‘รับพิจารณาเด็กจบใหม่ แต่ต้องมีประสบการณ์ในการทำงาน’
ทุกครั้งเวลาเปิดเข้าเว็บไซต์หางาน หรือกลุ่มหางานตามโซเชียลมีเดีย ในฐานะเด็กจบใหม่ เรามักจะสะดุดตากับตำแหน่งงานอะไรก็ตามที่รับพิจารณาเด็กจบใหม่เสมอ เพราะนั่นหมายความว่า เรามีโอกาสที่จะได้งานนั้นไง จะให้ไปสู้กับคนที่เขามีประสบการณ์การทำงานมาแล้วก็คงจะไม่ไหว อย่างน้อยสู้กับเด็กจบใหม่ด้วยกันเองก็ยังดี
อย่างไรก็ตาม เมื่อเลื่อนอ่านคุณสมบัติของผู้สมัครไปเรื่อย ๆ ก็พบว่าส่วนใหญ่ตำแหน่งงานเหล่านั้น กลับต้องการคนที่มีประสบการณ์ในการทำงานแล้ว จนเกิดเป็นคำถามโลกแตกในโซเชียลมีเดียว่า สรุปตำแหน่งนี้ต้องการรับใครกันแน่? ถ้าต้องการรับเด็กจบใหม่ แล้วพวกเราจะไปหาประสบการณ์การทำงานมาได้อย่างไร?
คำถามนี้ หากฟังแบบผิวเผินก็ดูเหมือนจะไม่มีทางออกให้กับเด็กจบใหม่อย่างเราหรอก แต่ถ้าลองมาคิดอีกที ประสบการณ์ที่เขาว่ากัน ก็ไม่ได้จำกัดสักหน่อยว่าจะต้องเป็นประสบการณ์การทำงานจริง ๆ เท่านั้น จริง ๆ แล้วประสบการณ์การฝึกงาน หรือการทำกิจกรรมในช่วงมหาวิทยาลัย ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่เราสมัคร ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ในการทำงานเช่นกัน
เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นที่มาว่า “ทำไมเราควรถึงฝึกงานก่อนที่จะเรียนจบ?” นั่นเอง ส่วนการฝึกงานนั้นมีประโยชน์ต่อ Career Path ของเราอย่างไรบ้าง และจะช่วยให้เราได้งานในฝันโดยที่ไม่มีประสบการณ์จริงไหม มาร่วมหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน ได้ในบทความนี้
การฝึกงานช่วยให้เราเรียนได้เรียนรู้ประสบการณ์จากชีวิตจริง
การฝึกงานที่ไม่ได้ให้เราไปเสิร์ฟกาแฟ ถ่ายเอกสาร แต่เปิดโอกาสให้เราลงมือทำงานด้วยตัวเอง จะทำให้เราได้สัมผัสว่าชีวิตการทำงานจริง ๆ มันเป็นอย่างไร เพราะต้องบอกว่า ชีวิตในมหาลัยและชีวิตการทำงานจริงไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียว
การทำงานในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น นอกจากจะต้องขุดเอาความรู้ความสามารถและไหวพริบมาใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว เราจะต้องรู้จักปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรและการทำงานร่วมกับผู้อื่นด้วย
และแม้ว่าบางครั้งโลกการทำงานอาจจะโหดร้ายไปบ้าง แต่เมื่อเรามีภูมิคุ้มกันแล้ว การทำงานในครั้งต่อ ๆ ไปก็จะง่ายขึ้น และประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงนี่แหละ ที่ไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน และเป็นสิ่งที่องค์กรมากมายต่างมองหาในตัวเด็กจบใหม่
การฝึกงานช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากยิ่งขึ้น
อย่างที่บอกไปว่า การใช้ชีวิตในมหาลัยและการทำงานในโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่เหมือนกัน สิ่งที่เราเรียนในมหาลัยอาจเป็นเพียงทฤษฎีที่เราชื่นชอบ แต่เมื่อนำมาปฏิบัติจริงอาจจะกลายเป็นสิ่งที่เราเกลียดก็ได้
