเงิน” โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้ 

1. ผู้จัดการฝ่ายบุคคล (People Management Manager)

ผู้จัดการฝ่ายบุคคลมีหน้าที่รับผิดชอบภาพรวมของสมาชิกในทีม โดยส่วนใหญ่ผู้จัดการจะมีหน้าที่ในการจัดการเรื่องทั่วไปเช่น การบริการลูกค้า การบริหารบุคคลภายในทีม กำหนดการทำงาน หรือดูแลการว่าจ้าง 

2. ผู้จัดการโครงการ (Project Manager)

ผู้จัดการโครงการมีหน้าที่ในการดูแลโปรเจกต์ต่าง ๆ ของบริษัทซึ่งหลัก ๆ แล้วจะเน้นไปที่การดูภาพรวมของระบบการทำงาน และทำให้ทีมมั่นใจว่าการดำเนินงานจะมีประสิทธิภาพและเสร็จในระยะเวลาที่กำหนด

3. ผู้จัดการทรัพยากร (Human Resources Manager)

ผู้จัดการทรัพยากรมีหน้าที่ในการทำบัญชีและแจกจ่ายทรัพยากร เช่น พนักงาน หรือการเงิน ผู้จัดการจะใช้งบประมาณและทรัพยากรที่มีอยู่เหล่านี้ พัฒนาให้ธุรกิจทำงานได้ง่ายมากขึ้นและมีประสิทธิภาพภายในขอบเขตที่ตัวเองมี

อาชีพผู้จัดการ หรือ Management ทำหน้าที่อะไรบ้าง

โดยปกติแล้ว ผู้จัดการจะมีหน้าที่ดังนี้

  • กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์
  • ใช้และสังเกตุการณ์กลยุทธ์
  • กระตุ้นสมาชิกในทีม
  • แก้ปัญหาความขัดแย้ง
  • ทำให้แน่ใจว่างานจะเสร็จตามเวลา

โดยรวมแล้ว ผู้จัดการจะมีหน้าที่พัฒนาและใช้กลยุทธ์ส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จภายในทีมหรือองค์กร โดยการมอบหมายงาน กำหนดแนวทางการทำงานของพนักงาน บริหารงบประมาณ และประสานงานกับคนภายในองค์กร

ข้อดีและข้อเสียของการเป็นผู้จัดการ หรือ Management

ดังคำพูดที่ว่า“พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง” ถึงแม้ตำแหน่งผู้จัดการจะมีรายได้ที่สูงกว่าพนักงานทั่วไป แต่พวกเขาก็ยิ่งต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ อีกเท่าตัวเช่นกัน

ข้อดี 

  • มีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่สำคัญของบริษัท
  • มีอิสระในการทำงาน
  • มีโอกาสก้าวหน้าในการพัฒนาอาชีพมากกว่าอาชีพอื่น
  • มีรายได้เพิ่มขึ้น

ผู้จัดการมีแนวโน้มที่จะได้รับรายได้มากขึ้น เนื่องจากมีความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารทรัพยากร พนักงาน และโปรเจกต์ต่างๆ ของบริษัท

ข้อเสีย 

  • มีภาระงานที่หนักขึ้น
  • ต้องมีการสนทนาที่ไม่สบายใจ

ส่วนสำคัญของการจัดการคือการคุยอย่างตรงไปตรงมากับพนักงานเรื่องผลงานของพวกเขา

  • มีความเครียดสูง
  • ต้องทำงานนอกเวลามากกว่าอาชีพอื่นซึ่งตามรายงานของสำนักงานสถิติแรงงานแห่งสหรัฐอเมริกา พนักงานในสายงานการจัดการจะมีชั่วโมงทำงานต่อสัปดาห์มากกว่าอาชีพอื่น ๆ

สุดท้ายนี้ ConNEXT หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ทุกคนที่อยากเติบโตและวางแผนไว้ในสายอาชีพนี้ และขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จนะ ถึงสายงานนี้จะหนัก แต่ผลตอบแทนก็ดีเกินคาดอย่างแน่นอน


เขียนโดย : Weerapat Nenbumroong

อ้างอิง : thebalancemoney

No comment

คัดลอก URL

×

https://techsauce.co/talentsauce/talent-insights/why-has-it-become-the-most-sought-after-employment-among-businesses