OpenAI เปิดตัว GPT-4 แรงกว่าเดิม เพิ่มเติมคือรับข้อมูลรูปภาพได้และเป็นเซียนข้อสอบ | Techsauce

OpenAI เปิดตัว GPT-4 แรงกว่าเดิม เพิ่มเติมคือรับข้อมูลรูปภาพได้และเป็นเซียนข้อสอบ

จากที่มีข่าวว่าจะมีการเปิดตัว GPT-4 ภายในเดือนมีนาคมนี้ ในที่สุด OpenAI ก็ได้ประกาศเปิดตัว GPT-4 ที่จะมาเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับ ChatGPT และ new Bing บทความนี้จะมาเผยรายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถที่ถูกพัฒนาขึ้นจาก GPT-3.5 ให้ทุกคนได้รู้กัน 

เราใช้เวลาถึง 6 เดือนในการทำให้ GPT-4 ปลอดภัยและเข้าที่มากกว่าเดิม GPT-4 มีแนวโน้มที่จะไม่ตอบเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นไว้ถึง 82% และจากการการประเมินผลภายในมีโอกาสที่จะตอบบนพื้นฐานความจริงมากกว่า GPT-3.5 ถึง 40% 

นี่เป็นข้อความที่ OpenAI เคลมไว้ว่า GPT-4 จะเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้นในการโต้ตอบกับผู้ใช้งาน พร้อมทั้งยังมีความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อนได้ดีมากกว่าเดิม เราไปดูกันว่า GPT-4 มีความสามารถอะไรใหม่ๆ บ้างที่ผู้คนจับตามองและกำลังให้ความสนใจ

เซียนข้อสอบ

GPT-4 ถูกพัฒนาความสามารถไปมากแค่ไหนสามารถดูได้จากการทำแบบทดสอบชื่อดังต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Uniform Bar Exam (การสอบเนติบัณฑิตมาตรฐานอเมริกาฯ) Law School Admission Test (LSAT) และ SAT Math ซึ่งข้อสอบเหล่านี้เป็นข้อสอบทางวิชาการที่มีความยากมาก 

แต่ไม่ว่าจะเป็นข้อสอบด้านกฎหมายหรือคณิตศาตร์ GPT-4 ก็สามารถทำออกมาได้ดีจนติดอันดับท็อป 10% หรือที่ 90 เปอร์เซ็นไทล์ เลยทีเดียว สังเกตุได้จากตารางข้างล่างที่มีการเปรียบเทียบ GPT รุ่น 4 (สีเขียว) และ 3.5 (สีน้ำเงิน) ในแบบทดสอบแต่ละประเภท 


Source: OpenAI

รับข้อมูลแบบข้อความและรูปภาพพร้อมกัน

Source: OpenAI

ผู้ใช้: รูปนี้มีอะไรที่ผิดปกติ?

GPT-4: สิ่งที่ไม่ปกติในรูปนี้คือมีผู้ชายกำลังรีดผ้าบนเตารีดผ้าที่ติดอยู่กับหลังคาของแท็กซี่ที่กำลังวิ่งอยู่

ความสามารถใหม่ของ GPT-4 คือความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจากรูปภาพพร้อมกับข้อความได้ (multi-modal) จากปกติที่เราสามารถใส่ได้แต่ข้อความ ตอนนี้ผู้ใช้งานสามารถใส่รูปภาพพร้อมกับข้อความเพื่อออกคำสั่งได้แล้ว (แต่ตัว GPT-4 จะไม่สามารถตอบกลับเป็นรูปภาพได้)

เขียนโค้ดจากกระดาษ

Greg Brockman ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท OpenAI ได้ออกมาทวีตเกี่ยวกับการทดลองใช้ GPT-4 ในการเขียนโค้ดให้สร้างหน้าเว็บจากแบบร่างที่เขาวาดเอง พร้อมแนบรูปโครงสร้างเว็บที่เขาต้องการให้ GPT-4 สร้างเว็บไซต์มุกตลก ถึงแม้จะเป็นเว็บไซต์แบบง่ายๆ ที่ใช้แค่ HTML แต่ก็เป็นก้าวสำคัญที่นักพัฒนาต่างให้ความสนใจ

หลากหลายธุรกิจกำลังเข้าหา GPT-4

จากประสิทธิภาพและกระแสการใช้งาน ChatGPT ที่กำลังเกิดขึ้นทำให้หลายบริษัทเริ่มเข้ามาจับมือและหยิบเทคโนโลยีของบริษัท OpenAI ไปใช้งาน เช่น new Bing ของ Microsoft ที่ลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่เดินเกมเร็วและเปิดตัวหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่นำ AI มาปรับใช้

ทำให้หลังจากการเปิดตัว GPT-4 ก็มีบริษัทและภาคธุรกิจอื่นๆ เข้ามาอยู่ในหน้าแรกของการเปิดตัว สามารถเข้าไปดูรายชื่อบริษัททั้งหมดที่จับมือกับ GPT-4 ได้ที่ OpenAI Product

Duolingo 

แอปพลิเคชั่นสอนภาษาที่เปิดตัว Duolingo Max ใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยให้การเรียนภาษามีประสิทธิภาพมากขึ้น 

Stripe

บริการชำระเงินระดับโลกมีการหยิบจับ AI ไปพัฒนาระบบเพื่อประสบการณ์การสำหรับผู้ใช้บริการที่ดีกว่าเดิม

Khan Academy 

บริษัทไม่แสวงหากำไรที่เจาะจงไปที่การให้บริการเรื่องการศึกษาที่ดีกว่าเดิมด้วยแชทบอทที่ใช้พลังขับเคลื่อนจาก GPT-4

Source: OpenAI

ทั้งนี้ GPT-4 ยังไม่สามารถกำจัดจุดอ่อนในเรื่องของอาการหลอนหรือการถูกหลอกล่อจากผู้ใช้งานที่ต้องการคำตอบที่ถูกปิดกั้นไว้ (adversarial questions) ได้ทั้งหมด แต่ก็ถูกพัฒนามากขึ้นกว่า GPT-3.5 แบบเห็นได้ชัด จากเดิมที่เวอร์ชั่นเก่ายังถูกหลอกและให้ข้อมูลเรื่องการทำระเบิดขวด (molotov) หรือข้อมูลผิดกฎหมายอื่นๆ มากไปกว่านั้น GPT-4 ยังหลีกเลี่ยงการตอบนอกเรื่องได้ดีมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับโมเดล AI ตัวอื่นๆ


Source: OpenAI

สรุปข้อแตกต่างระหว่าง GPT-4 และ GPT-3.5 

  • มองเห็นและเข้าใจรูปภาพได้
    ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการจับมือกับแอปพลิเคชั่น Be My Eyes ที่จะนำ GPT-4 มาช่วยวิเคราะห์รูปภาพเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยจำลองให้กับผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นหรือตาบอด เช่น สามารถส่งรูปภาพเพื่อถามได้ว่าเสื้อตัวไหนสีแดง

    Source: Be My Eyes
  • โดนหลอกยากกว่าเดิม
    สิ่งหนึ่งที่แชทบอทเจอตลอดคือการที่ผู้ใช้งานหลอกถามหรือพยายามหลอกล่อให้ AI ตอบข้อมูลที่ผิดกฎหมายหรือพยายามปั่นหัวให้ AI ตอบในสิ่งที่ถูกปิดกั้นไว้ แต่ใน GPT-4 จุดอ่อนนี้ก็ถูกพัฒนาและปรับปรุงโดยใช้การเทรนข้อมูลที่ผู้ใช้งานเคยพยายามใช้แบบผิดวัตถุประสงค์ใน GPT-3.5 มาก่อน ทำให้ GPT-4 ไม่ได้ถูกหลอกง่ายๆ เหมือนเดิมแล้ว

  • มีความจำที่มากขึ้น
    GPT-4 มีขนาดโมเดลภาษาที่ใหญ่ขึ้น จากเดิมลิมิตของ GPT-3.5 อยู่ที่ 4,096 tokens (ประมาณ 8,000 คำ) GPT-4 ขยายขนาดการรองรับไปสูงถึง 32,768 tokens (ประมาณ 64,000 คำ) เลยทีเดียวแต่เวอร์ชันสูงสุดนี้ยังจำกัดผู้ใช้งานอยู่ โดยการใช้งานทั่วไปจะอยู่ที่ 8,192 tokens ทำให้เราสามารถคุยได้นานกว่าเดิมและมากกว่าเดิมโดยที่แชทบอทยังมีข้อมูลที่เราคุยไว้อยู่

  • รองรับหลายภาษา
    จากเดิมที่ GPT-3.5 รองรับหลายภาษาอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ได้มีความแม่นยำมากนักเท่า GPT-4 ที่ถูกพัฒนาให้มีความแม่นยำมากขึ้นในกว่า 26 ภาษา จากผลการทดสอบความแม่นยำภาษาจะเห็นได้ว่า GPT-4 (สีเขียว) ทำได้ดีกว่าปกติ โดยความแม่นยำภาษาอังกฤษอยู่ที่ 85.5% จากเดิมที่ GPT-3.5 ทำไว้ 70.1% และในภาษาไทยความแม่นยำอยู่ที่ 71.8% (ในการทดสอบมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจจะทำให้ดูเกินจริง แต่สำหรับ AI ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้แปลภาษาโดยเฉพาะถือว่าทำได้ดีมาก)

    สามารถเข้าไปดูข้อมูลแบบเต็มได้ที่ Research GPT-4
    Source: OpenAI


  • มีหลากหลายบุคลิก
    "Steerability" หรือความสามารถในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามความต้องการ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถโรลเพลย์กับ AI ได้ ทำให้เราเลือกบทบาทที่เราต้องการให้ GPT เป็นเพื่อสอดคล้องกับความต้องการและจุดประสงค์ของผู้ใช้งาน เช่น ถ้าให้รับบทบาทเป็นครู ตัวแชทบอทจะมีการตอบคำถามที่มีความเป็นมืออาชีพและมีข้อมูลมากขึ้น เป็นต้น ทักษะและความสามารถนี้ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นจาก GPT-3.5 พูดง่ายๆ คือมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นนั่นเอง

สามารถเข้าไปทดลองใช้งานได้แล้ววันนี้ที่ ChatGPT Plus ในราคา 20 เหรียญฯ ต่อเดือน หรือเข้าไปใช้งานฟรีผ่าน new Bing แชทบอทของ Microsoft

อ้างอิงข้อมูล

TheVerge

OpenAI

TechCrunch


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

BOI ปรับเกณฑ์ LTR Visa ใหม่ หวังดึง Talent ต่างชาติ-นักลงทุนเข้าไทย

ล่าสุด ครม. อนุมัติบีโอไอ (BOI) ปรับเกณฑ์วีซ่าพิเศษ LTR Visa (Long-Term Resident Visa) หวังดึงบุคคลากรชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง รวมถึงนักลงทุนระดับโลกเข้าสู่ไทย หวังผลักดันไทยเป็น...

Responsive image

พาสปอร์ตสิงคโปร์ ครองแชมป์พาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ปี 2025

พาสปอร์ตสิงคโปร์ครองอันดับ 1 ใน Henley Passport Index 2025 ด้วยสิทธิ์เดินทางไร้วีซ่า 195 ปลายทาง สะท้อนความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการทูตระดับโลก...

Responsive image

ส่องแผน UK ปั้นประเทศอย่างไร ให้กลายเป็นมหาอำนาจ AI โลก

Keir Starmer นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ได้ออกมาประกาศถึงความต้องการที่จะทำให้ UK กลายเป็น ‘มหาอำนาจ’ ด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความก้าวหน้า ความมั่นคั่ง และทำให้ A...