จากข้อมูลของสำนักสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) เผยว่า ในเดือนที่แล้วตำแหน่งงานว่างลดลงเหลือ 10.7 ล้านคนเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนที่มีจำนวนตำแหน่งงานว่างถึง 11.3 ล้านคน นี่คือสัญญาณที่บอกว่าตำแหน่งงานว่างสำหรับผู้ที่กำลังหางานกำลังลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบที่มาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ภาวะตลาดหมี และ การลาออกระลอกใหญ่ (Great Resignation) 

ในช่วงสองปีที่ผ่านมาจากการสำรวจในปี 2020 ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ 334 คน จาก TopResume แพลตฟอร์ม ได้ให้คำแนะนำว่า “ความยืดหยุ่น การปรับตัว การสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการแก้ปัญหา” ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ Recruiter กำลังมองหาในตัวผู้สมัครในปัจจุบัน

ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพ Eli Joseph อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียและมหาวิทยาลัยนิวยอร์กผู้เขียนหนังสือ "The Perfect Rejection Résumé" พร้อมทั้ง Rebecca Pay ตัวแม่มืออาชีพด้านการทำ CV (Curriculum vitae) เจ้าของธุรกิจ Payforprecision.com ได้แบ่งปันคำแนะนำสำหรับ “4 ทริคเขียน Resume อย่างไรให้ได้งาน ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย” ไว้ดังนี้

1 . ลองฝึกเขียน

Eli Joseph ได้เสนอวิธีที่น่าสนใจในการเขียนเรซูเม่ให้โดดเด่นบนหนังสือของเขาที่ชื่อ "The Perfect Rejection Résumé" ซึ่งสิ่งนี้ได้ช่วยให้หลายๆ คนฝึกบันทึกว่าพวกเขาเคยล้มเหลวในการทำงานอย่างไรและสิ่งใดที่พวกเขาได้เรียนรู้จากบทเรียนครั้งนั้น? นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ควรฝึกเขียนไม่แพ้กันคือ สิ่งที่เราทำแล้วประสบความสำเร็จ เทคนิคใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้ หรือเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เรารู้สึกภูมิใจในตัวเองแล้วลองเขียนบันทึกในทุกๆ สัปดาห์ จากมุมมองที่ต่างกันเหล่านี้จะทำให้เราสามารถผสมผสานประสบการณ์และสิ่งนี้เองจะทำให้เรากลายเป็นผู้สมัครที่น่าสนใจมากทีเดียว

2. ให้ความสนใจกับข้อความสรุปประวัติสำคัญ (Summary)

การเขียนข้อความสรุปประวัติสำคัญเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ควรเขียนลงบนเรซูเม่เพื่อกระตุ้นให้ Recruiter อยากรู้จักและอ่านรายละเอียดต่างๆ ของเราต่อเปรียบเสมือน Teaser ก่อนเราจะเลือกดูหนังในแต่ละเรื่องนั่นเอง ซึ่งควรใส่ไว้ตำแหน่งบนสุดของเรซูเม่และเขียนให้กระชับพยายามหาสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองว่าทำไม Recruiter ถึงต้องเลือกเราเพื่อมาทำงานในตำแหน่งนั้นโดยเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์หรือตำแหน่งงานในปัจจุบันขึ้นเป็นอันดับแรก ถ้าหากเป็นเด็กจบใหม่ควรพูดถึงจุดเด่นของตัวเอง งานอดิเรก หรือกิจกรรมที่ได้เข้าร่วมในระหว่างเรียนซึ่งสิ่งสำคัญคือเนื้อหาควรสอดคล้องกับตำแหน่งงานที่เราต้องการสมัคร 

3. อัปเดตทักษะ

เน้นทักษะที่นายจ้างกำลังมองหา ทั้ง Soft Skill, Hard Skills และ Technical Skills ยกตัวอย่างเช่น การเขียนหรือการออกแบบก็เป็นสิ่งควรค่าแก่การเขียนลงในเรซูเม่เพื่อแสดงว่าเรามีความรอบรู้ มีทักษะทางเทคนิคและทักษะทางศิลปะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ "เรซูเม่ของเราโดดเด่นและช่วยให้ Recruiter รู้ว่าเรามีความรู้และความสามารถรอบด้านเพื่อประยุกต์ใช้กับการทำงานและสามารถขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ" 

4. ปรับเรซูเม่ให้เข้ากับการสมัครในแต่ละครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพทั้ง Eli Joseph และ Rebecca Pay ให้ความเห็นตรงกันว่าผู้สมัครงานทุกคนควรเปลี่ยนเนื้อหาเรซูเม่สำหรับการสมัครงานในแต่ละครั้ง โดยอาจเป็นการปรับแต่งเล็กๆ น้อยๆ ในส่วนทักษะและข้อความสรุปประวัติสำคัญด้านบน ซึ่งควรเน้นรายละเอียดว่าประสบการณ์ของเราจะเหมาะสมกับในแต่ละตำแหน่งอย่างไร?

No application should be the same because no opportunity is the same

ดังนั้นใครที่เป็นเด็กจบใหม่หรือกำลังมองหางาน ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะที่จะเตรียมตัวทำให้เรซูเม่ของเราเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดเพื่อความพร้อมกับโอกาสแห่งโลกการทำงานทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

อ้างอิง Business Insider