“10 in 10 Initiative” พร้อมปั้น ‘คนดิจิทัล’ 10 ล้านคนภายใน 10 ปี สู่เป้าหมายภูมิภาคของ Sea (Group) | Techsauce

เปิดยุทธศาสตร์ “10 in 10 Initiative” พร้อมปั้น ‘คนดิจิทัล’ 10 ล้านคนภายใน 10 ปี สู่เป้าหมายระดับภูมิภาคของ Sea (Group)

เมื่อโลกเปลี่ยนเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจมาเป็น Digital สิ่งที่ภาคธุรกิจ สังคม ไปจนถึงประเทศต้องการมากที่สุดคือ Tech Talent บุคลากรที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน Digital Economy แต่หากดูสถานการณ์ปัจจุบันจะพบว่า Tech Talent ยังคงเป็น Pain Point สำคัญในทุกพื้นที่ทั่วโลก ทั้งปริมาณและคุณภาพซึ่งไม่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน

จากปัญหาดังกล่าว Sea (Group) ซึ่งเป็น Tech Company ระดับภูมิภาค ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำในภูมิภาค อาทิ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และแอร์เพย์ (AirPay) จึงได้ริเริ่มยุทธศาสตร์ “10 in 10 Initiative” ขึ้นเพื่อเดินหน้าสร้าง Digital Talent ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไต้หวัน โดยประกาศเปิดตัวโครงการครั้งแรกที่งาน Techsauce Global Summit 2019 พร้อมแย้มตัวเลขเป้าหมายที่ต้องการสร้าง Tech Talent ให้ได้ 10 ล้านคนภายใน 10 ปี ด้วยแนวคิดที่สร้างสรรค์กับเป้าหมายที่ใหญ่จนน่าสนใจ Techsauce จึงเชิญ ดร.สันติธาร เสถียรไทย Group Chief Economist ของ Sea (Group) มาพูดคุยเจาะถึงโครงการ 10 in 10 Initiative และเจาะลึกสถานการณ์ Tech Talent ในปัจจุบัน

จากความร่วมมือกับ World Economic Forum สู่ 10 in 10 Initiative

ดร.สันติธาร เล่าว่าโครงการ 10 in 10 Initiative ตั้งขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่ต้องการ Talent ทั้งในด้านเฉพาะทางอย่าง e-Commerce หรือ Gaming รวมถึงด้าน Common Technology อย่าง Data Science และให้ความสำคัญกับ Hard Skill กับ Soft Skill ในยุค Digital Economy โดยมีรายงาน Youth X Entrepreneurship in Thailand 4.0ที่ทำร่วมกับ World Economic Forum เป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่ความคิดตั้งต้นให้เกิดโครงการ 10 in 10 Initiative

ในรายงานดังกล่าวเล่าถึงความสนใจเป็นผู้ประกอบการของคนรุ่นใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพบว่า e-Commerce Platform ช่วยให้คนรุ่นใหม่มีโอกาสมากขึ้น เนื่องจากใช้ต้นทุนจัดการที่น้อยกว่า ลดการใช้แรงงานคน และไม่จำเป็นต้องใช้หน้าร้านใหญ่ ซึ่งมีคน 2 กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก e-Commerce Platform คือกลุ่ม SMEs เดิมที่ต้องการจะปรับตัวไปสู่ยุค Modern Commerce  และกลุ่ม New Entrepreneur ซึ่งสนใจเข้ามาเป็นผู้ประกอบการ (อ่านบทสรุป Youth X Entrepreneurship in Thailand 4.0 ได้ที่นี่)

Sea ยังชี้ข้อสังเกตที่น่าสนใจจากอุตสาหกรรมเกม โดยหลังจากที่พัฒนาเกม Free Fire จนประสบความสำเร็จในระดับโลก จึงพบว่าคนในภูมิภาคนี้มีศักยภาพที่จะก้าวไปเป็นผู้พัฒนาเกมในระดับโลกได้ ทั้ง Game Developer, Creative และด้าน Visual Art ต่างๆ แต่ด้วยอุตสาหกรรมเกมในอาเซียนยังใหม่มาก จำนวนบุคลากรที่มีความรู้และทักษะที่จำเป็นในสาขาข้างต้นจึงยังน้อยเกินกว่าจะผลักดันให้เกิดการเติบโต ซึ่งต้องหาทางสนับสนุนเพื่อเพิ่มจำนวนบุคลากรให้มากขึ้น

อีกกลุ่มหนึ่งที่สำคัญคือกลุ่ม Common Technology หรือเทคโนโลยีทั่วไปที่จะมีผลกับทุกอุตสาหกรรมในอนาคต เช่น Data Scientists และ Artificial Intelligence ซึ่งนอกจากการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้แล้ว ยังต้องเน้นให้ความรู้ความเข้าใจเพื่อที่ทุกคนจะได้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจาก Hard Skill ที่ต้องพัฒนาแล้ว ยังมี Soft Skill ใหม่ๆ ที่ต้องมีในยุค Digital Economy โดยเฉพาะ Creativity ความคิดสร้างสรรค์, Critical Thinking ความคิดเชิงวิพากษ์, Adaptability การปรับตัวยืดหยุ่น, Teamwork การทำงานเป็นทีม และ Grit ความวิริยะอุตสาหะ ซึ่งเป็นทักษะที่ต้องได้รับการบ่มเพาะควบคู่กับความเข้าใจในทักษะ Digital

ยุทธศาสตร์ 10 in 10 Initiative กับการฉลอง 10 ปีของ Sea Group

ดังนั้นเพื่อเพื่อรับมือกับความต้องการด้าน Digital Talent ใน Digital Economy Sea จึงถือโอกาสผลักดันยุทธศาสตร์ 10 in 10 Initiative ด้วยวาระครบรอบ 10 ปีของ Sea ไปในตัว ซึ่งระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ Sea ก็ได้ผ่านเรื่องราวมากมายที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เกิดโครงการนี้ด้วย

ดร.สันติธาร กล่าวว่า 10 in 10 Initiative เป็นโครงการที่ตอบโจทย์ทั้ง Business และ Social Impact แต่เหตุที่โครงการนี้ต้องสร้างผลลัพธ์ที่ดีแก่สังคมด้วย เพราะ Sea ถือว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็น Home Region พวกเขาก่อตั้งและดำเนินการที่นี่ตั้งแต่เป็น Startup จนกลายเป็น Tech Company ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งได้เห็นทั้งโอกาสและความท้าทายของภูมิภาคนี้ผ่านการดำเนินธุรกิจและการสำรวจต่างๆ ดังนั้น จึงอยากไปไกลกว่าแค่ Empower ธุรกิจขนาดเล็กและผู้บริโภคโดยใช้เทคโนโลยี ด้วยการหันมาสร้าง Digital Skill เพื่อให้คนในภูมิภาคพร้อมสำหรับอนาคต

Sea อยากจะ Empower ธุรกิจขนาดเล็กและผู้บริโภค แต่ในวันที่ครบ 10 ปี เราอยากจะทำอะไรที่ลึกขึ้น เราอยากจะ Go Beyond ในแง่ธุรกิจ เราอยากจะลงไปถึง Digital Skill ด้วยการสร้างคนให้พร้อมสำหรับอนาคต

นอกจากนี้ 10 in 10 Initiative ยังมีลักษณะเป็น Open Platform ระดับภูมิภาค โดยดร.สันติธารเล่าว่า จากประสบการณ์ที่ได้แก้ไขหลายๆ ปัญหา จะเห็นได้ว่าปัญหาทั้งหมดมีจุดเชื่อมโยงที่ Digital Skill จึงขยายจากงานที่แก้ทีละเรื่องมาทำเป็นภาพใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการ Coordination เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียระหว่างสาขาและในระดับประเทศในภูมิภาคอาเซียนและไต้หวัน อันเป็นประเทศที่ Sea ดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและมีรากฐานที่เชื่อมโยงกับอาเซียนได้

ที่ผ่านมา Sea มีโครงการสนับสนุน Digital Skill มาแล้วมากมาย เช่น การร่วมมือสถาบันการศึกษาเพื่อออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนในสาขาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกม การให้ทุนแก่นักเรียนที่ศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของ Sea นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนในด้าน e-Commerce เช่น Shopee Bootcamp หลักสูตรยกระดับผู้ประกอบการซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ผู้เข้าร่วมสามารถเพิ่มยอดขายออนไลน์ได้มากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ในเวลา 3 เดือน รวมถึงการจัดงานเสวนา Sea Insight Future Focus ที่ช่วยให้ทุกคนเห็นภาพของเทคโนโลยีในอนาคตมากขึ้น (อ่านเรื่องราวของ Sea Insight Future Focus ได้ที่นี่) ซึ่งตัวอย่างโครงการเหล่านี้มีการ Test and Learn อย่างต่อเนื่องเพื่อหาโอกาสนำไปต่อยอดไปยังประเทศอื่นๆ ผ่าน 10 in 10 Initative

“10 ล้านคนใน 10 ปี” เป้าหมายเพื่อการสร้าง Inclusive Digital Economy

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจอยู่ที่ตัวเลขเป้าหมายของ 10 in 10 Initiative ซึ่งตั้งไว้ที่ 10 ล้านคนภายใน 10 ปี ซึ่งนอกจากจะจำง่าย การบ่มเพาะทักษะให้กับบุคลากร จำนวน10 ล้านคนนั้นถือว่าสูงมากทีเดียว แม้จะเป็นองค์กรระดับภูมิภาคอย่าง Sea ก็ตาม

ดร.สันติธาร กล่าวว่า 10 ล้านคนใน 10 ปี มีหลักการมาจากการสร้าง Digital Inclusion หมายถึงเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึง Digital ได้ ทั้งคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเป็นแรงงานในอนาคต คนทำงานปัจจุบันที่ต้องการ Reskill ไปจนถึงผู้สูงวัยที่สนใจจะใช้ประโยชน์จาก Digital ทั้งนี้ ดร.สันติธารย้ำว่ารุ่น Baby Boomer ถือเป็นเป้าหมายสำคัญไม่แพ้คนรุ่นใหม่ เพราะ Baby Boomer ยังสามารถสร้าง Productivity ร่วมกับคนรุ่นใหม่ได้ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน อีกทั้งยังเป็นการป้องกัน Gap ด้าน Digital ระหว่างคนรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมา เช่น การหลอกลวงหรือทุจริตทาง Digital เป็นต้น

ถ้าจะให้สังคมมันเกิด Harmony ให้มันไปด้วยกันได้ มันต้องดึงให้ไปด้วยกันทั้งหมด เราต้องไม่ทิ้งใครไว้ที่ชานชาลา

ดร.สันติธารยังย้ำว่า แนวคิดข้างต้นยังสอดคล้องกับปรัชญาของ Sea ที่ต้องการสร้าง Inclusive Digital Economy ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจจาก Digital ได้ ไม่ว่าจะเป็นเกม Free Fire เกมบน Mobile ที่ออกแบบให้เล่นได้ทุก Spec จนได้รับความนิยม รวมถึง Shopee ซึ่งเป็น E-Commerce Platform ที่รองรับธุรกิจหลายขนาดและ AirPay ที่เป็น Payment Platform รายแรกๆ ในไทย

นอกจากนี้ ตัวเลข 10 ล้านคนใน 10 ปี ยังทำให้ทุกคนในองค์กรมี Common Goal ร่วมกัน การเห็นเป้าหมายร่วมกันสำหรับโครงการใหญ่ระดับภูมิภาคช่วยให้บุคลากรทุกภาคส่วนของ Sea เข้าใจและพร้อมผลักดันโครงการเป็นรูปธรรมได้ง่ายขึ้น

