Wendy's ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของอเมริกา เตรียมทดสอบการขนส่งด้วยหุ่นยนต์ครั้งสุดท้าย หลังก่อนหน้านี้มีการประกาศนำ AI Chatbot มาใช้ในการรับออร์เดอร์อาหารของลูกค้าแบบไดรฟ์ทรู

ใช้หุ่นยนต์จัดส่งอาหารด้วยระบบของ Pipedream

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Wendy's มีความต้องการที่จะทำระบบจัดส่งอาหารแบบ “underground delivery system” ระบบนี้จะสร้างขึ้นโดยความร่วมมือกับบริษัทขนส่งอัตโนมัติอย่าง Pipedream 

Pipedream เป็น Startup ที่ทำเกี่ยวกับระบบขนส่งด้วยหุ่นยนต์ โดยมีแนวคิดเกี่ยวกับการทำ Hyper logistics ให้เป็นจริงในอนาคต นั่นคือการส่งของภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที ในราคาต่ำกว่า1 เหรียญสหรัฐ และสามารถส่งคืนสิ่งของได้อย่างง่ายดายเหมือนกับที่ได้รับสิ่งของ 

ภาพจาก : Twitter ของ Pipedream Labs

รูปแบบการขนส่งอาหารที่ Wendy's จะนำมาใช้ 

การขนส่งอาหารโดยให้หุ่นยนต์เดินทางผ่านอุโมงค์สำหรับส่งคำสั่งซื้ออาหารออนไลน์จากครัวของ Wendy's ไปยังจุดที่เรียกว่า Instant Pickup portals หรือจุดรับของที่อยู่บริเวณที่จอดรถ ซึ่งเป็นแนวคิด “Underground delivery system”

อธิบายคร่าวๆเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เมื่อลูกค้ามาถึงที่ร้านอาหาร เมื่อลูกค้าอยู่ที่จุด Instant Portal Pickup ก็จะมีการสั่งอาหารผ่านลำโพงและหุ่นยนต์หรือพนักงานก็จะรับออร์เดอร์ของเรา และเมื่ออาหารที่สั่งทำเสร็จเรียบร้อยหุ่นยนต์ก็จะขนส่งอาหารผ่านอุโมงไปถึงมือของลูกค้าทันที 

ระบบของ Pipedreamใช้เทคโนโลยีการจัดส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้อาหารเย็น หรืออุ่นเกินไปในระหว่างการขนส่ง และทำให้ลูกค้าไม่ต้องเข้าไปข้างในหรือรอที่ไดรฟ์ทรู เพื่อหยิบอาหารอีกต่อไป อีกทั้งระบบยังออกแบบมาเพื่อควบคุมอุณหภูมิสำหรับของเย็นด้วย 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบัน ร้านอาหารหลายแห่งมีความพยายามในการนำเทคโนโลยีเข้ามา เพิ่มประสิทธิภาพให้กับร้านอาหารของตน ร้านอาหารบางแห่งมีการเพิ่มหุ่นยนต์เป็นพนักงานเสิร์ฟอาหาร ตัวอย่างในไทยก็เช่นร้านสุกกี้ MK 

หากเป็นร้านอาหารในสหรัฐอเมริกาก็จะมีร้าน Chili's ที่ใช้ Rita the Robot เป็นพนักงานเสิร์ฟอาหาร รวมไปถึงการพาลูกค้าไปที่โต๊ะอาหาร หรืออย่าง McDonald's ก็ได้ทดลองใช้ระบบการสั่งอาหารด้วย เสียงอัตโนมัติในบางสาขาแล้ว

Wendy's เองก็มีแผนที่จะใช้ AI Chatbot ที่ร่วมมือกับ Google สำหรับการรับคำสั่งออเดอร์ ผ่านบริการไดรฟ์ทรูในอนาคต โดยการทดสอบและทดลองต่างๆ จะมีการเริ่มทดสอบภายในปีนี้ 

ที่มา : Yahoo, The Verge, Pipedream