Amazon Global Selling ประเทศไทย ยังคงนำเสนอเครื่องมือและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อช่วยให้ธุรกิจในประเทศไทยสร้างแบรนด์ให้เติบโตในระดับสากล งาน ‘Amazon Global Selling Thailand Business Accelator 2022’ ได้จัดขึ้นเพื่อให้ความสำคัญกับผู้สร้างแบรนด์ ผู้ผลิต และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอโอกาสให้แก่ธุรกิจไทยในการรวบรวมข้อมูลทั่วไป ข้อมูลเชิงลึก ทักษะ และเครื่องมือที่จะนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อยกระดับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
Amazon เดินหน้าส่งเสริมศักยภาพใฟ้ธุรกิจในประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยให้บริการแบรนด์ในทุกระดับทั้งผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเสริม ไปจนถึงธุรกิจที่ต้องการเร่งการเติบโตผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SME กว่า 2 ล้านรายบนอเมซอน ที่เป็นผูู้ประกอบกาารอิสระซึ่งคิดเป็นจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ขายบนร้านค้าของอเมซอน
จากการสำรวจโดย AlphaBeta ในต้นปี 2565 พบว่ามูลค่าของยอดอีคอมเมิร์ซในรูปแบบ B2C ที่บริษัทในประเทศไทยได้รับจากการขายสินค้าในต่างประเทศมีศักยภาพเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2570 หากธุรกิจเหล่านี้ยังมุ่งสร้างตลาดในอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ส่วนแบ่งยอดขายอีคอมเมิร์ซสำหรับ Micro-SMEs คาดว่าจะอยู่ที่ 31% ในปี 2565 และมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 79% ในปี 2570
ในปีนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคม ผู้ขายชาวไทยสร้างยอดขายด้วยจำนวนผลิตภัณฑ์มากกว่า 5 ล้านชิ้นให้แก่ลูกค้าทั่วโลกผ่านร้านค้าบนอเมซอนแล้ว
นายเอกฉัตร ศีตวรวัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า
“กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมมือกับ Amazon Global Selling Thailand อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสนับสนุน SME ไทย สู่ตลาดการค้าออนไลน์อย่างครบวงจร ในปี 2566 กรมมีแผนงานร่วมกับ Amazon Global Selling Thailand ในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยโดยการจัด Roadshow และ Workshop ด้านการค้าออนไลน์ในทุกภูมิภาค เพื่อส่งเสริมสินค้าศักยภาพของไทยขึ้นบนช่องทางอเมซอน และขยายสู่ตลาดอื่นๆ ต่อไป อันจะเป็นการประกาศศักยภาพสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ”
นอกจากนี้นายอนันต์ ปาลิต หัวหน้า Amazon Global Selling ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า SME หลายรายที่กำลังขายสินค้าออนไลน์กำลังเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและการมีส่วนแบ่งตลาดจากการขายสินค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่กำลังเติบโตอย่างเต็มที่ ดังนั้นธุรกิจไทยควรที่จะคว้าโอกาสเพื่อใช้ประโยชน์ในตอนนี้
“มีโอกาสมากมายในตลาดทั่วโลก และอเมซอนกำลังนำเสนอเครื่องมือและบริการที่สามารถช่วยให้ธุรกิจไทยสร้างรากฐานเพื่อเร่งยอดขายไปทั่วโลก”
“กลยุทธ์ของเราที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยประสบความสำเร็จในปีหน้า คือการแนะนำเครื่องมือ ทรัพยากร และเพิ่มการสนับสนุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการอิสระในการวางเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ และทำให้อเมซอนเป็นหนึ่งในที่ๆดีที่สุดในการสร้างแบรนด์ให้เติบโต เป้าหมายของเรายังรวมถึงความร่วมมือที่มากยิ่งขึ้นกับทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมความสำเร็จให้แก่ธุรกิจไทยในอนาคต”
1) สนับสนุนธุรกิจไทยในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลข้ามพรมแดนผ่านขนาดและทรัพยากร ระดับโลกของอเมซอน ในปัจจุบันอเมซอนครอบคลุมร้านค้า 22 แห่ง จัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 200 ประเทศ และมีศูนย์จัดการ คลังสินค้ามากกว่า 400 แห่งทั่วโลก สิ่งเหล่านี้คือโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดที่ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์ได้
2)บ่มเพาะผู้ประกอบการและสนับสนุนความสำเร็จของผู้สร้างแบรนด์ การขายทั่วโลกจะช่วยยกระดับโปรแกรมผู้ขาย และจะขยายโอกาส สำหรับผู้ชายในการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนทั้งออนไลน์และออฟไลน์
3) เปิดตัวเครื่องมือและ บริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจไทย เช่น เครื่องมือเพื่อการสร้างแบรนด์ เช่น Brand Registry และ Brand Stores, Premium A+ Content เครื่องมือการเลือกสินค้า Product opportunity Explorer
4) การมอบสิ่งจูงใจจากอเมซอน เพื่อให้ธุรกิจไทยเริ่มต้นบนเส้นทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เช่น การมอบสิทธิประโยชน์ด้วยมูลค่าสูงสุดถึง 50,000 เหรียญสหรัฐในการสนับสนุนผู้ขายรายใหม่ ซึ่ง ประกอบด้วย Fulfillment by Amazon และเครดิตสำหรับการโฆษณาสินค้าบน Amazon เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถเริ่มต้น เส้นทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ เจมี่ เบรนแนน หัวหน้า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า
“อเมซอนมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อประโยชน์ ของผู้ขายสินค้า โดยมุ่งเน้นที่การสร้างการเติบโตและโอกาสสําหรับธุรกิจในประเทศไทย ผ่านการสร้างความรู้ความเข้าใจและความ ร่วมมือต่าง ๆ เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น DITP เพื่อร่วมกันสร้างการเปลี่ยนผ่านสู่อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน และจะผลักดันความพยายามเหล่านี้ต่อไปในปี 2566 นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศไทยให้เข้า ร่วมในโครงการ Climate Pledge Friendly ของ Amazon เพื่อร่วมกันส่งเสริมรูปแบบการพัฒนาที่ยั่งยืน”
มีผู้คนมากกว่า 28,000 คนที่ให้ความสำคัญกับกรสนับสนุนคู่ค้าด้านการขายในการสร้างธุรกิจในร้านค้าของอเมซอน และอเมซอนยังคงขยายและอัปเดตเนื้อหาความรู้ต่างๆใน Amazon Seller University อย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอแหล่งข้อมูลด้านการศึกษาแบบดิจิทัลและแบบตัวต่อตัวแก่ผู้ประกอบการและผู้ขายในระยะเริ่มต้น ทีม Amazon Global Selling ประเทศไทยได้นำประโยชน์จากทรัพยากรในระดับโลกเหล่านี้เพื่อมอบบริการเฉพาะแก่ SME ในประเทศไทย เช่น Seller Support และเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยใน Seller University ทีมงานยังคงมุ่งมั่นในการช่วยธุรกิจไทยให้เข้าถึงและขยายตลาดในระดับสากลด้วยการนำเสนอสินค้าไปทั่วโลกผ่านเว็บไซต์อเมซอน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด