3 ทักษะสำคัญที่ควรใส่ใน Resume ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ได้งาน | Techsauce
3 ทักษะสำคัญที่ควรใส่ใน Resume ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ได้งาน

พฤษภาคม 27, 2021 | By Connext Team

การหางานในสภาวะปกติก็นับว่าเป็นเรื่องยากแล้ว อัตราการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้หลายบริษัทต้องเลิกจ้างงาน ทำให้คนว่างงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีหลายบริษัทที่ต้องการบุคลากรเพิ่ม อีกทั้งยังมีทักษะที่เป็นที่ต้องการอยู่จำนวนมาก

ทักษะ

ในการที่จะเพิ่มโอกาสในการได้งาน มีทักษะอะไรบ้างที่คุณควรใส่ลงไปใน Resume บ้าง มาดูกัน

1. ทักษะด้าน Transferable Skills หรือทักษะที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดได้เรื่อยๆ

บางสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นช่องว่างของทักษะอาจเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดในการสัมภาษณ์งานคือ การที่ผู้สมัครไม่สามารถหาความเชื่อมโยงระหว่างทักษะที่มี กับประสบการณ์ในอดีตว่าเกี่ยวข้องกับงานที่ทำอยู่ ไปจนถึงงานที่กำลังสมัครอย่างไรบ้าง แม้ทักษะที่มีอยู่จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานที่จะทำ แต่การมีทักษะที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดได้เรื่อยๆ นั้นก็สำคัญเช่นกัน ได้แก่

1. ทักษะด้านการบริการ (Customer service)
2. ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
3. ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ (People Skill)
4. ทักษะด้านการปรับตัว (Adaptability)
5. ทักษะด้านการเป็นผู้นำ (Leadership)
6. ทักษะด้านการบริหารจัดการเวลา (Time management)

2. ทักษะด้าน Soft Skills

สิ่งสำคัญที่สุด ที่ต้องคำนึงถึง คือทักษะและความสามารถ ที่ระบุลงไปนั้น ต้องเป็น Soft Skills ที่คุณถนัดจริง และเป็นสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์งานกำลังมองหา

Soft Skills ที่ควรระบุลงใน Resume ได้แก่

1. ทักษะด้านการบริหารจัดการเวลา (Time management)
2. ทักษะด้านการทำงานเป็นทีม (Teamwork)
3. ทักษะด้านการสื่อสาร (Communication)
4. ทักษะด้านการปรับตัว (Adaptability)
5. ทักษะด้านการรับมือกับสภาวะกดดัน (Ability to perform under pressure)
6. การสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovation)
7. ทักษะด้านการฟัง (Listening)
8. ทักษะด้านการกระจายงาน (Delegation)
9. ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
10. ทักษะด้านการเป็นผู้นำ (Leadership)
11. ทักษะด้านการแก้ไขปัญหา (Problem-solving)
12. ไปจนถึงการมีจรรยาบรรณในการทำงาน (Work ethic)

3. การลงทุนในทักษะด้าน Technical Skills

มีอีกวิธีหนึ่งที่เพิ่มพูนทักษะได้มากขึ้นคือการเรียนออนไลน์ แถมยังใช้เวลาน้อยกว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยอีกด้วย แหล่งเรียนออนไลน์ ได้แก่


อ้างอิง CNBC

No comment