AirAsia สายการบินต้นทุนต่ำของมาเลเซีย อยู่ระหว่างเตรียมตัวนำธุรกิจ Digital ของบริษัทออกมาเข้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาผ่านการควบรวมกิจการ SPAC (Special Purpose Acquisition Companies) โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถระดมทุนได้กว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,300-9,600 ล้านบาท
Tony Fernandes CEO ของ AirAsia Group ได้กล่าวกับ Reuters ว่า มีบริษัท SPAC ที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะได้เข้ามาหา ซึ่งทาง AirAsia เองก็ได้มีการประกาศหาผู้ตรวจสอบบัญชี (Auditors) เพื่อเข้ามาจัดการบัญชีให้เหมาะสมในการเข้าตลาดของอเมริกา
โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาทาง AirAsia เพิ่งจะประกาศว่าได้ทุ่มเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) เข้าซื้อ Gojek ในประเทศไทย เพื่อเดินหน้าขยายการเติบโตของ AirAsia SuperApp หนึ่งในธุรกิจดิจิทัลของบริษัทฯ ให้ครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน โดยดีลนี้ทำให้มูลค่าของ AirAsia SuperApp มีมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่ากิจการของสายการบินในช่วงการระบาดของโควิด-19 เสียอีก (อ่านข่าว AirAsia เข้าซื้อกิจการ Gojek ประเทศไทยได้ ที่นี่)
พร้อมกันนี้ Tony Fernandes ยังให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg ด้วยว่า AirAsia Group กำลังวางแผนที่จะเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ เพิ่มอีกประมาณ 3 แห่ง ซึ่งจะเห็นได้ว่าการแตกขาของมาของ AirAsia เพื่อลุยในด้านเทคฯ ทำให้บริษัทฯ สามารถอยู่รอดและเติบโตขึ้นได้มากขึ้น
นอกจาก AirAsia SuperApp แล้ว ทางบริษัทยังมองเห็นว่า Teleport กิจการด้านโลจิสติกส์สำหรับใช้เครื่องบินขนส่งสินค้าจะเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม เป็นเพราะความต้องการในการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์มีเพิ่มมากขึ้น และ AirAsia จะเพิ่มเที่ยวบินสำหรับส่งของนี้อีกในเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ตามทาง AirAsia ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อยู่ระหว่างเตรียมนำ Thai AirAsia เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในไทยอีกด้วยภายใน 3-4 เดือนข้างหน้านี้
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด