ในยุคที่การแข่งขันสมัครงานดุเดือดขึ้นทุกวัน บางครั้งแค่ Resume อย่างเดียวคงยังไม่พอ ถ้าอยากสร้างความประทับใจให้ HR จนต้องรับเราเข้าทำงานต้องมี Cover letter ที่ดีด้วย หากเพื่อน ๆ สงสัยว่า Cover letter คืออะไร? แล้วทำไมถึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เราได้งาน ต้องลองมาหาคำตอบในบทความนี้กัน รับรองว่าอ่านจบแล้วเขียน Cover letter ได้ระดับมือโปร บริษัทไหนเห็นต่างก็อยากรับเข้าทำงานแน่นอน
Cover letter จำเป็นไหมการสมัครงาน?
Cover letter คือ จดหมายส่งตอนสมัครงานโดยมี Resume หรือ CV แนบไปด้วยซึ่งในปัจจุบันยังมีการถกเถียงกันว่าเวลาสมัครงานจำเป็นต้องเขียน Cover letter ไหม? เพราะอาจไม่ใช่ทุกบริษัทที่จำเป็นต้องมี Cover letter แต่ถ้ามีก็จะแสดงให้เห็นว่าเรามีความตั้งใจที่จะมาสมัครงานและมีความมุ่งมั่นที่จะทำตำแหน่งนี้
Simon Taylor อดีตผู้สรรหาบุคลากรของดิสนีย์และผู้เขียนหนังสือเรื่อง Build Smart กล่าวว่า “หากเราคิดว่านี่เป็นโอกาสสำคัญและเราอยากที่จะทำตำแหน่งนี้จริง ๆ บางที Cover letter อาจเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเรามีโอกาสได้งานมากขึ้น”
เขียน Cover letter อย่างไรให้ต้องตา HR
1. เขียนให้กระชับ เน้นเนื้อหาสำคัญ
อย่างที่เรารู้ว่าปัจจุบันมีการแข่งขันในการสมัครงานที่ค่อนสูงและ HR ก็คงไม่มีเวลามากพอที่จะมานั่งพิจารณาใครอย่างละเอียดถี่ถ้วน HR จำเป็นต้องใช้เวลาอย่างจำกัดเพื่อคัดเลือกคนที่เหมาะสมจริง ๆ เข้ามาทำงาน ดังนั้น Cover letter ของเราจึงต้องกระชับและคัดเลือกเนื้อหาที่สำคัญจริง ๆ จึงจะสามารถชนะใจ HR ได้
Taylor แนะนำว่าใน Cover letter ควรมีประโยคเกริ่นนำและเนื้อหาแบ่งเป็นหัวข้อย่อย 2-3 หัวข้อ พร้อมประโยคปิดท้าย เช่น “เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ของฉันแล้ว ฉันคิดว่าตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเหมาะสมกับฉันและนี่คือเหตุผลสามประการแรกที่ฉันเชื่อว่าฉันจะสามารถสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้”
จากนั้น Taylor ก็จะเขียนหัวข้อย่อยสามหัวข้อเพื่อสรุปแต่ละเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดพร้อมทั้งเขียนคุณสมบัติที่สั่งสมมาจากการทำงาน ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันและจบด้วยประโยคปิดท้ายว่า “หวังว่าจะได้ร่วมงานกัน”
2. เลี่ยงการใช้สัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย
Taylor กล่าวว่า “ในการเขียนจดหมายสมัครงานเราจะต้องพิจารณาเองว่าควรเขียนอะไรบ้างจึงจะเหมาะสม” และบางครั้งการใช้สัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อยก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม หากเราสมัครงานในตำแหน่งที่เกี่ยวกับการเขียนหรือการตลาด การเขียน Cover letter อาจจะไม่ต้องมีหัวข้อย่อยก็ได้แต่ถ้าเราไม่ได้สมัครงานที่ต้องเขียนบรรยายอะไรมากมายแนะนำว่าให้เราเขียนให้กระชับและใช้หัวข้อย่อยแทนจะดีกว่า
และนี่คือ ทริค (ไม่ลับ) ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ มีโอกาสในการได้งานมากขึ้น อย่าลืมนำทริคเหล่านี้ไปปรับใช้ในการสมัครงานกันนะ เพราะโอกาสไม่ได้มีเข้ามาบ่อย ๆ ดังนั้นเราควรเตรียมพร้อมและพยายามอย่างเต็มที่กับทุกโอกาสเสมอจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง ถ้าบทความนี้มีประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ ฝากแบ่งปันต่อให้กับเพื่อน ๆ คนอื่นด้วยนะจะได้มีงานทำไปพร้อม ๆ กัน!