รู้จัก ‘โคตรคูล’ บริษัทที่คนรุ่นใหม่ อยากทำงานด้วยมากที่สุด 2 ปีซ้อน | Techsauce
talentsauce logo
ฝากประวัติ ค้นหา Tech Talent Talent Insights Job Hack Life Hacks News Video Podcast
รู้จัก ‘โคตรคูล’ บริษัทที่คนรุ่นใหม่ อยากทำงานด้วยมากที่สุด 2 ปีซ้อน
By Suchanan Songkhor มีนาคม 1, 2024
share facebook icon share facebook icon hover share x icon share x icon hover share line icon share line icon hover share icon share icon hover

โคตรคูล บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเป็น Content Creator ผลิตรายการและมีช่องออนไลน์ทางแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ ที่ก่อตั้งโดย “โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน” 

โคตรคูล

ล่าสุดโคตรคูลยังติดอันดับ 1 ใน 50 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด ซึ่งถ้าเราสังเกตดี ๆ โคตรคูลเป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งมาได้ไม่นาน ถ้าเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ที่ติดอันดับ แล้วอะไร? ที่ทำให้โคตรคูลเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนไปสะดุดตาบริษัทเวิร์คพอยท์จนได้เข้ามาถือหุ้นในบริษัทโคตรคูล ถึง 49% ซึ่งรวมเป็นมูลค่าถึง 216 ล้านบาท 

บทความนี้จึงอยากจะพาทุกคนมาทำความรู้จักบริษัทโคตรคูล เจาะลึกถึงจุดเริ่มต้น วิถีการทำงาน และสวัสดิที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้พวกเขาอยากไปทำงานที่บริษัทนี้ 

กว่าจะมาเป็น ‘โคตรคูล’

โอ๊ต ปราโมทย์ เล่าว่าจุดเริ่มต้นของโคตรคูลมาจากต้องการทำรายการเล็ก ๆ ให้กับเพื่อนที่สู้มาด้วยกัน จนนำไปสู่ความฝันที่อยากมีบริษัทเป็นของตัวเอง

แต่เหตุผลก่อนหน้าที่จะกระโดดลงมาทำ Youtube เริ่มมาจากวันที่เหลือสัญญากับค่ายเพลงชื่อดังอีกไม่กี่ปี ซึ่งตอนนั้นก็ได้ทำรายการ “The Driver” และ EFM “จันทร์ Shock โลก” แล้ว ทำให้เป็นที่รู้จัก มีกลุ่มแฟนคลับและฐานตลาดในโลกออนไลน์ ซึ่งตรงนี้กลายเป็นสิ่งจุดประกายที่ทำให้คิดว่าตัวเองสามารถทำอะไรต่อจากนี้ได้บ้าง

ในช่วงนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น บวกกับการเป็นดีเจที่รายได้ก็ไม่ค่อยเยอะ จึงคิดทำรายการของตัวเองขึ้นมาที่ชื่อว่า “คนหน้าหมี” และได้ชักชวนเพื่อนซี้อย่าง “ดีเจ อาร์ต มารุต” มาร่วมทำรายการด้วยกัน แต่หลังจากที่ได้ปล่อยอีพีแรกออกไป กลับโดนสังคมวิจารณ์อย่างหนัก จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ (X) อันดับ 1 เหตุมาจากหลายคนมองว่าเป็นการ Sexual Harassment ซึ่งแน่นอนว่าหากย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนคำ ๆ นี้เป็นคำที่ใหม่มาก เลยรับผิดชอบด้วยการลบคลิปนั้นทันที และเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ให้เข้ากับสังคมไทยมากขึ้น จนสุดท้ายพอปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ได้แล้ว ก็เริ่มทำรายการคนหน้าหมีไปประมาณ 20 อีพี และเริ่มรับสมัครพนักงาน 

แน่นอนว่าก็ได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ จนกลายมาเป็น ‘บริษัทโคตรคูล’ อย่างในทุกวันนี้ แต่ต้องบอกว่าบริษัทนี้มีจุดเริ่มต้นที่ล้มลุกคลุกคลานสุด ๆ เพราะเริ่มมาจากการมีพนักงาน 1-3 คน และหลังจากที่เปิดออฟฟิศมาไม่นานก็เจอกับน้ำท่วมอีก อุปกรณ์ทำมาหากินอย่างคอมพิวเตอร์ลอยน้ำ เรากลายเป็นเหมือนผู้ประสบภัย และตอนนี้โคตรคูลก็กลายมาเป็นบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 40 ชีวิต และทั้งหมดนี่คือจุดเริ่มต้นของบริษัทโคตรคูล

วิถีการทำงานของโคตรคูล 

โอ๊ต ปราโมทย์ กล่าวว่าไม่เคยเชื่อคำพูดที่ว่า “บริษัทเราอยู่กันเป็นครอบครัว” และได้นิยามคำใหม่ขึ้นมาว่า “โคตรคูลอยู่กันเป็นระบบนิเวศ” ที่มีต้นไม้ใหญ่ คือผม มีบ่อน้ำ มีบัว มีปลา มีเต่า และมีโคตรคูลเป็นบ่อน้ำบ่อหนึ่ง ระบบนิเวศนี้แข็งแรงมาก ทุกคนเกื้อหนุ่นกัน ช่วยเหลือกัน เป็นระบบนิเวศที่ยั่งยืน และเมื่อไหนก็ตามที่มีอะไรแปลกปลอมเข้ามาอยู่ ธรรมชาติในระบบนิเวศนี้จะเป็นตัวคัดสรรทันที เพราะฉะนั้นวิถีการทำงานของโคตรคูลคือ “เรารักกัน ดูแลกัน ผมรักลูกน้อง ผมพูด ผมปฏิบัติ”

รูปแบบการทำงานของโคตรคูล 

รูปแบบการทำงานพี่สอนน้อง : ที่นี่เวลามีพนักงานเข้ามาใหม่หรือแม้แต่เด็กฝึกงานเข้ามาจะชอบมากเวลาที่มีคนถาม เพราะพี่ ๆ เขาจะรู้สึกว่าได้สอน ได้แนะนำ จะไม่ค่อยห่วงวิชากัน 

ไม่กำหนดเวลาเข้างาน : โคตรคูลให้เข้าทำงานได้ตั้งแต่ 11.00-14.00 น. บริษัทจะเปิดกว้างไว้อย่างนี้เลยจะเข้าเวลาไหนก็ได้ แต่ขอว่าให้ทำงานให้ครบตามเวลา Office Hours

แบ่งโซนทำงานชัดเจน : โคตรคูลถูกออกแบบมาอย่างทันสมัย รองรับทุกความเป็นอยู่ของพนักงาน โอ๊ต ปราโมทย์ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของพนักงานมาก ซึ่งภายในบริษัทก็จะแบ่งโซนการทำงานออกเป็นโซน ๆ แล้วแต่ลักษณะของงาน นอกจากนั้นยังมีมุมพักผ่อนและมีพื้นที่สังสรรค์หลังเลิกงานให้พนักงาน

เปิดกว้างทางไอเดีย : โคตรคูลให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นหรือไอเดียได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ปิดกั้น 

มีระบบการทำงานชัดเจน : โคตรคูลจะแบ่งการทำงานอย่างเป็นระบบ หน้าที่ใครหน้าที่มัน ไม่มีทางที่สมัครงานมาตำแหน่งเดียวแล้วต้องทำทุกตำแหน่งจนสับสนแน่นอน เช่น ตัดวีดีโอคือตัดวีดีโอ โมชันกราฟิกทำแค่โมชันกราฟิก จะไม่ใช่การที่ตัดต่อมาทำโมชัน หรือโมชันไปตัดวีดีโอ 

ต้องเป็นคนตลกไหม ถึงจะทำงานโคตรคูลได้ ? 

โอ๊ต ปราโมทย์ กล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องเป็นคนตลก แต่ต้องเป็นคนเก่ง” โคตรคูลชอบพนักงานที่ขยัน มีความรับผิดชอบ มี Passion ในการทำงาน ชอบเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังไฟแรง โดยเฉพาะเด็กจบใหม่นี่จะชอบมาก ๆ 

โอ๊ต ปราโมทย์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าจริง ๆ โคตรคูลไม่ได้อยากได้คนที่ตลก แต่สิ่งที่ต้องการและชอบเลย คือต้องทำงานกับคนที่มองเราแล้วตาเป็นประกาย เพราะเชื่อว่าการที่เรือลำนี้จะแข็งแรงและไปได้ไกล คนที่นั่งอยู่ในเรือต้องมองผู้นำด้วยสายตาที่เป็นประกาย ต้องมีความเชื่อในตัวเราว่าเราสามารถพาเขาไปได้ เพราะถ้าเขาไม่เชื่อในตัวเรา เขาก็จะไม่เคราพเรา ไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นผู้นำที่ดี และสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นไลฟ์สไตล์ของเขาจำเป็นต้องเข้ากับโคตรคูลด้วย

สวัสดิการบริษัทโคตรคูลมีอะไรบ้าง

  • ข้าวกลางวันฟรี 1 มื้อ
  • Nap room ให้งีบระหว่างวันได้ ไม่เกิน 30 นาที/1วัน
  • Game room 
  • มีขนมให้กินฟรี
  • มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กินตลอด 
  • ใครที่ใช้รถไฟฟ้า (EV) มีที่ชาตแบตให้ 
  • มีงบสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับการทำงาน
  • มีโต๊ะพลู และบอร์ดเกมส์ให้เล่นคลายเครียด 
  • พนักงานมีรายการเป็นของตัวเอง (เช่น รายการคอนเทนต์เด้อ)  

ในส่วนของสวัสดิการที่บอกว่า “พนักงานมีรายการเป็นของตัวเอง” ตรงนี้โอ๊ต ปราโมทย์ มองว่าด้วยลักษณะรายการของเราเป็นรายการที่ให้ความบันเทิงกับผู้ชม หลายคนที่ดูคอนเทนต์เราก็จะเห็นหน้าน้อง ๆ ในออฟฟิศ เห็นมวลรวมของความสนุกในการทำงาน ก็เลยคิดว่าทำไมเราไม่ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ทำให้น้อง ๆ มีงานมากขึ้น เป็นที่รู้จักมากขึ้น เลยทำรายการนี้ขึ้นมาให้น้อง ๆ ได้แชร์ไอเดียร่วมกัน ในวันที่ทุกอย่างเสร็จและออกมาเป็นรายการที่เป็นรูปธรรม เราก็จะหักแค่ค่า Production ส่วนเงินที่เหลือก็จะเข้าพนักงานทั้งหมด แล้วพอจบปีเงินก้อนนี้ก็จะเอามาแชร์กัน เป็นเหมือนรายได้อีกหนึ่งช่องทางให้พนักงาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสวัสดิการบริษัทโคตรคลู 

สุดท้ายโคตรคูลติดอันดับบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย 2 ปีซ้อน โดยปี 2023 ติดอันดับที่ 39 จาก 50 บริษัท และในปี 2024 โคตรคูลได้ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 20 และเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ทำเกี่ยวกับการผลิตคอนเทนต์ 

No comment

คัดลอก URL

×

https://techsauce.co/talentsauce/talent-insights/khotkool-company-with-the-new-generation-i-want-to-work-with-you-the-most