Beacon VC เปิดตัว Beacon Impact Fund พร้อมประกาศเป็นผู้นำการลงทุนด้าน ESG อัดฉีด 1.2 พันลบ. | Techsauce

Beacon VC เปิดตัว Beacon Impact Fund พร้อมประกาศเป็นผู้นำการลงทุนด้าน ESG อัดฉีด 1.2 พันลบ.

บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (Beacon VC) จัดตั้งกองทุน Beacon Impact Fund พร้อมประกาศเป็นผู้นำการด้านลงทุนด้าน ESG ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 1,200 ล้านบาท หรือราว 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่แสวงหาผลกำไร ที่มีแนวคิดดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างผลกระทบเชิงบวกในมิติต่าง ๆ ของ ESG สามารถวัดผลได้ พร้อมศักยภาพที่จะขยายผลไปในวงกว้าง 

Beacon Impact Fund

คุณธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (บีคอน วีซี) เปิดเผยว่า บีคอน วีซี ซึ่งเป็น Corporate Venture Capital Fund ของธนาคารกสิกรไทย ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพมาเป็นเวลานาน ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีแรงผลักดันในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่โลกและมนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ ด้วยเชื่อว่าผู้บริโภคมีความต้องการที่จะสนับสนุนสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืนนอกจากนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน 

รวมถึงสถาบันการเงิน และองค์กรขนาดใหญ่ล้วนกำลังมองหานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้องค์กรของตนสามารถปรับตัวเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการสร้างสมดุลด้านสิ่งแวดล้ม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ได้ดียิ่งขึ้น และบริษัทสตาร์ทอัพเองก็อยู่ในจุดที่ดีที่จะช่วยให้องค์กรเหล่านั้นสามารถก้าวข้ามไปยังระบบเศรษฐกิจแห่งความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น บีคอน วีซี จึงได้จัดตั้งกองทุน Beacon Impact Fund พร้อมประกาศเป็นผู้นำด้านการลงทุนในสตาร์ทอัพด้าน ESG ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 1,200 ล้านบาท หรือประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อแสวงหาบริษัทสตาร์ทอัพที่สร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืน วัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม และมีศักยภาพที่จะสามารถขยายผลไปในวงกว้าง สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ และเจตนารมณ์ของธนาคารกสิกรไทย ที่มีความมุ่งมั่นจะยกระดับการดำเนินธุรกิจบนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการปูทางให้สังคมไทยและโลกใบนี้เปลี่ยนผ่านไปยังเศรษฐกิจใหม่ที่สดใสและยั่งยืนกว่าที่เคยเป็นมา 

กองทุน Beacon Impact Fund มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่อยู่ในช่วง Post-revenue หรือสามารถสร้างรายได้แล้ว มีฐานลูกค้าที่ชัดเจน และสามารถเติบโตได้ดี เช่นเดียวกับการลงทุนอื่น ๆ ของบีคอน วีซี ที่ผ่านมาโดยมุ่งเน้นบริษัทสตาร์ทอัพแสวงหาผลกำไร ที่มีแนวคิดดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างผลกระทบเชิงบวกในมิติต่าง ๆ ของ ESG อาทิ

ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment): มุ่งเน้นธุรกิจที่ช่วยลดการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการลดการใช้พลังงานฟอสซิล (Decarbonization) การลดขยะและการผลิตเกินความจำเป็น (Waste Reduction) และการลดผลกระทบจากสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Adaptation)

ด้านสังคม (Social): มุ่งเน้นธุรกิจที่สร้างความเท่าเทียมและการเข้าถึงด้านการเงินและเทคโนโลยี (Financial and Digital Inclusion) การสร้างความรู้ความเข้าใจและวินัยด้านการเงินและเทคโนโลยี (Financial and Digital Literacy) และการสร้างการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ (Access to Health Care) 

ด้านธรรมาภิบาล (Governance): มุ่งเน้นธุรกิจที่ปกป้องสิทธิผู้บริโภค (Consumer Protection) การสร้างความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Visibility) และการสร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ (Business Transparency)

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นแก้ปัญหาด้าน ESG แล้ว บีคอน วีซี เล็งเห็นความสำคัญของการจำกัดความเสี่ยงด้าน ESG ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทุกอุตสาหกรรม บีคอน วีซี จึงจะคอยมองหาโอกาสในการสร้างร่วมมือและพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่ได้ลงทุนไปแล้ว หรือ Portfolio Company ต่างๆ เพื่อผลักดันแนวคิดแห่งความยั่งยืนและสนับสนุนพฤติกรรมเชิงบวกให้แก่บริษัทสตาร์ทอัพและพนักงานของสตาร์ทอัพเหล่านั้นอีกด้วย

คุณธนพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า บีคอน วีซี เป็นหน่วยงาน Venture Capital ของธนาคารกสิกรไทย เรามีความเชื่ออย่างยิ่งว่าการสร้างบทสนทนาและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความยั่งยืน ระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่จะเป็นกุญแจสำคัญในการขยายผลกระทบเชิงบวกที่บริษัทสตาร์ทอัพเหล่านี้สามารถสร้างให้กับประเทศไทยหรือโลกใบนี้ได้ 

จึงมีความหวังว่าการหันมาเริ่มลงทุนในธุรกิจกลุ่ม ESG ของบีคอน วีซี และธนาคารกสิกรไทย จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับองค์กรและหน่วยงานลงทุนต่าง ๆ ในทุกระดับความสามารถ ให้หันมาสร้างนโยบายการลงทุนเชิงรุกในหมวดธุรกิจ ESG โดยให้ความสำคัญกับผลกระทบเชิงบวกต่อโลกและสังคม นอกจากนี้ ยังหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงผลักดันและให้การสนับสนุนผู้คิดค้นนวัตกรรมรุ่นใหม่ที่มีปณิธานในการแก้ปัญหาสำคัญ ๆ ที่พวกเราทุกคนและโลกใบนี้กำลังเผชิญอยู่ด้วย 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะลึก Sovereign AI สำคัญอย่างไร ? จากปาก Jensen Huang ในวันที่ ‘ข้อมูลไทย’ คือทรัพยากรใหม่

สำรวจบทบาทของ Sovereign AI ในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย พร้อมคำอธิบายจาก Jensen Huang CEO ของ NVIDIA เกี่ยวกับ AI ไทยและ Open Thai GPT ที่จะเปลี่ยนอนาคตของเทคโนโลยีในประเทศไทย...

Responsive image

สรุป 3 ความร่วมมือ Jensen Huang ร่วมงาน AI Vision for Thailand ไทยได้อะไรบ้าง ?

Jensen Huang เดินทางเข้าร่วมงาน AI Vision for Thailand จัดขึ้นโดย SIAM.AI CLOUD โดยได้เผยวิสัยทัศน์การขับเคลื่อน AI ในประเทศไทย ทั้งนี้ Siam.AI ได้เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ...

Responsive image

Apple เสนอลงทุนในอินโดฯ เพิ่ม 10 เท่า มูลค่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ สู้ปลดแบน iPhone 16

Apple ทุ่มสุดตัว! เพิ่มเงินลงทุนในอินโดนีเซีย 10 เท่า เป็น 1,000 ล้านดอลลาร์ จากเดิม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังข้อเสนอเดิมถูกปัดตก เป้าหมายปลดแบนการขาย iPhone 16 ในอินโดฯ ให้สำเร็จ...