จีนกำลังก้าวไปสู่ประเทศที่ใช้รถยนต์พลังงานใหม่เป็นตัวขับเคลื่อน เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ทั่วโลกเกือบ 14 ล้านคัน 60% คือการจดทะเบียนรถใหม่ในประเทศจีน
การเติบโตของรถยนต์พลังงานใหม่ครั้งนี้ สวนทางกับการเติบโตของความต้องการน้ำมันในจีนที่ชะลอตัวอย่างมากในปีนี้ นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs เปิดเผยว่า ความต้องการน้ำมันในจีนลดลงเหลือ 200,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2024 ซึ่งเป็นผลมาจากการหันไปใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติที่มากขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันบนซินเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฮบริดจะช่วยลดความต้องการน้ำมันได้มากถึง 500,000 บาร์เรลต่อวัน
ก่อนหน้านี้เคยมีการวิเคราะห์ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฮบริดที่พุ่งสูงขึ้นจะทำให้การใช้น้ำมันบนท้องถนนของจีนแตะระดับสูงสุดในปี 2025 ซึ่งเร็วกว่าเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่หลายปี
ตามรายงานระบุว่า 3 ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศจีน เพิ่งจะทำยอดขายเป็นสถิติสูงสุดไปเมื่อเดือนมิถุนายน และในตอนนี้บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังไล่ตาม และเร่งแซงคู่แข่งจากชาติอื่นๆ รวมถึง Tesla ในด้านอุตสาหกรรม และนวัตกรรม
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การที่จีนพึ่งพาภาคการผลิตมากเกินไป อาจส่งผลเสียในระยะยาว แม้ว่าการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดอย่างรถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ส่งผลต่อ GDP ของจีนโดยตรง แต่ถ้าเศรษฐกิจโลกยังคงซบเซาแบบนี้ จีนก็อาจจะต้องเจอกับปัญหาเศรษฐกิจตามมาในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้
อ้างอิง : Business Insider
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด