ก่อนที่เทคโนโลยีจะมีชื่อเสียงเหมือนทุกวันนี้ รู้หรือไม่ว่าคอมพิวเตอร์ในยุคแรกๆ ถูกสร้างขึ้นโดยผู้หญิงที่มีพรสวรรค์ในเรื่องตัวเลขอย่าง Ada Lovelace ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “โปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์คนแรกของโลก” ในช่วงทศวรรษที่ 1840 มีวิสัยทัศน์ที่ทำนายไว้ว่าในอนาคตคอมพิวเตอร์จะสามารถทำอะไรได้บ้าง ในตอนนั้นการที่เธอเป็นผู้หญิงจึงไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้มากนัก ซึ่งทุกวันนี้คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกคน แต่ก็มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในศตวรรษที่ 21 วันนี้ ConNEXT จะพาไปดูว่าเทคโนโลยีกลายเป็นพื้นที่ของผู้ชายอย่าง Steve Jobs มากกว่าผู้หญิงอย่าง Katherine Johnson ได้อย่างไร ไปดูกันเลย!
ทำไมในสมัยก่อนเทคโนโลยีถูกมองว่าเหมาะกับผู้หญิง
เหตุผลแรกที่สาขาเทคโนโลยีถูกมองว่าเหมาะกับเพศผู้หญิงในสมัยที่ NASA ยังถูกเรียกว่า NACA อยู่ นั่นเป็นเพราะไม่มีการแบ่งแยกใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำงานประมวลผลข้อมูลในการทำงานกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นงานที่น่าเบื่อและซ้ำซากจนไม่คิดว่าจะกลายมาเป็น “ทักษะ” ภายในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าการคำนวณปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์จะต้องใช้ทักษะทักษะขั้นสูง คอมพิวเตอร์ยังถูกโฆษณาว่าเป็น “อาชีพสำหรับผู้หญิง” และเป็นตัวแทนในการเขียนโค้ด แต่ผลงานของพวกเธอกลับถูกมองว่า “งานนี้ง่ายพอที่ผู้หญิงจะสามารถทำได้อยู่แล้ว” พวกเธอจึงไม่ได้รับการยกย่องใดๆ เลย
ทำไมเทคโนโลยีในยุคนี้จึงเปลี่ยนไป?
ย้อนกลับไปในสมัยที่ Grace Hopper หรือ เกรซ ฮอปเปอร์ นักเขียนโปรแกรม กำลังเขียนโปรแกรมคอมไพเลอร์หรือโปรแกรมแปลภาษาเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้ ผู้ชายก็กำลังทำงานเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ (Hardware) โดยซอฟต์แวร์ (Software) เป็นหน้าที่ที่ผู้หญิงเป็นคนจัดการ แต่หลังจากที่คอมพิวเตอร์ใช้งานได้ สามารถพูดคุยระหว่างเครื่องได้และสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน พวกเขาก็เห็นถึงความสำคัญว่าซอฟต์แวร์คืออนาคตของเทคโนโลยี
ชื่อของ Steve Jobs และ Bill Gates กลายเป็นชื่อที่เราได้ยินเป็นประจำเมื่อพูดถึงเรื่องเทคโนโลยี วิดีโอเกมก็ถูกสร้างและขาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กผู้ชาย แม้แต่หลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกโฆษณาว่า “สำหรับเด็กผู้หญิง” ก็เต็มไปด้วยเด็กผู้ชาย และหลังจากจำนวนของคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นในยุค 80 และ 90 ผู้หญิงประมาณ 37% สำเร็จการศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ในปี1984 แต่ในปี 2021 ผู้หญิงที่สำเร็จการศึกษาในด้านนี้ลดลงเหลือเพียง 18% เท่านั้น
แล้วทำไม UX จึงเหมาะกับผู้หญิง?
ในปี 2022 ผู้หญิง 28% ทำงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่ข้อมูลจาก Zippia ในสหรัฐอเมริกาผู้ที่ทำงานออกแบบ UX เป็นผู้หญิงประมาณ 40% ในตอนนี้อาจฟังดูไม่น่าประทับใจ แต่ตัวเลขเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติในโลกเทคโนโลยีที่ถูกผู้ชายกลืนกินไป เราจะมาดู 2 เหตุผลว่าทำไมจึงมีผู้หญิงจำนวนมากเมื่อพูดถึง UX
1. UX เป็น STEM พื้นฐานเบื้องต้น
จากข้อมูลของ NSF (National Science Foundation: มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติอเมริกา) เกี่ยวกับผู้หญิงที่จบการศึกษาในสาขาวิชา STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) โดย 38% ผู้หญิงที่เรียนในวิชาเอกวิทยาการคอมพิวเตอร์จบมาแล้วทำงานตรงสาย เมื่อเทียบกับ 53% ของผู้ชาย อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึง UX ผู้หญิงที่เรียนสาขาอื่นๆ กำลังให้ความสนใจกับสายงานนี้เป็นอย่างมาก
ผู้คนส่วนใหญ่มักจะมีคำถามว่า UX ที่เป็นการออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของ STEM จริงหรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับความรู้สึกและการรับรู้เป็นส่วนใหญ่ การมองว่า UX เป็นเพียงแค่ศิลปะเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ถูกต้อง การออกแบบ UI/UX นั้นไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความสวยงาม แต่มันเกี่ยวกับการนำผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยี แต่ UX ก็ยังถูกมองว่าเป็น STEM เบื้องต้นและไม่จำเป็นต้องจบปริญญาตรีด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ในการทำงานด้านนี้
2. ผู้หญิงมีความเห็นอกเห็นใจมากกว่า
การเอาใจใส่เป็นพื้นฐานที่สำคัญของประสบการณ์ผู้ใช้งาน คุณจะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ได้อย่างไรบ้าง คุณต้องเข้าใจความต้องการของพวกเขาว่าพวกเขาต้องการและรู้สึกอย่างไร โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงจะเก่งในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เมื่อคุณรับรู้ความต้องการของผู้ใช้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะประสบความสำเร็จในการออกแบบมากยิ่งขึ้น
ในการศึกษาจาก University of Cambridge นักวิจัยพบว่า “ผู้หญิงทำคะแนนโดยเฉลี่ยสูงกว่าผู้ชายในเรื่องการรับรู้ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น” หมายความว่าผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเข้าใจว่าคนๆ หนึ่งอาจมีความคิดหรือรู้สึกอย่างไร จากนั้นก็ใช้ข้อมูลเหล่านั้นมาทำนายว่าคนเหล่านั้นจะทำอะไรหรือต้องการอะไร
ในสายงานเทคโนโลยีก็ยังคงมีผู้หญิงที่ทำงานในด้าน UX เป็นจำนวนมากและถือเป็นอีกงานหนึ่งที่เหมาะกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก ถ้าหากคุณสนใจในงานด้านเทคโนโลยี การออกแบบ UX ก็ถือเป็นอีกหนึ่งงานที่น่าสนใจ
เขียนโดย : Nichaphat Srijumpa
อ้างอิง : uxdesign, nsm