เทคโนโลยีไฮโดรเจน ทางเลือกพลังงานสะอาดเพื่ออนาคตไทย | Techsauce

เทคโนโลยีไฮโดรเจน ทางเลือกพลังงานสะอาดเพื่ออนาคตไทย

ทุกวันนี้พลังงานสะอาดคือหนึ่งในประเด็นสำคัญของโลกใบนี้  ซึ่งหนึ่งในพลังงานสะอาดที่มีการกล่าวถึงกันเป็นอย่างมากก็คือ “พลังงานไฮโดรเจน” ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับพลังงานชนิดนี้ในการนำไปใช้งานในเชิงอุตสาหกรรมการผลิตใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเหล็ก หรือแม้กระทั่งการผลิตอาหาร  แต่แท้จริงแล้วพลังงานไฮโดรเจนมีประโยชน์อีกมากมายและใกล้ตัวของเราทุกคนกว่าที่คิด 

เนื่องจากในปัจจุบันเริ่มมีการนำเอาไปใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมประกอบกับ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเดินหน้าผลักดันการใช้งานพลังงานไฮโดรเจนเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเชื้อเพลิง อีกทั้งทั่วโลกก็เริ่มมีการให้ความสนใจในการนำเอาพลังงานไฮโดรเจนมาใช้มากขึ้น ทั้งการผลักดันจากนานาชาติอย่างสหภาพยุโรป (EU) ที่ต้องการส่งเสริมกระแสพลังงานสะอาด ลดการผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ จากการวิเคราะห์โดย EIC ข้อมูลของ McKenzie Energy Insight และ Hydrogen council เผยว่าโครงการเทคโนโลยีไฮโดรเจนที่เพิ่มขึ้นและการสนับสนุนของรัฐบาลต่าง ๆ อาจทำให้การใช้ไฮโดรเจนจะเพิ่มขึ้นเจ็ดเท่าหรือ 520 ล้านตันภายในปี 2070 รวมถึงประเทศไทยเองที่กำลังผลักดันด้าน Net Zero ด้วยเช่นกัน 

จากเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้น BIG หรือ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หนึ่งในผู้นำนวัตกรรมไฮโดรเจนเชิงพาณิชย์รายใหญ่ของไทย ภายใต้บริษัทแม่อย่าง Air Products and Chemicals, Inc. จากประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตก๊าซไฮโดรเจนปลอดคาร์บอนและคาร์บอนต่ำระดับโลก ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีไฮโดรเจนและต้องการเป็นผู้ให้บริการพลังงานไฮโดรเจนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ก้าวหน้า เพื่อนำพาสังคมไทยและโลกไปสู่การใช้พลังงานยั่งยืนต่อไป

BIG ผลักดันพลังงานไฮโดรเจนผ่านนวัตกรรมเพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์

จากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลกทำให้หลายประเทศกำลังเร่งแก้ไขในประเด็นดังกล่าว จนเกิดประชุมด้านสิ่งแวดล้อม COP26 ที่ส่งผลหลายประเทศทั่วโลกได้มีการผลักดันนโยบายสิ่งแวดล้อมออกมามากมาย รวมถึงประเทศไทยที่ประกาศตั้งเป้าบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 โดยให้ความสำคัญทั้งด้านการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งสอดคล้องกับทาง BIG ที่ได้มีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050 เช่นกัน 

เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้น BIG จึงริเริ่มการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยนวัตกรรมไฮโดรเจนมาใช้ โดยมีแผนพัฒนาไฮโดรเจนทั้งในแบบคาร์บอนต่ำและปราศจากคาร์บอนร่วมกับองค์กรชั้นนำในประเทศ มุ่งเน้นการผลิตที่มีการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยที่สุด โดยกระบวนการเหล่านี้ถือเป็นจุดแข็งของ BIG ภายใต้บริษัทแม่อย่าง Air Products ในการเร่งผลักดันและช่วยคลี่คลายปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกพร้อมทั้งสามารถให้บริการพลังงานคุณภาพให้กับสังคมได้อีกด้วย 

พลังงานไฮโดรเจนกับการก้าวเข้าสู่วงการพลังงานเพื่อยานยนต์ 

ด้วยการเป็นพลังงานสะอาด ทำให้เกิดการผลักดันการใช้งานอย่างมากขึ้นโดยเฉพาะในฝั่งของยานยนต์และการขนส่งที่ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุมลพิษอันดับต้น ๆ แน่นอนว่าประเด็นของการใช้พลังงานไฮโดรเจนในยานยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ก็ไม่เคยถูกผลักดันและหยิบยกมาพูดถึงมากเท่าในปัจจุบัน เนื่องจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องทำให้ปัจจุบันพลังงานไฮโดรเจนมีคุณสมบัติการใช้งานเทียบเท่าพลังงานน้ำมัน และมีการเติมได้ในเวลารวดเร็วไม่ต้องใช้ระยะเวลาชาร์จนานเหมือนกับรถไฟฟ้าและยังเป็นพลังงานสะอาดอีกด้วย ส่งผลให้เราได้เห็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำมีการตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฮโดรเจนเพื่อวางขายกันแล้ว เช่น Toyota

