AI สัญชาติจีนมาแรง! ByteDance ผู้สร้าง TikTok เปิดตัว Doubao 1.5 Pro AI ม้ามืดที่กำลังท้าทายยักษ์ใหญ่ในวงการ ด้วยประสิทธิภาพที่สูงและต้นทุนที่ต่ำ แต่ยังคงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมแม้ต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปขั้นสูงจากสหรัฐฯ 

รู้จัก Doubao

Doubao หรือแชตบอทที่ใช้โมเดลภาษาขั้นสูงซึ่งพัฒนาโดย ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok แอปโซเชียลมีเดียยอดนิยมในปัจจุบัน โดยมีจุดเด่นในการประมวลผลข้อมูลหลายรูปแบบ (multimodal) และรองรับการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติในหลายภาษา โดยเฉพาะภาษาจีน แอปนี้กลายเป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในจีน เนื่องจากสามารถตอบคำถาม วิเคราะห์ข้อมูล และช่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้รับการเปรียบเทียบกับ ChatGPT และ AI อื่น ๆ ระดับโลก

กลยุทธ์การพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพสูงของ ByteDance

ByteDance ระบุว่า Doubao 1.5 Pro ใช้แนวทาง "train-inference design" ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการฝึก เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในราคาที่ต่ำที่สุด นอกจากนี้ ByteDance ยังออกแบบเซิร์ฟเวอร์คลัสเตอร์ที่รองรับชิปประมวลผลระดับล่าง เพื่อลดค่าใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐาน AI ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการแข่งขันในตลาดจีนที่ต้องเผชิญข้อจำกัดด้านงบประมาณและการเข้าถึงชิปขั้นสูงจากสงครามชิประหว่างจีนและสหรัฐฯ

อีกหนึ่งคู่แข่งตัวจริงของ GPT-4o และ Claude 3.5 Sonnet

Doubao 1.5 Pro ไม่ได้เป็นเพียงคู่แข่งของ GPT-4o และ Claude 3.5 Sonnet แต่ยังแสดงศักยภาพที่เหนือกว่าในบางด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประมวลผลภาษาจีน การเขียนโค้ด และการใช้เหตุผลขั้นสูง โมเดลนี้ใช้สถาปัตยกรรม Sparse Mixture of Experts (MoE) ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับโมเดลขนาดใหญ่กว่าถึง 7 เท่า แต่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่ามาก

จากการทดสอบ Doubao 1.5 Pro ทำคะแนนได้สูงสุดใน 7 จาก 14 หมวดการประเมิน รวมถึงความเข้าใจภาษา คณิตศาสตร์ การเขียนโค้ด และความสามารถในการให้เหตุผล ที่สำคัญคือ บางด้านยังสามารถเอาชนะหรือทำคะแนนได้สูงกว่าระบบ AI ชั้นนำจาก OpenAI, Google และ Anthropic รวมถึงคู่แข่งภายในประเทศอย่าง DeepSeek และ Alibaba อีกด้วย

นอกจากนี้ ByteDance ยังระบุว่า Doubao 1.5 Pro มีประสิทธิภาพดีกว่า Skylark ซึ่งเป็นโมเดลก่อนหน้า โดยมีการปรับปรุงขึ้นถึง 19% ในด้านคณิตศาสตร์ การเข้าใจภาษา และการประเมินผลหลายงานพร้อมกัน

ประสิทธิภาพสูงในราคาย่อมเยา

หนึ่งในจุดเด่นของ Doubao 1.5 Pro คือความคุ้มค่า โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 0.8 หยวน ประมาณ 3.72 บาท ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อ 1 ล้านโทเค็นสำหรับอินพุต และ 2 หยวน สำหรับเอาต์พุต ส่วนโมเดลขนาดเล็กที่เปิดตัวพร้อมกันอย่าง Doubao 1.5-lite-32k มีค่าใช้จ่ายเพียง 0.3 หยวน ต่อ 1 ล้านโทเค็นอินพุต ซึ่งถูกกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม AI ถึง 70%

ByteDance สามารถลดต้นทุนได้โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์คลัสเตอร์และเทคโนโลยีเครือข่าย ส่งผลให้ Doubao 1.5 Pro สามารถสร้างกำไรขั้นต้นได้สูงถึง 50% จาก API ซึ่งเป็นตัวเลขที่บริษัท AI ส่วนใหญ่ใฝ่ฝัน

นอกจากนี้ ByteDance ยังออกแบบ Doubao 1.5 Pro ให้ใช้งานง่าย แม้ไม่มีความรู้เชิงลึกด้าน AI โดยสามารถเข้าถึง API ผ่านแพลตฟอร์ม Volcano Engine หรือใช้บัญชีที่มีอยู่แล้วได้เลย นักพัฒนาที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาจีนก็สามารถใช้ Google Translate เพื่อแปลอินเทอร์เฟซการใช้งานได้อย่างสะดวก

อนาคตของ AI สัญชาติจีน ภายใต้กลยุทธ์ของ ByteDance

ByteDance ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การทำกำไร แต่ต้องการทำให้ AI เป็นเทคโนโลยีที่ทุกคนเข้าถึงได้ Tan Dai ประธานของ Volcano Engine กล่าวว่า "การลดราคาควรครอบคลุมถึงโมเดลหลัก เพื่อกระตุ้นการเกิดนวัตกรรม" ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัปและนักพัฒนารายย่อยได้เข้าถึง AI ประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายพัฒนา AI ของ ByteDance ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการทำกำไร เนื่องจากต้องลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างหนัก แต่ด้วยอัตราการใช้งานที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะสร้างผลกำไรได้ในอนาคต

อ้างอิง: scmp