มองสถานการณ์ Tech Talent ในฐานะ Tech Company ระดับภูมิภาค

Tech Talent เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในยุคที่ทุกประเทศจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย Digital ดร.สันติธาร ในฐานะตัวแทนของ Sea ซึ่งเป็น Tech Company ระดับภูมิภาคให้ความเห็นในภาพกว้างว่า Tech Talent ในภูมิภาคอาเซียนยังคงขาดแคลนในระดับสูง โดยมองว่าในอาเซียนต้องบ่มเพาะบุคลากรที่มี Digital Skill 3 ด้าน ได้แก่

  1. Common Tech ได้แก่เทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานของทุกอุตสาหกรรมในอนาคต เช่น Data, AI, Blockchain ซึ่งแม้จะมีมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในตอนนี้ ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ
  2. Domain Expertise หมายถึงผู้เชี่ยวชาญในสาขาเฉพาะ ได้แก่ E-Commerce และ E-Sport โดยนอกจาก Developer และ Designer แล้ว ยังรวมถึงบรรดาผู้จัด Event ต่างๆ เช่น E-Sport Event Management ซึ่งช่วยให้ Ecosystem ของอุตสาหกรรมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
  3. Soft Skill เป็นอีกทักษะหนึ่งที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคที่เทคโนโลยีอย่าง AI ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Adaptability หรือการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ซึ่งเป็นทักษะที่ Sea พยายามเน้นมากถึงขั้นมีโครงการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างประเทศเพื่อให้ได้เจอกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต่างออกไป

Partnership กลไกพัฒนา Digital Skill บน 10 in 10 Initiative

ดร.สันติธาร เผยว่า Sea คุ้นเคยกับการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เพื่อพัฒนา Digital Skill ในภาคส่วนต่างอยู่แล้ว เช่นการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพื่อออกแบบหลักสูตรด้าน Gaming และ E-Sport, การจับมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อพา SME เข้าสู่ยุค Digital และการร่วมมือกับ Young Happy จัด Workshop ด้าน e-Commerce ให้แก่ผู้สูงอายุ

ดังนั้น 10 in 10 Initiative ซึ่งประกาศเป็น Open Platform จึงพร้อมร่วมมือกับทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ รวมถึงภาครัฐฯ ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการพัฒนา Digital Skill ให้กับคนทั้งภูมิภาคอาเซียนอย่างแน่นอน

เราตั้งใจเปิด 10 in 10 Initiative ให้เป็น Open Platform จึงเปิดกว้างรับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ เราขอประกาศว่า Sea พร้อมที่จะทำแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าคุณมี Vision เดียวกันก็อยากให้เข้ามาคุยได้เลย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

‘Yindee’ แชตบอตในแอป ttb Touch ใช้ Gen AI จับความรู้สึก ตอบเร็วและฉลาดกว่าที่เคย

Yindee แชตบอตที่อยู่บน Mobile Banking ของ ttb ทำงานผ่านแอป ttb Touch สามารถจับ Mood & Tone ของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ว่าขณะแชตนั้น ลูกค้าอยู่ในอารมณ์ไหน ด้วย Generative AI โดย Azur...

Responsive image

คนอยากใช้พลังงานเยอะ แต่โลกอยากได้ปล่อยคาร์บอนน้อย บริษัทพลังงานแก้ไขความย้อนแย้งนี้อย่างไรดีในยุค AI

The Energy/Prosperity Paradox หรือภาวะย้อนแย้งแห่งพลังงาน และความเจริญ ถือเป็นความท้าทายระดับโลกที่บริษัทด้านพลังงานกำลังพบเจอ เพราะในตอนนี้โลกกำลังต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างไม่เ...

Responsive image

เศรษฐกิจไทย ‘ฟื้นตัว’ แล้วหรือยัง ? ฟังความเห็นจาก 3 ผู้นำธุรกิจยักษ์ใหญ่ไทย

ค้นพบศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย จีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา พร้อมโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจในภาคอุตสาหกรรม การเงิน และเทคโนโลยี...