อนุทิน ตรวจห้างสยามพารากอน เช็คมาตรการป้องกันและความพร้อมก่อนผ่อนปรนระยะ 2

สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม เตรียมความพร้อมเปิดให้บริการ สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำยกระดับสุขอนามัยและความปลอดภัยขั้นสูงสุด 360 องศา ตอกย้ำความมั่นใจแก่พันธมิตร คู่ค้า ประชาชนที่มาใช้บริการและพนักงานเต็มรูปแบบในพื้นที่ทุกตารางนิ้ว ด้วย Safety Journey ที่ตอบสนองวิถีการใช้ชีวิตวิถีใหม่ของผู้บริโภคในแบบ New Normal Innovative Lifestyle พร้อมมอบความสุขและนำยิ้มสยามกลับคืนสู่คนไทยทุกคนอีก  

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2563 เวลา 13.00 น. ได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมตรวจความพร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนเปิดให้บริการตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

โดยนาย อนุทิน กล่าวว่า ”ห้างสรรพสินค้าถือเป็นจุดศูนย์รวมของประชาชนจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจและเกิดความเข้าใจ ช่วยกันหยุดการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งแม้ปัจจุบันจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่ก็ยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนแต่ก่อนได้ ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือและปฎิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด“

ส่วนความคืบหน้าว่าจะประกาศผ่อนปรนระยะที่ 2 และอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดได้เมื่อไหร่ จะมีการประชุมกับศบค. ในวันพรุ่งนี้ เพื่อปลดล็อกให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาดำเนินการได้ ภายใต้การดูแลความปลอดภัย

นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์จำกัด กล่าวว่า ตามที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.จะประกาศตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 อนุญาตให้ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า สามารถเปิดให้บริการได้ภายใต้มาตรการดูแลสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดนั้น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ ไอคอนสยาม นับเป็นศูนย์การค้าแรกที่นำร่องดำเนินมาตรการรักษาสุขอนามัยให้แก่ลูกค้าและพนักงานทุกคนอย่างสูงสุดและเป็นที่ประจักษ์ตั้งแต่ก่อนปิดบริการชั่วคราว ในการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดให้บริการอีกครั้งตามคำสั่งของภาครัฐนั้น เรายังคงรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยสูงสุดอย่างเข้มงวด พร้อมส่งเสริมให้คนไทยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด

“เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ให้บริการ ร้านค้า และลูกค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในทุกมิติ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตแบบ 360 องศาในทุกพื้นที่แบบ Safety Journey ตอบสนองวิถีการใช้ชีวิตวิถีใหม่ของผู้บริโภคในแบบ New Normal Innovative Lifestyle โดยนำนวัตกรรมเข้ามาผสานในการดำเนินการเพื่อให้กลับมาพบกันอย่างมั่นใจ อาทิ หุ่นยนต์อัจฉริยะที่ติดตั้งกล้องตรวจจับความร้อนและวัดอุณหภูมิเข้ามาใช้ในการช่วยคัดกรอง, การนำเทคโนโลยีทำความสะอาดอย่างล้ำลึกด้วยการใช้รังสี UV-C ฆ่าเชื้อในทุกพื้นที่ทั้งภายในและนอกศูนย์ฯ รวมถึงการลงทะเบียนการเข้า-ออก ผ่านแอพพลิเคชั่นเพื่อรับ e-pass ส่วนตัวสำหรับใช้สแกนเข้าออกอย่างง่ายดายในทุกครั้งที่มาช้อป นอกจากนี้ยังมีมาตรการต่างๆ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดที่สร้างความเชื่อมั่นในทุกย่างก้าวของการใช้บริการ”

สำหรับมาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ (Innovative Health & Safety) ครอบคลุมใน 3 มิติหลักดังนี้ 

1.มาตรการสุขอนามัยของพนักงานผู้ให้บริการ

คัดกรองตรวจสุขภาพพนักงานก่อนทำงานและติดตามเข้มงวด กำหนดมาตรการให้พนักงานรักษาอนามัยป้องกันตนเองสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าตลอดเวลา พร้อมตรวจวัดอุณหภูมิของพนักงานทุกคนก่อนเข้าในพื้นที่ทุกวัน100% นอกจากนี้พนักงานต้องลงทะเบียนการเข้า-ออก ทุกพื้นที่ปฏิบัติงาน ผ่าน Application (หรือ ผ่าน QR Code หรือ แบบฟอร์ม Online) ทุกวัน รวมถึงจัดให้มีการ Self-Checked ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานระหว่างวัน  

2.มาตรการความปลอดภัยของศูนย์การค้า

ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก (Deep Clean) ก่อนเปิดให้บริการในทุกพื้นที่ตั้งแต่การอบโอโซนและอบรังสี UV-C พร้อมฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคผ่านDisinfecting Fogger Technology ทั่วทุกพื้นที่, ตั้งจุดคัดกรองลูกค้าเข้มงวด 100% ทุกจุดโดยใช้เทคโนโลยีทันสมัย อาทิ บริการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ (Mobile Sanitization Carpet), เครื่องพ่นน้ำยาที่เท้า, หุ่นยนต์อัจฉริยะ True5G TemiThermal Scan AutoBot, จุดบริการฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV-C ฟรี, การลดความแออัดและรักษาระยะห่างเพื่อสุขอนามัย, การดูแลความสะอาดทุกจุดสัมผัส ตลอดจนการจัดการระบบระบายอากาศและถ่ายเทอากาศภายในอาคารที่เหมาะสม

3.มาตรการเพื่อความมั่นใจสูงสุดของลูกค้าผู้ใช้บริการ 

ผสานเทคโนโลยีปรับพฤติกรรมรูปแบบการใช้ชีวิต New Normal ที่ผู้ใช้บริการต้องโหลด Application เพื่อลงทะเบียนการเข้า-ออก และเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้ามากยิ่งขึ้น สยามพิวรรธน์ได้สร้างสรรค์วิธีการให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนเพียงครั้งเดียวแล้วรับ e-pass ส่วนตัวสำหรับใช้สแกนเข้าออกง่ายดายในทุกครั้งที่มาช้อป ผ่าน Application หรือ QR CODE รวมถึงใช้ OneSiam Application และ ICONSIAM Application เพื่อวางแผนช้อปปิ้งได้อย่างสะดวกรวดเร็ว, การดูแลป้องกันตนเองใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และทำความสะอาดมือด้วยเจลล้างมือเป็นประจำ นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ ยังนำเสนอรูปแบบการช้อปปิ้งในแบบ Cashless อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นสำหรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและช่องทางการชำระเงินระบบดิจิทัล

สยามพิวรรธน์ มั่นใจว่า ทั้ง OneSiam ซึ่งผนึกกำลัง 3 ศูนย์การค้า ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะให้บริการด้วยมาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยในทุกมิติอย่างสูงสุด มอบความสุขและนำรอยยิ้มสยามกลับคืนสู่ทุกคนอีกครั้ง “New Beginning, New Smile”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ถอดบทเรียนการเงิน SMEs จาก Financial Clinic+ โดย Techsauce x ThinkMate Business Advisory เปลี่ยนตัวเลขหลังบ้าน ให้เป็นกลยุทธ์นำธุรกิจ

Techsauce ผนึกกำลังกับ ThinkMate Business Advisory ริเริ่มโครงการ Financial Clinic+ ขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ช่วยปลดล็อกศักยภาพ SMEs ไทยผ่านความเข้าใจเรื่องบัญชีและการเงินท...

Responsive image

Yann LeCun เปิดตัว AMI Labs สตาร์ทอัพใหม่ ทุ่มสร้าง AI ที่เข้าใจโลกอย่างแท้จริง

Yann LeCun นักวิทยาศาสตร์ AI ระดับตำนานและเจ้าของรางวัล Turing Award เปิดตัว AMI Labs สตาร์ทอัพใหม่ที่เดิมพันอนาคต AI ด้วยแนวคิด World Model สร้าง AI ที่เข้าใจโลกจริง...

Responsive image

Techsauce ผนึก TCEB - หอการค้าโคราช ปักหมุดจัดงาน Techsauce Next Entrepreneur's Summit 'The Gateway to Isan' เร่งเครื่องโคราชสู่เมือง AI ระดับประเทศ

Techsauce ผนึก TCEB - หอการค้าโคราช ปักหมุดจัดงาน Techsauce Next Entrepreneur's Summit 'The Gateway to Isan' เร่งเครื่องโคราชสู่เมือง AI ระดับประเทศ...