Imposter Syndrome หรือโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง
Imposter Syndrome เป็นภาวะที่เกิดจากความไม่มั่นใจในศักยภาพหรือความสามารถของตัวเอง จนทำให้รู้สึกว่า “เราเป็นคนไม่เก่ง หรือไม่คู่ควรกับสิ่งที่ดี”
อาการที่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง จะมีอาการกดดันตัวเอง ไม่มั่นใจในตัวเองเวลาที่ต้องทำสิ่งต่าง ๆ หรือสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำมากก่อน แถมยังคิดว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดีอีกด้วย แม้ว่าตัวเองอาจจะเคยมีผลงานดีแค่ไหนก็ตามก็จะมีความคิดว่าความสำเร็จหรือผลงานที่ผ่านมาของตัวเองเป็นเรื่องบังเอิญหรือเรื่องธรรมดา ดังนั้นต่อให้คนที่เป็น Imposter Syndrome จะพยายามมากแค่ไหนก็จะยังคิดว่าตัวเองไม่เก่งเท่าคนอื่น จนบางครั้งลืมไปว่าตัวเองก็มีคุณค่าและความสามารถในแบบที่เป็นเช่นกัน
โดยโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เด็ก ๆ ไปจนถึงวัยเรียนและวัยทำงาน แต่จะพบมากที่สุดในช่วงอายุ 25-45 ปี หรือวัยที่กำลังสร้างตัว ต้องการความมั่นคงให้กับชีวิต
และหากย้อนกลับไปในสมัยก่อน Imposter Syndrome มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะความไม่เทียมของคนในสมัยก่อน แต่ในปัจจุบัน Imposter Syndrome กลายเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
หากคุณกำลังมีอาการเหล่านี้ วันนี้ ConNEXT มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากด้วยกัน 4 ข้อดังนี้
1. รู้จักความสามารถของตัวเอง
การรู้จักตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราไม่รู้สึกสับสนในความสามารถของตัวเอง อีกทั้งยังช่วยให้เราเข้าใจว่าเราถนัดอะไร ไม่ถนัดอะไร และอะไรที่เราทำออกมาได้ดี เพราะเมื่อเรารู้แล้วว่าเราถนัดอะไร สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เรามีความมั่นใจในการทำงานและมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับตัวเองมากขึ้น
2. เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ “ลอง”
Herminia Ibarra ศาสตราจารย์ที่ London Business School กล่าวว่า การได้ทดลองเหมือนเป็นการสร้างโอกาสให้กับตัวเอง เพราะฉะนั้นหากเรากำลังเจอกับความท้าทายใหม่ ๆ อยากให้เราลองทำสิ่งนั้นดูก่อน เพื่อให้เรารู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบสิ่งนั้น
3. ลดการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
หลายคนเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจนจิตตก และลืมไปว่าตัวเองก็มีข้อดีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอยากแนะนำว่าให้ลองมองตัวเองในแง่บวกดูบ้าง ลองนึกถึงสิ่งดี ๆ ในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เรากลับมามองเห็นคุณค่าของตัวเอง ว่าจริง ๆ แล้วเราอาจไม่ได้ด้อยไปกว่าใครและบางครั้งเราอาจมีดีกว่าที่เราคิดก็ได้
4. รู้ว่าอยู่ตรงไหนแล้วมีคุณค่า
อยู่ตรงไหนที่มีคุณค่า ก็พาตัวเองไปอยู่ที่นั่น แต่ก่อนหน้านั้นเราต้องเห็นคุณค่าของตัวเองก่อนด้วย การที่เรามี Self-Esteem จะช่วยให้มีทัศนคติที่ดีต่อตัวเอง ในทางกลับกันคนที่มี Self-Esteem ต่ำ จะส่งผลให้รู้สึกแย่กับตัวเอง มีมุมมองความคิดแง่ลบต่อตัวเองหรือรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งอะไรสักอย่าง ซึ่งเป็นสาเหตุให้ขาดความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต เพราะฉะนั้นการมองเห็นคุณค่าของตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรละเลย
อ้างอิง : hbr