การฝึกงานจึงเปรียบเสมือนเครื่องมือที่พิสูจน์ว่า สิ่งที่เราใฝ่ฝันอยากจะทำในอนาคตนั้น เราชอบและอยากทำมันจริง ๆ ไหม และช่วยให้เราเห็นภาพเป้าหมายของตัวเองในอนาคต และวิธีการที่จะไปถึงยังจุดที่ใฝ่ฝันได้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย
แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้ว เราอาจจะพบว่าการฝึกงานของเราไม่ตอบโจทย์ต่อสิ่งที่เราอยากจะทำในอนาคต และต้องการไปสมัครงานในตำแหน่งอื่นที่อยากทำมากกว่า แต่การฝึกงานของเราก็ไม่มีทางสูญเปล่า เพราะ การเรียนรู้และลองผิดลองถูก ถือเป็นหนึ่งใน Soft Skill ที่สำคัญมากเช่นกัน และเมื่อเราสมัครงานไป บริษัทและองค์กรต่าง ๆ ย่อมมองเห็นถึงข้อดีข้อนี้อย่างแน่นอน
การฝึกงานช่วยให้เรามีประสบการณ์ในการสร้างคอนเนคชั่นเพื่อปูทางสู่อนาคตที่สดใส
จริงอยู่ที่ว่า เราไม่จำเป็นต้องฝึกงานมาก่อน เพื่อที่จะเข้าร่วม Networking Event หรือสร้างคอนเนคชั่นในการทำงานกับองค์กรต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม หากเราไม่รู้จักเนื้องานที่เราทำอยู่เป็นอย่างดี มันอาจจะทำให้การสนทนาและสร้างคอนเนคชั่นเป็นไปได้ไม่ราบรื่นนัก
การสร้างความประทับใจระหว่างการสนทนา นับเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรันการสร้างคอนเนคชั่นกับผู้อื่น แน่นอนว่า บริษัทและองค์กรมากมายต่างรู้สึกประทับใจ หากได้พูดคุยกับคนที่มีแพชชั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ และรู้ลึกรู้จริงกับเป้าหมายในอนาคตที่ตั้งไว้
เพราะฉะนั้น การฝึกงานจะเปิดโอกาสให้เราได้ฝึกฝนทักษะการสร้างคอนเนคชั่นกับองค์กรต่าง ๆ และถ้าหากเรานำเสนอตัวเองได้น่าประทับใจ บางทีประสบการณ์การทำงานในชีวิตจริงก็อาจจะกลายเป็นเรื่องรองไปเลยก็ได้นะ
การฝึกงานอาจกลายเป็นเส้นทางสู่การทำงานในชีวิตจริงด้วยตัวมันเอง
แทนที่เราจะมาตั้งคำถามว่า ‘ทำไมบริษัทชอบรับเด็กจบใหม่ แต่ต้องการประสบการณ์’ มันจะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถได้งานทำเลยจากการฝึกงานของเราเอง
ปัจจุบัน หลากหลายองค์กรก็เริ่มมีโปรแกรมฝึกงานสำหรับนักศึกษามากขึ้น เพื่อเป็นการคัดเลือกบุคลากรเข้าร่วมทีมอีกช่องทางหนึ่ง เนื่องจากการสัมภาษณ์งานเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถตัดสินได้ว่า คนที่รับเข้ามาทำงานได้จริงไหม เหมาะสมกับองค์กรหรือเปล่า
เพราะฉะนั้น สำหรับนักศึกษาหรือเด็กจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน การฝึกงานจึงเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ทั้งสั่งสมประสบการณ์การทำงานในโลกแห่งความเป็นจริง และถ้าหากเราทำได้ดีพอ บริษัทหรือองค์กรที่เราฝึกงานอยู่ ก็อาจจะยื่นข้อเสนอให้มาร่วมงานต่อในฐานะพนักงานประจำได้เลย
และเมื่อถึงเวลานั้น ประสบการณ์ในการทำงานที่บริษัทมากมายต่างมองหาในเด็กจบใหม่ ก็อาจจะไม่จำเป็นสำหรับเราอีกต่อไป
อ้างอิง: Medium
สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจบทความเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน ทักษะที่จำเป็นในอนาคต สามารถลงทะเบียนเพื่อรับอัพเดทข้อมูลข่าวสาร และบทความในอนาคต จาก ConNEXT ได้ ที่นี่ https://bit.ly/3xKvJtn
ติดต่อร่วมงานกับ ConNEXT ได้ที่อีเมล [email protected]