ฝึกงานอย่างไร ให้ได้งานทำ? กับ ‘4 เคล็ดลับการฝึกงาน’ ให้ได้งานในฝัน | Techsauce
talentsauce logo
ฝากประวัติ ค้นหา Tech Talent Talent Insights Job Hack Life Hacks News Video Podcast
ฝึกงานอย่างไร ให้ได้งานทำ? กับ ‘4 เคล็ดลับการฝึกงาน’ ให้ได้งานในฝัน
By Connext Team มิถุนายน 9, 2021
share facebook icon share facebook icon hover share x icon share x icon hover share line icon share line icon hover share icon share icon hover

ช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังแย่งชิงงานในตลาดที่มีอยู่น้อยนิด งานประจำกลายเป็นสมบัติล้ำค่าที่ทุกคนต่างปรารถนา อย่างไรก็ตาม เมื่อจำนวนผู้สมัครงานเยอะ แต่จำนวนงานที่มีในตลาดน้อย ผู้คนมากมายต่างต้องพบกับความผิดหวังจากการตกสัมภาษณ์งานนับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้น เมื่อโอกาสในการได้งานประจำเป็นไปได้ยาก การลองเริ่มต้นจาก ‘การฝึกงาน’ แล้วค่อยบรรจุเป็นพนักงานประจำ ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้นะ

 Credit ภาพประกอบจาก: freepikแน่นอนว่า การสร้างความประทับใจจากการฝึกงาน จนกระทั่งได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ ก็นับว่าเป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกัน เนื่องจากมันต้องอาศัยทั้งความสามารถและจังหวะเวลาที่เหมาะสมควบคู่กัน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะทำได้แค่รอความหวังลมแล้งๆ แล้วกลับบ้านมือเปล่านะ เพราะฉะนั้น บทความนี้เราจะร่วมค้นหากันว่า เราควรทำอย่างไรและมีวิธีการไหนบ้าง? ที่จะช่วยให้เราทำงานได้อย่างโดดเด่นในระหว่างฝึกงาน จนกระทั่งเจ้านายอยากที่จะร่วมงานกับเราต่อไปในฐานะพนักงานประจำ

อย่ารอให้ใครป้อนงาน แต่ต้องวิ่งเข้าหางานด้วยตนเอง

แม้ว่าการเริ่มต้นฝึกงานช่วงแรกๆ จะเป็นเรื่องที่ยากลำบากไปสักหน่อย โดยเฉพาะเมื่อต้องฝึกงานที่อาจจะไม่ตรงสายกับสิ่งที่เรียนมา แต่เมื่อเริ่มปรับตัวกับการทำงานได้แล้ว พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เจ้านายและเพื่อนร่วมงานเห็นถึงความตั้งใจของเราให้ได้มากที่สุด เพราะ มันจะสะท้อนให้ผู้อื่นเห็นว่า เรามีศักยภาพมากพอหรือไม่ ที่จะพัฒนาตนเองไปสู่การทำงานประจำในตำแหน่งนั้น นอกจากนี้ ถึงแม้เราอาจจะไม่ได้อยากร่วมงานต่อกับบริษัทในท้ายที่สุด แต่การสร้างประวัติการฝึกงานที่ยอดเยี่ยมไว้ ก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อการสมัครงานถัดไปในบริษัทและองค์กรอื่นเสมอ

เพราะฉะนั้น อย่ากลัวที่จะเอ่ยปากถามในสิ่งที่เราอยากรู้ และอย่ากลัวที่จะขอเรียนรู้งานเพิ่มเติม เมื่อเรามีเวลาว่างจากการทำงาน เพราะ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้คนเห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาตนเองของเรา และจะนำพาไปสู่ตำแหน่งงานประจำที่เราคาดหวังในท้ายที่สุด

ทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ

บริษัทและองค์กรโดยทั่วไป มักจะมองหาคนที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน และหมั่นพัฒนาทักษะความสามารถของตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม 

Mark Hoplamazian CEO คนสำคัญของ Hyatt Hotels กล่าวไว้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกคนเข้าทำงานสำหรับเขา ไม่ใช่การศึกษาหรือความสามารถสวยหรูที่มี แต่เป็นทัศนคติที่ดีในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพราะเขาเชื่อว่า ความกระตือรือร้น แรงบันดาลใจ และความรักในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จะทำให้คนๆหนึ่งประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด 

