ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก เพิ่มขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว | Techsauce

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก เพิ่มขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เปิดเผยรายงาน "Global EV Outlook 2018" ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าจากทั่วโลก ระบุยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเมื่อปี 2017 เพิ่มขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว พบจีนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้มากที่สุดในโลก แต่รถยนต์ไฟฟ้าจากนอร์เวย์กลับครองตลาดทั่วโลกได้มากที่สุด

Photo: MikesPhotos

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (Internation Energy Agency: IEA) เปิดเผยรายงานข้อมูลเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) จากทั่วโลกที่ชื่อว่า "Global EV Outlook 2018" โดยระบุว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเมื่อปี 2017 เพิ่มขึ้นกว่าเดิม 54 เปอร์เซ็นต์แล้ว เมื่อเทียบกับข้อมูลในปี 2016

ข้อมูลจากรายงานยังบอกอีกว่า ประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทำยอดขายในปี 2017 ได้โตมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2016 แต่กลับครองส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ได้เพียง 2.2 เปอร์เซ็นต์

ในขณะที่ประเทศนอร์เวย์เป็นประเทศที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดของยานยนต์ไฟฟ้าได้มากที่สุดในโลกอยู่ที่ 39.2 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับทำยอดขายได้เพียง 6.4 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเมื่อปี 2017

"ตลาดที่มีปริมาณการผลิต (จีน) และยอดขาย (นอร์เวย์) สูง ต่างมีการผลักดันด้านนโยบายที่แข็งแกร่ง" IEA กล่าว

นโยบายภาครัฐหนุนก็สำคัญ

อย่างไรก็ตาม IEA ยังมองในแง่บวกว่า ภาครัฐต้องเข้ามาสนับสนุนตลาดยานยนต์ไฟฟ้า ถึงจะทำให้เติบโตตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และจะทำให้ตลาดของรถยนต์ดีเซล-เบนซินเล็กลงไปในอนาคต

รายงานฉบับกล่าวต่อว่า "การสนับสนุนด้านนโยบายและการลดต้นทุน[การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า] มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการเติบโตต่อตลาดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 อย่างมีนัยสำคัญ"

นอกจากนี้ยังมองว่า "ผู้มีอำนาจในการกำหนดนโยบาย" ควรให้ความสำคัญกับข้อตกลงสิ่งแวดล้อม พร้อมระบุว่า "จำนวนยานพาหนะที่ใช้งานง่ายในการขับขี่บนท้องถนนจะมี 125 ล้านคันภายในปี 2030"

ด้านสหภาพยุโรป (European Union: EU) ประกาศจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Dioxide: CO2) ภายในปี 2030 โดยตั้งเป้าว่าจะลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลง 40 เปอร์เซ็นต์จากค่าที่วัดไปเมื่อช่วง 1990 และจะผลักดันให้มีการใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้น 27 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างน้อย

ซึ่งฝรั่งเศสก็เตรียมยกเลิกการขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน-ดีเซลภายในปี 2040 ตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) อีกด้วย

แบตเตอรี่ โคบอลต์ และการกดขี่แรงงาน

ถึงแม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะใช้แบตเตอรี่เป็นพลังานแทนน้ำมัน ซึ่งช่วยลดการทำลายสภาพแวดล้อมไปได้

แต่ก็มีข้อถกเถียงเกิดขึ้น โดยมีคำถามจากกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนว่า การผลิตแบตเตอรี่จำเป็นต้องใช้แร่โคบอลต์ที่หาได้ยากจากประเทศคองโก จะทำให้เกิดการคอรัปชัน จนนำไปสู่การกดขี่ผู้ใช้แรงงานในเหมืองคองโกหรือไม่ตามมาด้วยเช่นกัน

อ้างอิงข้อมูลจาก IEA และ AFP

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ประกวดนางงาม Miss AI ครั้งแรกของโลก ที่ส่วนใหญ่สร้างตาม Beauty Standard

ตอนนี้มี Miss AI หรือนางงามปัญญาประดิษฐ์ที่จะมาประชันความงามกันบนโลกดิจิทัลแล้ว ด้านผู้จัดการประกวดหวังช่วยผลักดันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี...

Responsive image

ไม่ยอมขายแอป ก็โดนแบน สหรัฐฯ จ่อแบน TikTok หวั่นเป็นภัยความมั่นคงชาติ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

Responsive image

KBank ผนึก J.P. Morgan เปิดโปรเจกต์ Carina ใช้บล็อกเชน ลดเวลาทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมงเหลือ 5 นาที

Kbank ร่วมกับ J.P. Morgan Chase Bank เปิดตัวโปรเจคต์นวัตกรรมคารินา (Carina) ลดระยะเวลาการทำธุรกรรม จากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาที...