ด้วยยอดขายกว่า 750% ที่บริษัทสร้างให้แก่ลูกค้าตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง บริษัท aCommerce กรุยทางเตรียมเปิดขาย IPO ภายในปี 2020 เพื่อเป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce สำหรับแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัท aCommerce ผู้ผลักดันให้แบรนด์ก้าวสู่โลก E-Commerce ชั้นนำของผู้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบความสำเร็จมากมายตลอดเส้นทางสาย E-Commerce ตั้งแต่การก่อตั้งขึ้นที่ประเทศไทยในปี 2013 บริษัทสัญชาติไทยนี้ได้เติบโตจาก Startup ไปสู่บริษัทขนาดกลางที่มอบ E-Commerce Solutions ให้แก่แบรนด์ระดับโลกอย่าง  L’Oreal, Unilever, HP และ Philips ในทั้งหมด 5 ประเทศได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์และมาเลเซีย

ในโอกาสครบรอบ 5 ปี บริษัท aCommerce เผยถึงความสำเร็จที่ผ่านมาดังนี้

• สร้างยอดขายกว่า 750% ให้แก่แบรนด์ลูกค้าของบริษัท
• ดูแลแบรนด์ระดับโลกกว่า 260 แบรนด์ รวมถึง adidas, HP, L’Oreal, Nestle, Samsung, และ Unilever
• จัดส่งสินค้าทั้งหมด 13.19 ล้านรายการ
• เปิดตัวบริการทางข้อมูลได้แก่ ecommerceIQ, ReviewIQ, BrandIQ, ChannelIQ และ CustomerIQ เพื่อส่งเสริมธุรกิจ E-Commerce ให้แก่ลูกค้า
• มีพนักงานมากกว่า 1,200 คน และมีสำนักงานทั้งหมด 5 แห่งและอีก 16 คลังสินค้าในประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์และมาเลเซีย

เตรียมออก IPO ปี 2020 และพัฒนา Data Platform

ในโอกาสนี้ บริษัท aCommerce ยังได้เผยถึงแผนการเสนอขายหุ้นใหม่เป็นครั้งแรกหรือ Initial Public Offering (IPO) ภายในปี 2020 โดยรายได้ที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะถูกนำไปพัฒนาแพลตฟอร์มที่ให้บริการข้อมูลอย่างครบวงจร เนื่องจากเป้าหมายของบริษัทที่หวังจะเป็นพาร์ทเนอร์ทางด้านการบริหารข้อมูลให้แก่แบรนด์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เป้าหมายดังกล่าวมาจากการที่ข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นมีจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะมาจาก Google, Facebook หรือ Online Marketplace ต่างๆ ซึ่งแบรนด์มักต้องพึ่งพาข้อมูลเหล่านี้ในการเข้าถึงผู้บริโภค พัฒนาสินค้าและการสื่อสารของแบรนด์ ทั้งนี้ ผลสำรวจของ ecommerceIQ พบว่า 25.8% ของแบรนด์ต้องการบุคลากรคุณภาพที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อมาสร้างกลยุทธให้แก่แบรนด์

“ในปัจจุบัน โลกของเรามีข้อมูลจำนวนมหาศาลที่รอทุกคนนำไปใช้ประโยชน์อยู่ แต่กลับไม่มีใครรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นไว้บนแพลตฟอร์มเดียวกันได้” นายพอล ศรีวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท aCommerce กล่าว

“ด้วยรายได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้บริหารจัดการข้อมูลเหล่านั้นให้แก่แบรนด์ ในฐานะพาร์ทเนอร์ทางข้อมูล โดยเป้าหมายของเราคือการที่แบรนด์จะเข้ามาหาเราด้วยข้อมูลที่เป็นกลาง และสามารถทำให้พวกเขาใช้ข้อมูลเหล่านี้ปรับสินค้าและการสื่อสารให้เข้ากับแต่ละกลุ่มของผู้บริโภคได้” นายพอลอธิบาย

ก่อนหน้านี้ บริษัท aCommerce ได้รับเงินระดมทุนทั้งหมดจำนวน 3.1 พันล้านบ้านจากนักลงทุนชั้นนำอย่าง Emerald Media, BlueSky, DKSH, Inspire Ventures, Sinarmas และ NTT Docomo