เพราะฉะนั้น ในฐานะเด็กฝึกงาน เราต้องพิสูจน์ให้เจ้านายและเพื่อนร่วมงานเห็นว่า เราสามารถเรียนรู้และปรับตัวต่อสิ่งใหม่ๆได้ดีแค่ไหน และจะพัฒนาศักยภาพการทำงานของตนเองไปได้ไกลเพียงใด 

สร้าง First Impression ตั้งแต่วันแรก เพื่อพิชิตใจเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน

ปฎิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเริ่มต้นทำงานที่ใหม่ คือ การทำความรู้จักและปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมงานในที่ทำงาน บางบริษัทให้ความสำคัญกับการเริ่มทำงานวันแรก ด้วยการจัดให้มีกิจกรรมทำความรู้จักและต้อนรับน้องใหม่เข้าสู่ทีม ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะสร้าง First Impression กับเพื่อนร่วมงานของเรา เพื่อสร้างความประทับใจต่อกันตั้งแต่แรก และยังเป็นการปูทางไปสู่การพิจารณาตำแหน่งพนักงานประจำที่ดีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ อย่าลืมว่า เราเข้าไปทำงานในฐานะเด็กฝึกงาน บางครั้ง การวางตัวหรือการแสดงออกที่มากเกินไป อาจเปลี่ยนจากความประทับใจเป็นอคติได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น พยายามสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเจ้านายและเพื่อนร่วมงานอย่างเป็นมิตรและพอเหมาะ หากวันแรกของการทำงานผ่านไปได้ด้วยดี รับรองได้เลยว่า งานประจำที่เราใฝ่ฝันอยู่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน 

ถ้าสมัครงานที่ไหนไม่มีใครรับสักที แต่ก็ไม่อยากฝึกงาน ยังมีทางเลือกอื่นอีกไหม? 

Dr. Heather Berg ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหางานจาก University of Southern California กล่าวว่า จริงๆแล้ว ก็ยังมีอีกหลายวิธีเช่นกัน ที่จะทำให้เราสามารถได้งานประจำทำโดยไม่จำเป็นต้องฝึกงาน

วิธีแรกที่คนส่วนใหญ่มักจะทำกัน คือ การรับงานฟรีแลนซ์ เช่น หากเรามีทักษะความสามารถด้านการออกแบบ แต่ยังหางานประจำทำไม่ได้ ทำไม? ไม่ลองเริ่มต้นจากการรับงานฟรีแลนซ์ เพื่อสั่งสมผลงานและประสบการณ์ไปก่อนสักระยะล่ะ เราสามารถเรียนรู้จากการทำงานด้วยตนเองได้นะ และที่สำคัญไปกว่านั้น คือ ผลงานและประสบการณ์เหล่านั้น ยังจะเป็นส่วนช่วยให้เราได้งานประจำดีๆทำในอนาคตอีกด้วย

และถ้าหากเรายังไม่ได้งานประจำทำ และกำลังนอนอยู่บ้านเฉยๆอย่างสิ้นหวัง การทำงานพาร์ทไทม์ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะ เราก็สามารถหาเลี้ยงชีพและสั่งสมประสบการณ์การทำงาน เพื่อนำไปต่อยอดในการสมัครงานประจำได้เช่นกัน

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าเราจะเริ่มต้นจากการหางานประจำทำตั้งแต่แรก หรืออยากจะลองฝึกงานอีกสักรอบ ด้วยความหวังว่า ทางบริษัทจะรับเราเข้าทำงานต่อในอนาคต การเริ่มต้นชีวิตการทำงานที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย จะทำให้เราประสบความสำเร็จในวันข้างหน้าเสมอ 

อ้างอิง: girlboss

สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจบทความเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน ทักษะที่จำเป็นในอนาคต สามารถลงทะเบียนเพื่อรับอัพเดทข้อมูลข่าวสาร และบทความในอนาคต จาก Techsauce Thailand ได้ ที่นี่ 

No comment

คัดลอก URL

×

https://techsauce.co/talentsauce/job-hack/how-to-convert-from-intern-to-full-time-job-officer