โดยทางฝั่งของ Air Products ก็ได้มีการเริ่มใช้สถานีเติมก๊าซไฮโดรเจนแห่งแรกในปี  1993 และได้พัฒนาสิทธิบัตรที่ครอบคลุมไปถึงการผลิตไฮโดรเจนและเทคโนโลยีหัวจ่าย รวมถึงยังมีการร่วมมือระหว่าง Air Products และ BIG เพื่อสร้างโซลูชั่นที่ครอบคลุมทุกกระบวนการตลอดห่วงโซ่แห่งคุณค่า (Value Chain) สำหรับการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในอนาคต 

เช่นเดียวกับ BIG ที่มีเป้าหมายในการตอบสนองความต้องการใช้ทรัพยากรควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของไฮโดรเจนเพื่อการขับเคลื่อน (Hydrogen for Mobility: H2fM) ที่จะเป็น Solution ที่เป็นพลังงานสะดวกครอบคลุมตลอดห่วงโซ่แห่งคุณค่า (Value Chain) ได้

เหล่าพันธมิตรจับมือเปิดสถานีต้นแบบบริการเชื้อเพลงไฮโดรเจนแห่งแรกในไทย

และในช่วงที่ผ่านมาทาง BIG ยังได้มีการเปิดสถานีต้นแบบบริการเชื้อเพลิงไฮโดรเจนแห่งแรกของประเทศไทย ณ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อตอบรับแผนภาครัฐสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ด้วยความร่วมมือใหม่กับเหล่าพันธมิตร โดยมี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TDEM) และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (TMT) ภายในงานได้มีการการนำรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง รุ่นมิไร (Mirai) จากโตโยต้ามาทำการทดสอบการใช้งานและ ให้บริการในรูปแบบรถรับส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี (U-Tapao Limousines) สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารในพื้นที่พัทยา - ชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมเตรียมเก็บข้อมูลขยายผลเพื่อพัฒนานวัตกรรมต่อไปในอนาคต โดยสถานีบริการเชื้อเพลิงไฮโดรเจนนี้มีมาตรฐานระดับสากลพร้อมรองรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) นอกจากนี้การเติมไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์รูปแบบ Passenger Car ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น อีกทั้งในอนาคตจะมีการพัฒนาการใช้พลังงานไฮโดรเจนในกลุ่มรถ FCEV ขนาดใหญ่ เช่น รถบัสและรถบรรทุก และทั้งหมดนี้จะสามารถนำไปสู่การพัฒนาด้านพลังงานและยานยนต์ที่มีคุณภาพได้ 

ท้ายสุดแล้ว ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าทาง BIG ในฐานะ Climate Technology Company ที่เป็นผู้ผลิตไฮโดรเจนเชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยจะเดินหน้าขับเคลื่อนทุกอุตสาหกรรมสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ต่อไปอย่างไรบ้าง และนอกจากไฮโดรเจนเพื่อการขับเคลื่อน (H2fM) เราจะได้เห็นนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านไฮโดรเจนเกิดใหม่รูปแบบไหนที่จะเข้ามาสนับสนุนให้ผู้คนใช้งานมากขึ้นเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีในอนาคต

 


บทความนี้เป็น Advertorial 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ททท. x TikTok หนุนครีเอเตอร์ ร่วมฝึกคน ททท. เล่าเรื่องเมืองไทย เพิ่มรายได้เข้าท้องถิ่น

เจาะความร่วมมือระหว่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ TikTok ในด้านวิธีส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านแพลตฟอร์ม TikTok ทั้งการดึงครีเอเตอร์ทั้งไทยและเทศ มามีส่วนร่วมมากขึ้น, การพั...

Responsive image

True IDC จับมือ Siam AI Cloud ยกระดับ AI Ecosystem ไทยสู่ระดับโลก

ทรู ไอดีซี และ สยามเอไอคลาวด์ ร่วมมือพัฒนาระบบนิเวศ AI ของไทย ครอบคลุมดาต้าเซ็นเตอร์ AI โมเดล และบริการ AI-as-a-Service มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลาง AI ของภูมิภาคอย่างยั่งยืน...

Responsive image

OpenAI ปล่อย ChatGPT o1 ตัวเต็ม เจาะกลุ่ม STEM ใช้ได้บน ChatGPT Pro ราคาราว 6,800 บาท

OpenAI ฉลองเทศกาลคริสต์มาส 2024 ด้วยแคมเปญพิเศษ "12 Days of OpenAI" เปิดตัวโมเดล o1 และ ChatGPT Pro พร้อมอัปเดตความสามารถใหม่ รองรับการใช้งาน AI ขั้นสูงสุดในอุตสาหกรรมต่าง ๆ...