อย่างที่รู้กันดีว่าทุกวันนี้โลกได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วจนบางทีเราเองก็ตามไม่ทัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมขึ้นมาเพื่อช่วยในการทำงานพร้อมตอบสนองความต้องการของผู้คนได้รวดเร็วอย่าง AI 

ถ้าพูดถึง AI เชื่อเลยว่าคงมีเพื่อน ๆ หลายคนอาจคิดว่า AI จะเข้ามาแย่งงานเราหรือเปล่า? ซึ่งจะบอกว่าจริง ๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้กับ AI เลย แต่เราสามารถร่วมมือและทำงานอยู่ด้วยกันได้ หากใครที่สงสัยว่าเรากับ AI จะทำงานด้วยกันได้ยังไงบทความนี้มีคำตอบ! 

วิธีปรับตัวให้ได้งานในยุคที่ AI กำลังมาแรง 

ศึกษาเกี่ยวกับ AI

ในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในโลกของการทำงาน แม้แต่อาชีพวิศวะ พนักงานขาย นักการตลาด ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินไปจนถึงทนายความก็ล้วนใช้ประโยชน์จาก AI ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราควรทำคือการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ AI เพื่อที่เราจะได้มีความรู้ไปปรับใช้ในการทำงานเพราะถ้าเรามีความรู้ในเรื่องของ AI อาจจะทำให้ HR พิจารณาเรามากขึ้นและมีโอกาสที่จะได้งานก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย 

ดังนั้นถ้าเราอยากได้งานในยุคที่ AI กำลังมาแรงแบบนี้เราควรตั้งคำถามพร้อมหาคำตอบว่าเราจะสามารถเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และพัฒนาความสามารถในเรื่องของ AI ได้อย่างไร? เพราะนี่คือหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เราไม่ตกงานในยุค AI 

เรียนรู้การใช้ประโยชน์จาก AI   

อย่างที่เรารู้กันมีหลายบริษัทที่เริ่มนำ AI มาปรับใช้ในการทำงาน สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเราจะทำตัวเฉยเมยไม่สนใจเรื่องที่เกี่ยวกับ AI ไม่ได้แล้ว เพราะถ้าเราอยากจะได้งานเราก็ควรศึกษาว่า AI สามารถสร้างประโยชน์อะไรให้กับเราได้บ้าง? 

ยกตัวอย่างเช่น Daniel Shapero ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ LinkedIn เครือข่ายอินเตอร์เน็ตด้านอาชีพและธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้นำ AI มาปรับใช้ในการทำงานโดยการใช้ ChatGPT มาช่วยในการปรับแผนงานผลิตภัณฑ์ของบริษัทซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้แต่บริษัทใหญ่ ๆ ก็ยังเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมและสร้างประโยชน์จาก AI เช่นเดียวกัน

AI มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิด  

ในปัจจุบันจะเห็นว่า AI ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยพัฒนาแอปพลิเคชันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Google, Socratic, Netflix, Spotify, Youper นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยให้การทำงานของเราง่ายมากขึ้นไม่ว่าจะช่วยเราเขียนโปรแกรม แปลงภาพเป็นข้อความ ถอดไฟล์เสียงหรือวิดีโอไปจนถึงช่วยเราคิดคอมเทนต์ต่าง ๆ 

นอกจากนี้ Jamie Dimon ประธานและซีอีโอแห่ง JPMorgan Chase บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ของโลกกล่าวว่าในอนาคตเราอาจมีเวลาทำงานสัปดาห์ละสามวันครึ่งเนื่องจาก AI จะเข้ามาช่วยให้เราทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คำแนะนำด้านอาชีพที่ดีที่สุดของ Daniel Shapero หรือผู้บริหาร LinkedIn   

Shapero แนะนำว่าสิ่งที่สำคัญในการทำงานร่วมกันคือควรมีความยืดหยุ่นในการทำงานและควรเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในที่ทำงานของตัวเองด้วย อีกหนึ่งคำแนะนำคือให้เราเลือกทำงานกับกลุ่มคนที่อนุญาตให้เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้และไม่ทำให้เรารู้สึก Toxic ในการทำงานเพื่อที่เราจะได้มีความสุขและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใครที่คิดว่า AI จะเข้ามาแย่งงานหรือเป็นสิ่งที่จะทำให้เรามีโอกาสในการได้งานน้อยลจะบอกว่าความคิดนี้ก็ไม่ได้ผิด แต่อยากให้ทุกคนลองเปลี่ยนมุมมองตรงจุดนี้ดูว่าจะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถเรียนรู้วิธีปรับตัวและเติบโตในหน้าที่การงานของเราไปพร้อม ๆ กับ AI เพราะ AI กับเราไม่ใช่คู่แข่งกันแต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ช่วยทำให้เราทำงานได้สะดวกขึ้นมากกว่า  

เขียนโดย : Monnapha Wangchanakul 

อ้างอิง: itprotoday