พร้อมให้บริการแล้ววันนี้! Piggipo ประกาศเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ 4.0 (Beta) ด้วยฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำ "ระบบอัปเดตรายการใช้จ่ายอัตโนมัติ"ได้เป็นเจ้าแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานขี้เกียจบันทึก พร้อมให้บริการแล้ววันนี้บน AppStore สำหรับสาวกแอนดรอยด์อย่าเพิ่งน้อยใจ คาดว่าอีกไม่เกินสองเดือนได้ใช้แน่นอน
ก่อนหน้านี้ฟีเจอร์หลักใน Piggipo คือ ผู้ใช้สามารถบันทึกและดูยอดค่าใช้จ่ายของบัตรทุกใบได้ในหน้าแรกของแอป แสดงวันตัดรอบบิล แสดงวันครบกำหนดชำระเงินพร้อมระบบแจ้งเตือน สรุปยอดการใช้จ่ายและวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายออกมาเป็นกราฟที่ดูง่าย เป็นต้น
คุณสุพิชญา สูรพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนเวอร์ซิทอัพ จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่น Piggipo กล่าวว่า "เราได้ทำการสำรวจและวิจัยพบว่า คนไทยและผู้ใช้งานส่วนใหญ่มีบัตรเครดิตเฉลี่ยคนละ 3 ใบ ซึ่งทำให้ยากต่อการบริหารจัดการ Piggipo ได้ต่อยอดและพัฒนาในส่วนของฟีเจอร์การใช้งานจากเดิมที่ผู้ใช้งานต้องบันทึกข้อมูลการใช้จ่ายเข้าไปเอง มาเป็นระบบอัปเดตรายการใช้จ่ายอัตโนมัติ ตามคำเรียกร้องของผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่มักจะมีปัญหาในการลืมและขี้เกียจบันทึกแต่อยากรู้ว่าตัวเองใช้จ่ายไปแล้วเท่าไร โดยรายการใช้จ่ายจะแจ้งเตือนในแอปพลิเคชั่น Piggipo หลังจากคุณรูดบัตรเครดิตแล้วภายใน 1-3 วัน ต้องบอกว่า Piggipo ถือได้ว่าเป็นฟินเทคสายเลือดไทยเจ้าแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีระบบอัพเดทรายการใช้จ่ายอัตโนมัติ และเปิดตัวให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้แล้วบน AppStore สำหรับสาวกแอนดรอยด์อย่าเพิ่งน้อยใจ คาดว่าภายในปีนี้ได้ใช้แน่นอน”
ซึ่งปัจจุบันในเวอร์ชั่นเบต้านี้รองรับบัตรเครดิตแล้วจากสามสถาบันดังภาพ และจะมีการเพิ่มเติมสถาบันต่างๆ อีกในอนาคต
"ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย แอปพลิเคชั่นไม่มีการให้ใส่ข้อมูลส่วนตัวทั้งชื่อจริงและนามสกุลจริง, ไม่มีการให้ใส่เลขบัตรเครดิต 16 หลัก, เลขท้าย 3 ตัวหลังบัตรเครดิต (CVV) และวันหมดอายุของบัตร ดังนั้นแอปจึงไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้ หรือจะเรียกได้ว่าใช้สำหรับดูข้อมูลได้เพียงอย่างเดียว อีกทั้งการทำธุรกรรมในการซื้อขาย หรือโอนเงินจำเป็นที่จะต้องใช้ one-time password (OTP) จึงมั่นใจได้ว่าบัตรเครดิตของคุณจะไม่ถูก Hack และเงินในบัญชีจะไม่หายอย่างแน่นอน นอกจากนี้ข้อมูลของผู้ใช้งานจะถูกป้องกันไว้อย่างแน่นหนา ในฐานข้อมูลแยกจากกันโดยใช้ฮาร์ดแวร์หลายชั้น และการเข้ารหัสซอฟท์แวร์รับรองด้วย SSLCertificate ที่มีรายละเอียดการเข้ารหัสสูงถึง 256 bitซึ่งเป็นมาตราฐานความปลอดภัยระดับสูงแบบเดียวกับที่สถาบันการเงินทั่วโลกใช้ อีกทั้งระบบเชื่อมต่อกับธนาคารยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสถาบันที่มีชื่อเสียงทางด้าน Online Security ไม่ว่าจะเป็น PCI-DSS, US-EU Safe Harbor, TRUSTe, และ APEC CBPR โดยเราจะเก็บข้อมูลที่จำเป็นเพื่อใช้ในการอัพเดทรายการใช้จ่ายแบบอัตโนมัติ และตรวจสอบรายการที่ผิดปกติเท่านั้น และเหนือสิ่งอื่นใด Piggipo ให้ความสำคัญและคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน เรามี ข้อกำหนดและเงื่อนไข ในการใช้งานอย่างชัดเจนก่อนที่จะเริ่มจะใช้งานแอพพลิเคชั่น จึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับ ไม่มีการขายหรือส่งต่ออีเมลล์แอดเดรสและข้อมูลส่วนตัวให้กับบุคคลอื่น โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้งานอย่างแน่นอน สบายใจ หายห่วง ให้ Piggipo ช่วยจัดการ" คุณสุพิชญา กล่าวเสริม
Piggipoเป็นฟินเทคสตาร์ทอัพไทยที่ชนะเลิศในโครงการdtac Accelerateปี 2557 ได้รับรางวัลไปเข้าร่วมโครงการBlackbox ที่ Silicon Valley ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังได้รับการลงทุนจากกองทุนชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น 500TukTuKs, Golden Gate Ventures, dtac Accelerate, Ookbee และ SeedersClub และในปีที่แล้ว ได้ประกาศความร่วมมือกับ Maybank ธนาคารอันดับ 1 ของมาเลเซียเพื่อเปิดตัวแอปพลิเคชั่นแบบเดียวกับ Piggipoในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แบรนด์ Credit Mavin
สำหรับท่านที่มีคำแนะนำ ติชม หรืออยากพูดคุยสามารถติดต่อได้ทางช่องทางต่อไปนี้
พิเศษสุดๆ เฉพาะวันนี้ - 30 มิถุนายน 2559 สามารถทดลองใช้ Piggipoเวอร์ชั่นใหม่ 4.0 (Beta) พร้อมระบบอัพเดทรายการใช้จ่ายอัตโนมัติได้ฟรีก่อนใคร เป็นระยะเวลา 30 วัน เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Piggipo จาก AppStore (ลิ้งค์ดาวน์โหลด : https://goo.gl/ObdB0F ) และใส่ Promo Code : PIGGIPOBETA และสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการบันทึกรายการใช้จ่ายเอง สามารถดาวน์โหลดแอปฯ Piggipoมาใช้งานได้ฟรี จาก AppStore และ Google Play Store
(update 11 มิถุนายน 2559)
สำหรับผู้อ่านที่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย คุณสุพิชญาได้เขียนแถลงเรื่องความปลอดภัยเพิ่มเติม โดยมีใจความดังนี้ต่อไปนี้:
1. เราเชื่อมต่อรายการมาได้อย่างไร - เราเชื่อมต่อผ่านตัวกลางที่ทำหน้าที่เป็น ผู้อัพเดตรายการผ่านบัตรเครดิตให้ค่ะ 2. ตัวกลางเราคือใคร - ตัวกลางเราเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อกับแบงค์ต่างๆทั่วโลก มีมากกว่า 820 สถาบันการเงินที่เชื่อมต่อกับเขา 3. แล้ว Piggipo เก็บข้อมูล Username password ที่เราใส่เข้าไปไหม - Piggipo ไม่ได้เก็บ Username password นี้ไว้เลย เราปล่อยให้เป็นหน้าที่บริษัทตัวกลางที่มีมาตราฐานความปลอดภัยระดับโลกดูแลเรื่องนี้ให้ โดยเขามีระบบเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยที่สุด เก็บไว้ในรูปแบบของ Hash(พูดง่ายๆคือสมมุติพาสเวิร์ดคือ1234 พอเข้ารหัสแบบ Hash จะกลายเป็น codeอะไรไม่รู้ ที่อ่านไม่ออก และใครก็ตามที่เข้ามาไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถแปลงกลับมาเป็นเลข 1234 ได้อีก เพราะมีการ ใช้ ฮาร์ดแวร์ Encryption ไว้แยกออกจากตัว Software อย่างสิ้นเชิง) นั่นหมายความว่าทั้ง Piggipo และคนในบริษัทตัวกลางเอง เขาก็ไม่สามารถรู้ password ของเราเช่นเดียวกัน 4. แล้วเขาจะเอา username password หรือข้อมูลของเราไปทำอะไรไหม - เขาไม่สามารถทำได้!! เพราะเขาเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯเขาถูก auditted และควบคุม โดยเจ้าหน้าที่รัฐ ของสหรรัฐฯตลอด ทั้งในเรื่องมาตราฐานความปลอดภัยและ ไม่มีสิทธิ์ในการเก็บข้อมูลที่เป็น personal identifier เลย - ที่สำคัญมันเป็นธุรกิจหลักของเขาที่ทำมามากกว่า 17 ปี และไม่เคยมีประวัติเสียหาย ในการให้บริการทั้งกับ bank และ startup ทั่วโลก 5. มีใครใช้ระบบนี้อยู่บ้าง? - Piggipo เองกว่าที่จะสามารถ Partner กับเขาได้ และใช้ระบบของเขาได้ จะต้องผ่านมาตราฐานความปลอดภัยต่างๆที่เขากำหนดมากมาย ดังนั้นแอพที่ใช้ระบบของเขาส่วนใหญ่เป็นแอพที่ค่อนข้างดังในด้านนี้ในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น - Mint.com ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาใช้ระบบนี้จนกระทั่งถูกซื้อโดยบริษัท Intuit มูลค่าหลายพันล้านบาท เมื่อ ปี 2009 - Billguard แอพการเงินระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับจาก Apple - Xero โปรแกรมระบบบัญชีสำหรับ SME สตาร์ทอัพยูนิคอร์น จากออสเตรเลีย - Pocketsmith ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ที่ - Moneysmart.sg ที่ประเทศสิงคโปร์ และแอพอื่นๆที่มีชื่อเสียงอีกมากมายทั่วโลก 6. แล้วข้อมูลการใช้งานในแอพจะเอาไปใช้ทำอะไร - ข้อมูลของผู้ใช้งานจะถูกเก็บรักษาไว้เพื่อใช้เป็นประโยชน์แก่ตัวผู้ใช้งานเองเท่านั้น แอพของเราไม่สามารถนำข้อมูลของผู้ใช้งานไปขาย หรือล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวใดของเขาได้เด็ดขาด ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่า ข้อมูลของผู้ใช้ทุกคน ถูกเก็บเป็นความลับสูงสุด และใช้เพื่อประโยชน์ในการบริหารการเงินของผู้ใช้งานเองเท่านั้น รายละเอียดอื่นๆนอกเหนือจากนี้ สามารถอ่านได้จาก FAQ ของเราที่ https://www.piggipo.com/th/faq.php
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด