หากคุณกำลังหางานใหม่ การทำให้คนในแวดวงของคุณรับรู้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะคนเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณหางานใหม่ได้เร็วยิ่งขึ้น และการแนะนำงานของคนที่น่าเชื่อถือมักจะมีประสิทธิภาพกว่าการยื่นใบสมัครที่ต้องแข่งกับคนมากมาย

หากคุณกำลังมองหางานใหม่แต่ไม่รู้ว่าจะประกาศให้คนในแวดวงทราบได้อย่างไร ลองอ่านวิธีต่อไปนี้แล้วลองนำไปใช้ได้เลย

อัปเดต LinkedIn

วิธีหนึ่งที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการบอกให้คนอื่นรู้ว่าคุณกำลังหางานใหม่คือการประกาศทาง LinkedIn ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสร้างเครือข่ายที่สำคัญที่สุด ดังนั้น หากคุณยังไม่มีบัญชี LinkedIn ควรจะรีบสมัคร

โดยใน LinkedIn คุณควรจะระบุว่ากำลังหางานใหม่ วิธีการทำที่ง่ายสุดคือการเพิ่ม Tagline ในโปรไฟล์ โดยสามารถเพิ่มวลีใดวลีหนึ่งต่อไปนี้:

• Looking for new role in [สายงาน]
• Searching for [สายงาน] roles
• Open to new opportunities in [สายงาน]

ทั้งนี้ คุณอาจจะเขียน Tagline อะไรก็ได้ตามที่ต้องการ แต่อย่าลืมว่าต้องใช้คำที่คิดว่าฝ่าย HR จะค้นหา ถ้าจะให้ดีคุณควรจะระบุสายงานที่ต้องการทำพร้อมกับวลี “Job Searching”

นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เข้าไปที่ Privacy Settings ใน LinkedIn และเลือกตัวเลือก “Let recruiters know you’re open to opportunities.” เพราะเวลาฝ่าย HR กำลังหาบุคลากรเข้าทำงานจะได้มองเห็นโปรไฟล์ของคุณ

ส่งเรซูเม่ไปยัง HR ที่คุณรู้จัก

อีกวิธีที่จะทำให้ค้นหางานได้เร็วขึ้นคือส่งเรซูเม่ไปยัง HR ที่คุณเคยร่วมงานด้วย ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ดีในการค้นหาโอกาสใหม่ๆ สำหรับคนที่ไม่ต้องการป่าวประกาศให้คนนอกที่ไม่ได้สนิทรับรู้

โดยเรซูเม่ที่ส่งไปนั้นคุณต้องเพิ่มตำแหน่งงานที่ทำอยู่ปัจจุบันลงไปด้วย และตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้ข้อมูลพอดีกับสองหน้ากระดาษ จากนั้นให้ปรับแต่งเรซูเม่ให้เข้าประเภทของงานที่คุณจะสมัคร รวมถึงใส่ข้อมูลหรือตัวชี้วัดที่บ่งบอกว่าคุณสามารถสร้างอิมแพคต่อสายงานนั้นๆ ได้

นอกจากนี้ การสร้างเครือข่ายกับอดีตเพื่อนร่วมงานก็เป็นอีกวิธีที่ดีในการหางานใหม่ คุณสามารถให้คนเหล่านี้แนะนำงานหรือถามดูว่ามีที่ไหนเปิดรับสมัครที่ตรงกับสายงานคุณบ้าง เพราะการมีบุคคลที่สามที่น่าเชื่อถือแนะนำงานจะทำให้คุณมีโอกาสได้สัมภาษณ์งานมากกว่า

เพิ่มข้อมูลในคำลงท้ายในอีเมล 

ในการติดต่อกับองค์กรหรือนายจ้าง คุณควรจะมีการปรับแต่งคำลงท้ายในอีเมลเพื่อเป็นการบ่งบอกว่าคุณกำลังมองหางานอยู่ โดยสามารถเพิ่มข้อมูลต่อไปนี้:

• เบอร์โทรศัพท์

• โปรไฟล์ LinkedIn 

• พอร์ตฟอลิโอ (ที่เป็นเว็บไซต์หรือบล็อก)

• วลีหรือ Tagline ที่บ่งบอกว่าคุณกำลังหางาน

ทั้งนี้ คุณไม่ควรใส่ช่องทางการติดต่อทางโซเชียลมีเดียมากเกินไป ให้ใส่เฉพาะช่องทางที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางอาชีพเท่านั้น เช่น LinkedIn 

เข้าร่วมงานอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับสายงาน

การเข้าร่วมงานอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับสายงานถือเป็นวิธีที่ดีในการสร้างเครือข่ายกับคนอื่นและค้นหาโอกาสงาน คุณสามารถค้นหากิจกรรมที่อยู่ใกล้ๆ ได้ง่ายๆ ผ่าน LinkedIn เพียงแค่ค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้องแล้วกดคำว่า “event” เพื่อกรองผลลัพธ์ จากนั้นคุณจะเห็นรายชื่อผู้ที่จะเข้าร่วมงาน เพื่อเอาไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจว่าควรจะไปดีหรือไม่

การเข้าร่วมงานอีเวนต์สามารถช่วยค้นหางานได้ เนื่องจากคุณจะได้สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ และตามทันทุกข่าวสารเกี่ยวกับโอกาสในสายงานนั้นๆ นอกจากนี้ การได้พูดคุยแบบเห็นหน้ายังทำให้มีโอกาสได้งานมากกว่าการส่งอีเมลอีกด้วย

ตัวอย่างอีเวนต์งานที่กำลังจะมีการจัดอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทยคืองาน Techsauce Global Summit 2022 ซึ่งจะจัดวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ ณ ไอคอนสยาม เรียกได้ว่าเป็นงาน Tech Conference ระดับเอเชียที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน หรือเจ้าของธุรกิจที่อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้และต้องการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ หากสนใจสามารถซื้อบัตรราคาพิเศษได้ที่ https://bit.ly/3NXwoPU

ใช้ความระมัดระวัง

แน่นอนหากคุณกำลังหางานใหม่ คุณคงไม่อยากให้นายจ้างคนปัจจุบันทราบ เคล็ดลับต่อไปนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าเจ้านายจะไม่รับรู้เรื่องนี้:

• ปิดการส่งแจ้งเตือนของ LinkedIn หากนายจ้างของคุณใช้งาน LinkedIn คุณควรระมัดระวังเวลาโพสต์อัปเดตความเคลื่อนไหวบนหน้าเพจของคุณ ทางที่ดีคุณควรเข้าไปที่ Privacy Settings และปิดใช้งานตัวเลือก “Notify My Network” ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ไม่มีการส่งแจ้งเตือนไปยังเจ้านายว่าคุณกำลังจะลาออกจากงาน
• พยายามทำให้โปรไฟล์ LinkedIn เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ การแปลงโฉมหน้าโปรไฟล์ LinkedIn แบบกะทันหันทีเดียวโดยที่คนอื่นไม่ทันตั้งตัว อาจทำให้นายจ้างหรือเพื่อนร่วมงานของคุณอาจรู้สึกแปลกใจได้
• อย่าทำงานหย่อนยาน คุณต้องทำงานเป็นปกติและส่งงานตรงตามเวลา นายจ้างของคุณอาจรู้สึกสงสัยหากคุณเริ่มทำงานหย่อนยานหรือไม่มีความกระตือรือร้น
• อย่ารับสายในที่ทำงาน หากคุณจะรับสายเพื่อสัมภาษณ์งาน ควรจะนัดสัมภาษณ์ในเวลาที่ไม่ได้อยู่ที่ทำงาน คุณอาจนัดโทรในวันที่ Work From Home หรือในช่วงพักกลางวัน

เขียนโดย Parinya Putthaisong

อ้างอิง Fast Company