AI จีนขอท้าชิงพื้นที่ตลาด เมื่อบริษัทวิจัย AI เปิดตัวโมเดล DeepSeek-R1 โมเดล AI ให้เหตุผลใกล้เคียงกับมนุษย์ เปิดตัวมาท้าชิงความสามารถของโมเดล o1 จาก OpenAI
DeepSeek-R1 ถูกพัฒนาโดยบริษัทผู้วิจัย AI สัญชาติจีนอย่าง Deepseek ด้วยความสามารถในการคิดวิเคราะห์หรือให้เหตุผล ซึ่งช่วยให้โมเดลนี้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบได้ด้วยตัวเอง และลดข้อผิดพลาดที่มักพบในโมเดล AI ทั่วไป และถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับโมเดล o1 จาก Open AI โดยตรง
แตกต่างจากโมเดล AI ทั่วไปโดยการเน้นการให้เหตุผลอย่างรอบคอบก่อนที่จะให้คำตอบ โดยจะใช้เวลาในการพิจารณาคำถามหรือคำขออย่างละเอียด คล้ายกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงในตัวเอง ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดที่มักพบได้ในแบบจำลอง AI อื่นๆ กระบวนการนี้ทำให้ DeepSeek-R1 อาจใช้เวลาคิดนานหลายสิบวินาที ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคำถาม คล้ายคลึงกับความสามารถของ OpenAI o1 ที่เป็นโมเดลคู่แข่ง
DeepSeek ระบุว่า DeepSeek-R1-Lite-Preview สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับ OpenAI o1-preview ในการทดสอบมาตรