เนื่องจากประสบปัญหาด้านซัพพลายเออร์และวิกฤติชิปขาดแคลนที่ต่อเนื่อง โฆษกของ ByteDance บริษัทแม่ที่อยู่เบื้องหลัง TikTok ได้กล่าวกับสำนักข่าว CNBC ว่าบริษัทกำลังวางแผนออกแบบชิปเซ็ทของตัวเองเพื่อลดการพึ่งพาจากบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ โดยชิปดังกล่าวออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในระบบนิเวศของ ByteDance และรองรับการประมวลผลที่เกี่ยวกับแพลตฟอร์มวิดีโอ โดยคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจาก SMIC และรัฐบาลปักกิ่ง

การสร้างชิปของตัวเองในครั้งนี้ ByteDance ร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์ ได้แก่ ผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในปักกิ่ง ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจเป็นบริษัทอย่าง SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corporation) ที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในปักกิ่งหรือไม่ นอกจากนี้ยังเป็นขอบข่ายอุตสาหกรรมที่รัฐบาลจีนกำลังผลักดันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นโดยการเน้นการพึ่งพาตนเอง (Self-Sufficiency) อย่างจริงจังเช่นเดียวกัน โดย ByteDance ระบุว่าจะไม่ผลิตชิปเพื่อจำหน่ายให้กับบริษัทอื่น ๆ แต่จะเป็นการใช้ในระบบนิเวศที่หลากหลายของบริษัท 

เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเข้าถึงทุกสิ่งตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยนต์ ถูกมองว่าเป็นสมรภูมิสำคัญระหว่างสหรัฐฯ และจีน ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยี กล่าวคือ ชิปเซมิคอนดักเตอร์ ถือเป็นส่วนประกอบจำเป็นในการพัฒนาและผลิตเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม อุปกรณ์สินค้าด้านไอทีที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันไปจนถึงระบบความมั่นคงทางการทหารของประเทศ นับมีความเกี่ยวข้องกับหลายอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในเชิงเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศนั้น ๆ เป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศผู้ผลิต 

นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบริษัทรายอื่นในจีนก็ได้ประกาศเปิดตัวชิปที่ออกแบบเอง แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะไม่มีพื้นฐานด้านเซมิคอนดักเตอร์แบบเดิมๆ เช่น เสิร์ชเอนจิ้นอย่าง Baidu ยักษ์ใหญ่ Alibaba ซึ่งการออกแบบชิ้นส่วนสำคัญนี้เองเป็นวิธีหนึ่งในการลดการพึ่งพาจากบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ หลังจากความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นในปัจจุบันบวกกับการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน 

ที่มา

TikTok owner ByteDance explores self-designed chips as China aims for semiconductor self-sufficiency