Siri Ventures เผยแผนระยะยาว 3 ปี ลงทุน 1,500 ล้านบาทในสตาร์ทอัพ PropTech, LivingTech, HealthTech

Siri Ventures เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2018 พร้อมผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยพาร์ทเนอร์ร่วมกับ Startup Platform อย่าง Plug and Play จากซิลิคอน วัลเล่ย์ สหรัฐอเมริกา และ SOSA จากอิสราเอล และเตรียมลงทุนใน Startup กว่า 1,500 ล้านบาทในระยะเวลา 3 ปี เน้น Startup กลุ่ม PropTech, LivingTech, HealthTech และ Construction Tech

(จากซ้ายไปขวา) คุณอุทัย อุทัยแสงสุข CEO แสนสิริ และ คุณจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ CTO Siri Ventures

คุณอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ (CEO) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา แสนสิรินับว่ามีการรุกปรับองค์กรอย่างเต็มรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือการปรับองค์กร หรือทำ Digital Transformation เพื่อให้องค์กรก้าวสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยในโครงการแสนสิริ  โดยหลังจากจัดตั้ง Siri Ventures เป็นระยะเวลาหนึ่งปี นับว่าประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมทั้งด้านการลงทุนในสตาร์ทอัพผ่านการเปิดโครงการ “Siri Venture Partnership” เพื่อเฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูงมาร่วมพัฒนาต่อยอดธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีการยกระดับกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับธุรกิจสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเตรียมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ  และผลักดันระบบนิเวศของสตาร์ทอัพด้าน PropTech ให้เกิดขึ้นจริงในไทย

คุณจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี (CTO) บริษัท Siri Ventures จำกัด ระบุว่า จากความสำเร็จในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาของ Siri Ventures สะท้อนให้เห็นว่าเราได้เสาะแสวงหาเทคโนโลยี (Technology Acquisition) มาให้กับทั้งองค์กรและผู้อยู่อาศัยในโครงการ โดยเปิดเผยว่าในปี 2018 CVC อย่าง Siri Ventures จะมุ่งต่อยอดธุรกิจและเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยเน้นใน 3 ด้าน

1. ลงทุนในสตาร์ทอัพ 4 ด้าน

เน้นการลงทุนในเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับแกนธุรกิจหลักของแสนสิริ ด้วยงบประมาณ 1,500 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี เน้นนวัตกรรม 4 ด้านที่สอดคล้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ ได้แก่

  1. PropTech – นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมด้านการซื้อขายแนวใหม่ การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ หรือ Know-How ใหม่ ๆ ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้หลากหลายยิ่งขึ้น
  2. LivingTech – นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยรูปแบบ ผ่านสตาร์ทอัพที่ Siri Ventures ลงทุนไปแล้ว เช่น Appysphere สตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญในเรื่องซอฟต์แวร์การพัฒนา Home Automation, Onionshack สตาร์ทอัพที่ร่วมพัฒนา Thai Voice AI ใน Smart Speaker จากแสนสิริ, Techmatics สตาร์ทอัพที่พัฒนาหุ่นยนต์แสนดีที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว
  3. Health & Wellness Tech – นวัตกรรมเพื่อคุณภาพการใช้ชีวิต สุขภาพ และอาหาร (FoodTech) มีแผนลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีเทคโนโลยีทางด้าน Health Monitoring สำหรับสังคมสูงวัยที่มีจะบทบาทสำคัญในสังคมไทยในอนาคต
  4. Construction Tech – นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีด้านการออกแบบ ก่อสร้าง ควบคุมคุณภาพในโครงการของแสนสิริ โดยการนำ AR (Augmented Reality) ร่วมกับ BIM (Building Information Management) เข้ามาใช้ในการควบคุมคุณภาพการก่อสร้าง

นอกจากนี้ร่วมมือกับ Startup Platform ระดับโลก 2 ราย คือ “Plug and Play” จาก Silicon Valley สหรัฐอเมริกา และ “SOSA” จากอิสราเอล ทำให้พบกับสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพและเกี่ยวเนื่องได้เร็วและมากขึ้น โดยกิจกรรมที่ร่วมมือกันนั้นจะเริ่มตั้งแต่การเฟ้นหาจากโจทย์ปัญหา การจัดโปรแกรม Accelerate การจัดการ Pitch รวมถึงการเฟ้นหาโอกาสในการร่วมลงทุนกับ Startup จากต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น

2. ผลักดันให้เกิดระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพในไทย

(จากขวาไปซ้าย) คุณปิยพจน์ เกษมภักดีพงษ์ กรรมการผู้จัดการ OnionShack, คุณชอน ปิแอร์ ดูมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AppySphere, คุณสมศักดิ์ มุกดาวรรณกร ผู้อำนวยการฝ่ายภาครัฐและการศึกษา บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และคุณอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด

มุ่งเน้นการผนึกกำลัง (Synergy) กับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญและมีจุดมุ่งหมายเช่นเดียวกัน เพื่อผลักดัน Ecosystem โดยรวม จะช่วยให้ประเทศไทยผลิต Startup ที่มีคุณภาพและสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก ในปีนี้ Siri Ventures ได้ร่วมจับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งมากมาย เช่น ร่วมมือกับ Microsoft Thailand ในการร่วมสนับสนุนการแข่งขันพัฒนานวัตกรรมสำหรับนักศึกษา “Microsoft Imagine Cup Thailand 2018” ในหัวข้อการแข่งขัน Smart Living on the Cloud  UNICEF พันธมิตรของแสนสิริ มาร่วมในโครงการด้วย นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรทั้งที่เป็น Accelerator, มหาวิทยาลัย และองค์กรรัฐที่มีส่วนผลักดันการเติบโตของสตาร์ทอัพอีกมากมาย

3. พัฒนาต่อยอดนวัตกรรม

มุ่งเน้นการยกระดับ Sansiri Home Service Application ดึงพันธมิตร Startup พัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ด้าน Home Automation หรือ Voice AI ภาษาไทย เพื่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมบริการรูปแบบใหม่ที่ครอบคลุมในทุกมิติของการใช้ชีวิต และพร้อมที่จะขยายขอบข่ายบริการในตลาดที่กว้างขึ้น โดยทีม Lab & Development จะนำเทคโนโลยีของสตาร์ทอัพที่เราไปลงทุนเข้ามาใช้งานกับลูกบ้านผ่านทางแอพฯ ที่พัฒนาขึ้น

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Meta เปิดตัว ‘Mango & Avocado’ AI สร้างภาพ–เขียนโค้ด กลับลำทิ้ง Metaverse หวังลุยทวงบัลลังก์ AI

Meta เปิดตัวโมเดล AI ใหม่อย่าง Mango และ Avocado เดิมพันอนาคตบริษัทด้วย AI เต็มตัว หลังถอยจาก Metaverse พร้อมสัญญาณเปลี่ยนทิศทางสู่โมเดลเชิงพาณิชย์ ท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนภายในองค์ก...

Responsive image

50 เหตุการณ์โลกเทค ตลอด 12 เดือนที่ผ่านมาของปี 2025

ปี 2025 ไม่ใช่ปีแห่งการตื่นรู้เรื่อง AI เหมือนปี 2023-2024 อีกต่อไป แต่มันคือปีแห่งการล่องหนเทคโนโลยีแทรกซึมเข้าไปอยู่ในอากาศ ในแว่นตา ในรถยนต์ จนเราแทบแยกไม่ออกว่าเส้นแบ่งระหว่างโ...

Responsive image

พรรคประชาชนเปิดตัวเว็บไซต์ ‘Election 69’ กางนโยบายกว่า 200 ชุด วางเทคโนโลยีเป็นแกนหลัก ปั้นรัฐแพลตฟอร์ม แก้ปัญหาโครงสร้างประเทศ

พรรคประชาชน เปิดตัวเว็บไซต์นโยบายเลือกตั้ง “Election 69” อย่างเป็นทางการ รวบรวมนโยบายกว่า 200 ชุด ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยอยู่แบบเดิมไม่ได้” ชูแนวคิดรัฐแพลตฟอร์ม (Platform State...