Startup สิงคโปร์-บอสตันจับมือมหาวิทยาลัยฮ่องกง พัฒนาระบบดิจิตอลตรวจจับและรักษา COVID-19 | Techsauce

Startup สิงคโปร์-บอสตันจับมือมหาวิทยาลัยฮ่องกง พัฒนาระบบดิจิตอลตรวจจับและรักษา COVID-19

Biofourmis สตาร์ทอัพ Health-Tech ประกาศความสำเร็จในการยกระดับระบบเทคโนโลยีที่วิเคราะห์อาการผิดปกติของร่างกายด้วยปัญญาประดิษฐ์และ machine learning ให้สามารถเฝ้าระวังผู้ที่มีอาการและสงสัยว่าจะติดเชื้อ COVID-19 ได้จากทางไกล ด้วยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยฮ่องกง และ Harmony Medical Inc. พันธมิตรร่วมลงทุนของ Biofourmis ในประเทศจีน 

โดยโครงการติดตามอาการของผู้ป่วยผ่านโซลูชั่น Biovitals® Sentinel ที่พัฒนาขึ้นมาในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ โดยการปรับแต่งความสามารถของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI และmachine learning เพื่อมาช่วยเฝ้าระวังและวิเคราะห์อาการของ COVID-19 ให้กับแพทย์ที่เกี่ยวข้องได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยชุดข้อมูลที่ช่วยคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับแนวโน้มที่ไวรัสโคโรน่าจะทำปฏิกิริยาต่อร่างกายผู้ป่วย ส่งผลให้แพทย์ตัดสินใจเริ่มทำการรักษาได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที ทำให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

“เป้าหมายของโปรแกรมนี้คือการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Biovitals® Sentinel เพื่อเฝ้าสังเกตผู้ป่วยจากระยะไกล และระบุการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพหรืออาการแย่ลงจากโรค COVID-19 ในกลุ่มผู้ป่วยได้” ศาสตราจารย์ David Chung Wah Siu, ศาสตราจารย์คลินิก ภาควิชาอายุรศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮ่องกงกล่าว “เราหวังว่าความพยายามร่วมกันของเราจะนำไปสู่ความเข้าใจทางระบาดวิทยาที่ดีขึ้นของโรค COVID-19 เพื่อให้เราสามารถพัฒนาผลการรักษาพลเมืองของเรา รวมถึงชุมชนโลกในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อมีมากขึ้น”

ผู้ป่วยที่มีอาการจากโรค COVID-19 มักแสดงอาการ เช่น มีไข้ ไอและหายใจถี่ ซึ่งสามารถตรวจสอบอย่างใกล้ชิดผ่านมาตรวัดทางสรีรวิทยาที่เกี่ยวข้อง ด้วยระบบเซ็นเซอร์ชีวภาพ Everion® ที่พัฒนาขึ้นโดย Biofourmis ซึ่งจะถูกสวมใส่ไว้บนแขนผู้ป่วยที่ถูกกักบริเวณอยู่ที่บ้านหรือสถานพยาบาล ซึ่งช่วยให้แพทย์และนักวิจัยสามารถเรียนรู้ปฏิกิริยาต่างๆที่ไวรัสโคโรน่าส่งผลต่อร่างกาย และช่วยอธิบายผลได้อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้นผ่านการวิจัยผลลัพธ์กว่า 20 รายการจากแพลตฟอร์ม Biovitals® Analytics ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ machine learning ในการวิเคราะห์แนวโน้มของอาการผิดปกติที่จะเกิดขึ้น เพื่อบ่งบอกพัฒนาการของโรคในผู้ป่วยนั้นๆ ผ่านระดับอุณหภูมิ, อัตราการเต้นของหัวใจ, คลื่นชีพจร, ความแปรปรวนของอัตราการเต้นหัวใจ, อัตราการหายใจ, จังหวะการเต้นของหัวใจ ฯลฯ

โซลูชั่น Biovitals® Sentinel ใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพที่เก็บได้จากผู้ป่วยโดยตรง ผ่านการตอบคำถามกับระบบ AI และแพทย์สามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงผ่านหน้าแดชบอร์ด และรับการแจ้งเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาที่สำคัญและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถเข้าทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที

“ยิ่งเราตรวจพบความเชื่อมโยงของอาการรกับเชื้อ COVID-19 ได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้รักษาได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น” คุณ Kuldeep Singh Rajput ประธานบริหารของ Biofourmis กล่าว “ปัจจุบันเรารู้จักอาการที่พบบ่อย แต่ก็ยังต้องเรียนรู้ว่าไวรัสสายพันธุ์โคโรน่านี้มีผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง โปรแกรมนี้จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับการทำความเข้าใจกับโรค เมื่อเกิดโรคอย่าง COVID-19 ซึ่งเป็นโรคที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนแต่แพร่ระบาดอย่างมากนั้น ทุกวินาทีย่อมมีค่า”

ดร. Raymond Tong ประธานบริหารของ Harmony Medical Inc. ผู้ร่วมลงทุนของ Biofourmis ในประเทศจีน กล่าวเสริมว่า “ด้วยความร่วมมือพิเศษกับมหาวิทยาลัยฮ่องกงและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในด้านนี้ เราจะสามารถจัดการกับไวรัสโคโรน่า (coronavirus) ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในขณะนี้ เพื่อช่วยชีวิตผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

ปัจจุบัน Biofourmis กำลังเจรจากับหน่วยงานภาครัฐของภูมิภาคต่างๆ รวมถึงประเทศไทยในการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยผู้ป่วยให้ทั่วถึงขึ้นและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ COVID-19 เพื่อให้ทำการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยโซลูชั่น Biovitals® Sentinel พร้อมที่จะนำไปใช้งานในประเทศหรือภูมิภาคใดๆ ก็ตามที่ต้องการเฝ้าระวังโรคที่คล้ายกันนี้หรือเพื่อการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบเดลิเวอรี่ คุณ Rajput กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ช่วยเหลือหน่วยงานด้านการแพทย์ หรือหน่วยงานของรัฐที่สนใจในความร่วมมือแบบเดียวกันนี้”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จับตา 18 อุตสาหกรรม พลิกโฉมเศรษฐกิจโลก สร้างรายได้กว่า 48 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2040

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือดกว่าเดิม มีอุตสาหกรรมบางกลุ่มที่กำลังมาแรง และเติบโตแบบก้าวกระโดด เราเรียกอุตสาหกรรมเหล่านี้ว่า 'Arenas' ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็ต้...

Responsive image

Gemini 2.0 คืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง ? สรุปของใหม่กับ AI ที่เก่งที่สุดของ Google

หลังจาก Google เปิดตัว Gemini 1.0 ซึ่งเป็น AI แบบ Multimodal และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนมีผู้ใช้มากถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก ล่าสุดได้มีการอัปเกรดเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Gemini 2.0 ซึ่งเป็น...

Responsive image

พลังงานจากหลุมดำ พุ่งชนวัตถุลึกลับในกาแล็กซี เกิดรอยปริศนารูปตัว V

NASA พบร่องรอยแปลกประหลาดจากการพุ่งชนของลำแสงพลังงานสูงที่มาจากหลุมดำขนาดมหึมาในกาแล็กซี Centaurus A (Cen A) ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 12 ล้านปีแสง การค้นพบนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการ...