เราเคยพูดคุยกับผู้ก่อตั้ง AdsOptimal หนึ่งใน Startup ไทยใน Silicon Valley อย่างต่อเนื่อง และวันนี้มีข่าวดีเพิ่ม เมื่อบริษัทเปิดตัว OmniVirt (Omni = everywhere. Virt = Virtual Reality) ซึ่งเป็น Product ด้าน Virtual Reality เดิมของบริษัท ล่าสุดได้สื่อดังอย่าง The New York Times ใช้บริการ
Virtual Reality ในโลกของสายเทคโนโลยี หลายคนกำลังจับตาเป็นอย่างมาก ว่าจะเข้าสู่ Main Stream ได้อย่างไร ไม่ใช่เป็นแค่เทคโนโลยีที่เป็น Nice-to-have อย่างในฟากของสาย Publisher เองก็มีความท้าทาย การนำเสนอคอนเทนต์โดยใช้ VR มาช่วย ก็ยังเห็นภาพไม่ชัดเจนนัก
ด้วยข้อจำกัดที่คนต้องหาอุปกรณ์ด้าน VR มา หรือต้องคอยดาวน์โหลด VR แอปฯ ทำให้กลายเป็น Barrier สำคัญในการเข้าสู่ Main Stream และทำให้จำกัดกลุ่มผู้ใช้โดยตรง นี่คือสิ่งที่ แบดด์ ปรัชญา ไพศาลวิภัชพงศ์ ผู้ก่อตั้ง AdsOptimal พยายามที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้มาโดยตลอด
และนี่เป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทเมื่อ The New York Times ใช้เทคโนโลยีของ OmniVirt ในส่วนของ Player และเทคโนโลยีการโฆษณา ทำให้ผู้เข้า Mobile Site สามารถดูโฆษณาในรูปแบบของ VR ได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม หรือต้องลงแอปฯ แต่อย่างใด ทำให้ The New York Times สามารถนำเสนอคอนเทนต์รูปแบบใหม่ให้กับแบรนด์ที่ลงโฆษณาในรูปแบบของ VR Ads นอกจากนี้ OmniVirt ยังเชื่อมโยงกับ Mobile Ads Network ซึ่งเป็น Product เดิมของทาง AdsOptimal อยู่แล้วซึ่งเป็นส่วนเสริมกันดี และเครือข่ายอื่นๆ อย่าง Doubleclick, Smaato, OpenX เป็นต้น
เพื่อให้เห็นภาพชัดมากขึ้นสามารถดูวีดีโอนี้ได้
และยังนำมาใส่ใน Twitter Ads ได้อีกด้วย
Nature holds the solution to many of man’s biggest challenges. Click and drag to explore this 360 video. https://t.co/h4xOMSOf5D
— T Brand Studio (@TBrandStudio) July 20, 2016
ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Startup ไทยใน Silicon Valley ที่ได้สื่อใหญ่ใช้เทคโนโลยีของบริษัท สำหรับ AdsOptimal เป็น Startup สาย AdTech ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ไม่ค่อยเห็น Startup ไทยกระโดดลงมาทำมากนัก ส่วนนึงคือต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในภาคธุรกิจนี้เป็นอย่างดี คือนอกจากมีความรู้ด้านเทคโนโลยี การตลาดออนไลน์ ยังต้องเข้าใจความต้องการของแต่ละ Party ใน Ecosystem นี้ด้วยไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ผู้ลงโฆษณา, เอเยนซี่, สื่อ และ Ads Network ต่างๆ ส่วนใหญ่ผู้เล่นในตลาดนี้จะเห็นบริษัทจากสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นเสียเยอะ ไม่ก็เป็นเอเยนซี่มาก่อนและผันตัวมาทำ Product เพิ่ม เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของบริษัท, ไม่ก็ลดค่าใช้จ่ายที่ต้องส่งให้ 3rd party สุดท้าย Techsauce ขอแสดงความยินดีอีกครั้งและเอาใจช่วย Startup ไทยให้เติบโตในเวทีโลกต่อไป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด