2C2P ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินในระดับภูมิภาค ประกาศการได้รับทุนรอบใหม่จำนวน 52 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากกลุ่มนักลงทุนระหว่างประเทศ อันประกอบด้วย บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศในเครือของธนาคารโลก (International Finance Corporation: IFC), CENTO Ventures และ Arbor Ventures โดยเงินทุนดังกล่าว ทาง 2C2P จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการสร้างความเติบโตให้กับบริษัทเป็นหลัก โดยจะนำมาลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพของแพลตฟอร์มการชำระเงิน ลงทุนในการจัดจ้างผู้ชำนาญการที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละประเทศ และเพื่อขยายธุรกิจไปนอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
2C2P ช่วยให้ธุรกิจขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างๆ และอีกหลายบริษัทข้ามชาติชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น สายการบินระดับชาติ สายการบินต้นทุนต่ำ ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ และแบรนด์ชั้นนำ สามารถรับชำระเงินออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและหลากหลายช่องทางการชำระเงิน ไม่ว่าจะเป็นจากบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีธนาคาร และเงินสดตามเคาน์เตอร์ชำระเงิน
ทั้งนี้จากรายงานของ Google, Temasek และ Bain & Company ในปี 2025 ผู้ประกอบการจะยอมรับการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล ทำให้มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าของรายการโดยรวมการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลในภูมิภาคจะสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025
คุณออง โจ โม ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท 2C2P กล่าว“จากความสำเร็จโดยรวมทั้งในด้านส่วนแบ่งทางการตลาดและจากฐานร้านค้าที่มีอยู่ ตลอดจนการมองเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเล็งเห็นศักยภาพของเศรษฐกิจที่มีพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเพิ่มทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งผู้นำตลาด พร้อมทั้งขยายฐานธุรกิจ และลงสนามแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ”
“จุดแข็งของ2C2P อยู่บนพื้นฐานความสัมพันธ์กับร้านค้า เรารู้ว่าร้านค้าต้องการอะไร รู้ว่าร้านค้าต้องการมีระบบชำระเงินแบบไหน เราสร้างระบบที่ร้านค้าต้องการ และนั่นทำให้ร้านค้าเชื่อมั่นในเรา วางธุรกิจของร้านค้าในมือเรา”
คุณปิยชาติ รัตน์ประสาทพร กรรมการผู้จัดการ 2C2P ประเทศไทย และ COO กลุ่ม กล่าวว่า “เราได้ให้บริการด้านการชำระเงินในรูปแบบต่างๆในประเทศไทยมากว่า 15 ปี ทั้งในด้านการรับชำระเงินจากหลากหลายช่องทาง การออกบัตรพรีเพด กิฟท์การ์ด และวอลเลต การพัฒนาระบบการชำระเงินอย่างปลอดภัยสำหรับบัตรเครดิตและเดบิตของธนาคาร ด้วยเงินลงทุนที่เราได้รับในครั้งนี้ จะช่วยให้เราพัฒนาแพลตฟอร์มทางการเงินที่มีความหลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้บริการทั้งในประเทศไทย ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆด้วย”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด