สำหรับเด็กจบใหม่แล้ว การเริ่มต้นชีวิตวัยทำงานนั้นเป็นเรื่องยากเสมอ และนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะชีวิตวัยเรียนที่ต้องอ่านหนังสือหรือติวข้อสอบกันจนถึงเช้านั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว
คำถามยอดฮิตที่ว่า ‘เรียนจบแล้วไปไหน?’ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาของเด็กจบใหม่ที่ต้องค้นหาคำตอบให้เจอก่อนที่จะเริ่มงานแรก
หลายคนคงอาจรู้กันอยู่แล้วว่างานแรกเปรียบเสมือนก้าวแรกที่ส่งผลกระทบต่อก้าวต่อไปเสมอ แล้วเราจะทำยังไงให้ก้าวแรกของการทำงานประสบความสำเร็จล่ะ ?
พบกับเคล็ดลับที่จะช่วยให้การหางานครั้งแรกเป็นเรื่องที่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป พร้อมได้งานที่ใช่และถูกใจไปพร้อมกัน
ทำ CV, Cover letter และ Profile แบบ Professional
ต้องบอกว่า CV, Cover letter และ Profile ถือเป็นด่านหน้าที่องค์กรต้องพบก่อนที่จะเจอกันแบบตัวเป็น ๆ ซะอีก ดังนั้นในการทำ CV, Cover letter และ Profile จะต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนถึงรายละเอียดที่แม่นยำและตามความเป็นจริงที่สุด
อีกทั้งในการทำ CV และ Cover letter ต้องอย่าลืมระบุความสามารถและกล่าวถึงความตั้งใจในการเรียนรู้ที่จะทำงานกับองค์กรนั้นอย่างจริงใจด้วย
นอกจากนี้ ในการสมัครงานออนไลน์ควรหมั่นอัพเดทข้อมูลและสร้าง Profile ให้เป็นมืออาชีพเสมอ เพราะช่องทางออนไลน์เหล่านี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่องค์กรสามารถติดต่อกับเราได้ ถึงแม้เราจะไม่ได้สมัครงานนั้นก็ตาม
หาที่ฝึกงานหรืองานอาสา เสริมสร้างประสบการณ์
สำหรับเด็กจบใหม่แล้ว ในโลกของการทำงานยังต้องมีสิ่งต่าง ๆ ให้เรียนรู้อีกมากมาย ดังนั้นการฝึกงานหรือประสบการณ์จากการทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับองค์กรและทำให้เรามีโอกาสมากขึ้นในการหางาน
ซึ่งเป้าหมายของการฝึกงานนั้น ใช่ว่าจะมีผลตอบแทนเป็นเงินอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือประสบการณ์การทำงานจริงที่จะได้รับจากการทำงานโดยตรงนี่แหละที่จะช่วยให้เราเลือกเส้นทางการทำงานของตัวเองได้ง่ายขึ้น
หางานที่ใช่ง่าย ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต
ในยุคดิจิทัลแบบนี้ แน่นอนว่าบนโลกอินเทอร์เน็ตเราสามารถเชื่อมต่อสื่อสารกันได้อย่างง่ายดาย และการหางานออนไลน์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราหางานได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
ซึ่งเว็บไซต์หางานออนไลน์มีอยู่อย่างแพร่หลายมากบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ละเว็บไซต์ก็มีบริษัทให้เลือกแตกต่างกันไป เพียงแค่เราลงทะเบียนกับเว็บไซต์ เสร็จแล้วก็เลือกสมัครงานที่ต้องการได้เลย
ระวัง ! อย่าลืมเปิดการแจ้งเตือนอีเมลเพื่อรับข่าวสารและการติดต่อ อีกทั้งคอยอัพเดทข้อมูลและความสามารถของเราอยู่เสมอ เพิ่มโอกาสให้องค์กรค้นหาเราได้ง่ายขึ้น
เพิ่มทักษะการเรียนรู้ให้มากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่านักศึกษาจบใหม่แบบเรา ๆ ที่ตรากตรำเรียนหนักกัน 4-5 ปี ย่อมต้องคิดว่าสิ่งที่เราได้เรียนรู้มานั้นมากเพียงพอแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าในการทำงานนั้นต้องการทักษะที่มากกว่าในห้องเรียนซะอีก
และเพื่อฝึกฝนทักษะการทำงานนั้น เราจำเป็นต้องรู้จักเส้นทางอาชีพของเราก่อน เพื่อกำหนดขอบเขตทักษะที่เราจะต้องฝึกฝนให้ชัดเจน เพียงเท่านี้เราก็สามารถเริ่มต้นอาชีพการทำงานได้อย่างมั่นใจแล้วล่ะ
สานสัมพันธ์ เพิ่มความรู้กับที่ปรึกษา
การเริ่มต้นเส้นทางอาชีพไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากมีคนคอยชี้นำและให้คำปรึกษา ซึ่งสำหรับเด็กจบใหม่นั้น ไม่จำเป็นต้องมีที่ปรึกษาในระดับสูงก็ได้ ขอเพียงเป็นผู้มีประสบการณ์การทำงานในสายงานนั้น 3-5 ปี ก็เพียงพอแล้ว
ซึ่งการมีที่ปรึกษานั้น จะทำให้เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งยังสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างตรงจุด เพื่อโอกาสการทำงานที่ดียิ่งขึ้นอีกในอนาคต
สุดท้ายแล้ว สำหรับเด็กจบใหม่ อย่าทำให้คนอื่นมองว่าเรามีความรู้แค่ในรั้วมหาวิทยาลัย แต่เราควรพัฒนาตัวเองให้มีคุณค่ามากที่สุด แล้วเราจะกลายเป็นคนที่ถูกเลือกเอง
อ้างอิง: jobbermanc