Entry-level job เป็นงานระดับเริ่มต้นที่จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของตลาดแรงงาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วตำแหน่งงานเหล่านี้เป็นที่ต้องการของเด็กจบใหม่ที่ต้องการเพิ่มประสบการณ์ในการทำงานให้กับตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่คนวัยทำงานที่กำลังมองหาทิศทางในการเปลี่ยนสายอาชีพเองเช่นเดียวกัน
Entry-level job คืออะไร?
Entry-level job คือระดับงานที่คุณสามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาระดับสูงหรือมีประสบการณ์มาก่อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงาน และนโยบายของแต่ละบริษัท โดย Entry-level job จะมีรูปแบบการทำงานทั้งแบบ Part-time และ Full-time
วิธีหา Entry-level jobs หรืองานระดับเริ่มต้นให้เหมาะสมกับตัวเอง
สำหรับบุคคลที่ไม่มีวุฒิการศึกษา: คุณสามารถค้นหางานได้ตามเว็บไซต์ทั่วไป โดยคุณอาจใส่คีย์เวิร์ดสำคัญที่จำเป็นต่อการหางาน เช่น สมัครงานไม่มีประสบการณ์ สมัครงานไม่ใช่วุฒิการศึกษา โดยส่วนใหญ่แล้วงานระดับเริ่มต้นจะเป็นงานที่ไม่จำกัดวุฒิ เช่น พนักงานเสิร์ฟตามร้านอาหาร พนักงานโรงงาน หรืองานที่ต้องใช้แรงงาน
สำหรับบุคคลที่สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยหรือเคยมีประสบการณ์การทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้องกับงานที่กำลังจะสมัคร: หากคุณมีวุฒิการศึกษาในสาขาเฉพาะทาง การมีใบรับรองการศึกษาหรือใบปริญญาก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยให้คุณหางานระดับเริ่มต้นที่เกี่ยวข้องกับสายงานที่คุณจบมาได้ เช่น งานผู้ช่วย งานผู้ประสานงาน งานเลขา และอื่นๆ อีกมากมาย
ความสำคัญของ Entry-level job หรืองานระดับเริ่มต้น
สิ่งที่จะได้รับจากงานระดับนี้มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ คอนเนคชั่น ทักษะ หรือเงินเดือน แล้วคุณจะมีวิธีการเลือกระดับงานเหล่านี้อย่างไรให้เหมาะกับตัวคุณ
สิ่งที่คุณควรทำ คือเรียงลำดับความต้องการของคุณ เพื่อให้คุณรู้ว่าคุณควรสมัครงานระดับไหนให้เหมาะสมกับตัวเอง เพราะงานระดับเริ่มต้นที่ดีคืองานที่จะช่วยให้คุณทำตามเป้าหมายหรือ Career path ที่คุณตั้งไว้ได้
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Career Path คืออะไร? พร้อม How to เลือกเส้นทางทั้ง 9 สเต็ป
มาดูสาเหตุว่าทำไมผู้คนถึงให้ความสำคัญกับ Entry-level job หรืองานระดับเริ่มต้น และทำไมปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นประโยชน์ต่อการเริ่มทำงาน
1. เพิ่มพูนศักยภาพในการทำงาน
จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรทำงานในระดับเริ่มต้นอย่างน้อย 1 ปี เพราะเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมต่อการเก็บรวบรวมประสบการณ์ในการทำงานที่จำเป็น
ในปัจจุบันหลายบริษัทมีการลงทุนกับทรัพยากรการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนให้พนักงานได้พัฒนาทักษะ และความรู้ต่างๆ ในการแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นการหางานระดับ Entry-level job ในบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีอาจช่วยให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนงานบ่อย และเปรียบเสมือนได้พัฒนาความสามารถของคุณในระยะยาวได้อีกด้วย
2. พัฒนาทักษะ
