หนังสือสามารถให้ประโยชน์เราได้ในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่ความบันเทิง ไปจนถึงการศึกษา แต่หนังสือพัฒนาตนเอง (ที่ดี) ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราสามารถพัฒนาชีวิตในด้านใดด้านหนึ่งได้ มาดูกันว่าหนังสือพัฒนาตนเองที่ดีที่สุดประจำปี 2022 จากการให้คะแนนโดยผู้อ่านใน Goodreads จะมีอะไรบ้าง

1. วิธีชนะมิตรและจูงใจคน

“วิธีชนะมิตรและจูงใจคน” เป็นหนังสือพัฒนาตนเองของ Dale Carnegie ที่ขายได้กว่า 15 ล้านเล่ม นับตั้งแต่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1936 แม้จะเป็นหนังสือที่มีมานาน แต่กาลเวลาก็ทำร้ายหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ เพราะจุดประสงค์หลักของหนังสือเล่มนี้ยังคงอยู่และยังสามารถนำมาปรับใช้ได้ โดยในเล่มนี้มีหลักการที่จะช่วยให้ผู้อ่านปีนบันไดไปสู่ความสำเร็จทั้งในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน

สำหรับใครที่อ่านเล่มนี้จะได้เรียนรู้ 6 วิธีในการทำให้คนชอบ 12 วิธีในการเอาชนะใจคน และ 9 วิธีในการเปลี่ยนแปลงคนอื่นโดยไม่ทำให้เกิดความขุ่นเคืองใจ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดในเรื่องของคีย์ความสัมพันธ์ของมนุษย์ ใครที่กำลังมีปัญหาในการอยู่ร่วมกับคนอื่นหรือการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เล่มนี้อาจเข้ามาเปลี่ยนชีวิตคุณได้

2. พลังแห่งความเคยชิน : The Power of Habit

ในหนังสือเล่มนี้ Charles Duhigg ได้นำเสนอว่าทำไม ‘นิสัย’ จึงมีอยู่ และสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อเปลี่ยนแปลงนิสัยเหล่านั้น ผู้เขียนอธิบายว่ากุญแจสำคัญคือเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่านิสัยเกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถเปลี่ยนนิสัยเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตได้

3. อยากทำก็ทำ! อย่าให้คำพูดคนฆ่าคุณ

อีกหนึ่งหนังสือพัฒนาตนเองที่ขายดีอันดับหนึ่งของ New York Times ในเล่มนี้มีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ และมีแบบฝึกหัดให้ผู้อ่านทลายอุปสรรคทางจิตใจ (ความเชื่อและพฤติกรรมแย่ๆ) ที่ขัดขวางไม่ให้คุณประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังเป็นหนังสือที่ให้แรงบันดาลใจปนตลกขบขัน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้อ่านเอาชนะความกลัว เรียนรู้ที่จะรักตัวเองและผู้อื่น 

4. พลังของคนเงียบในโลกที่ไม่เคยหยุดพูด

Introverts มักจะเป็นคนที่ถูกมองข้ามอยู่บ่อยครั้ง ในหนังสือจิตวิทยาเล่มนี้ใช้เรื่องราวจาก Introverts ที่ประสบความสำเร็จ มาอธิบายว่า Introverts เป็นบุคคลที่มีค่าต่อคอมมูนิตี้อย่างไร และช่วยให้ Introverts ได้มองเห็นถึงคุณค่าในตัวเองมากขึ้น

5. คิด, เร็วและช้า

หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ผู้อ่านทำความเข้าใจวิธีการคิดที่แยกกระบวนการคิดออกเป็นสองระบบคือ การคิดเร็ว (ใช้งานง่ายและเต็มไปด้วยอารมณ์) และการคิดช้า (รอบคอบกว่าและมีเหตุผลมากกว่า)  และทำความเข้าใจว่าการทำงานสองระบบนี้แยกจากกันอย่างไรและจะทำงานร่วมกันได้อย่างไร เพื่อให้เข้าใจวิธีที่เราใช้ในการคิดและตัดสินใจเลือกได้ดีขึ้น

อ้างอิง Business Insider