งานระดับ Entry-level job เป็นงานที่จะทำให้คุณได้พัฒนาทักษะ ไม่ว่าจะเป็น Technical skills, Transferable Skills รวมถึงทักษะที่จำเป็นต้องใช้ในที่ทำงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณมีทักษะที่จำเป็นในการต่อยอดเพื่อทำงานในอนาคตได้
3. สร้างเครือข่าย
ถ้าคุณกำลังมองหาความก้าวหน้าหรือโอกาสการเติบโตในอาชีพงานระดับ Entry-level job คุณควรลองเปิดโอกาสพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนร่วมงานหรือคนที่คุณรู้จัก เพราะมันจะสามารถช่วยให้คุณสร้างคอนเนคชั่นได้ และความสัมพันธ์เหล่านี้อาจเป็นโอกาสที่ดีที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ในวันข้างหน้า
แนะนำ 4 เคล็ดลับที่จะช่วยให้ใบสมัครในระดับ Entry-level job ของคุณน่าสนใจ
เป็นเรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่มักจะทำงานเพื่อเก็บสะสมประสบการณ์ แต่บางบริษัทมักจะมีการกำหนดรับเฉพาะคนที่มีประสบการณ์ 1 ปี หรือ 2 ปี ขึ้นไป แต่ทั้งนี้คุณก็ไม่ควรตัดสิทธิ์ตัวเองเพียงเพราะไม่มีคุณสมบัติตามที่บริษัทกำหนด เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังหางาน แต่ยังไม่เจองานที่ถูกใจ ต่อไปนี้จะเป็น 4 วิธีที่จะช่วยให้คุณเป็นผู้สมัครที่น่าสนใจและเป็นที่ต้องการของบริษัทมากขึ้น
1.สร้างทักษะ
เมื่อคุณเจองานที่สนใจแล้ว ให้อ่านคุณสมบัติที่องค์กรต้องการอย่างละเอียดและดูว่าคุณมีคุณสมบัติตรงตามที่บริษัทต้องการหรือไม่ เช่น หากคุณได้รับตำแหน่งผู้ประสานงาน แต่คุณไม่เคยทำงานตำแหน่งนี้มาก่อน คุณควรใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้ทักษะหรือประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทให้ได้มากที่สุด
2. สร้างประสบการณ์โดยการหาที่ฝึกงาน
การฝึกงานถือเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างคอนเนคชั่นกับคนรอบตัวได้ เพราะฉะนั้นพยายามเก็บสะสมประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด เพราะสิ่งนี้อาจเป็นการต่อยอดที่ดีที่จะทำให้คุณเจองานที่เหมาะสมกับตัวเอง
นอกจากนี้ National Association of Colleges & Employers (NACE) ระบุว่ากว่า 70% ของการฝึกงานถ้าคุณทำงานดีบริษัทอาจยื่นข้อเสนอให้คุณทำงานต่อ และยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าการฝึกงานช่วยให้คุณรู้จักพัฒนาทักษะต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นทักษะการคิด การตัดสินใจ การสื่อสาร รวมถึงการทำงานเป็นทีม
3. ใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้เป็นประโยชน์
หากคุณกำลังจะสมัครงาน การมี Certificate หรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เพราะมันเปรียบเหมือนเป็นใบเบิกทางที่ทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงความสามารถเฉพาะด้านของคุณ รวมถึงความพร้อมในการทำงาน และถ้าคุณเขียนทักษะเหล่านี้เพิ่มเติมลงไปในเรซูเม่แล้วละก็เรซูเม่ของคุณจะน่าสนใจเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากนี้การมี Certificate ยังเป็นหลักฐานยืนยันว่าคุณมีความรู้เฉพาะด้านนั้นโดยตรง และยังทำให้ HR มั่นใจด้วยว่าคุณมีคุณสมบัติตรงตามที่บริษัทต้องการจริงๆ
4. สร้างคอนเนคชั่น
การสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนในบริษัทเพื่อใช้ในการติดต่อหรือพูดคุย เปรียบเหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารรวมถึงประสบการณ์ในการทำงานต่างๆ ได้
อ้างอิง : coursera.org, thebalancemoney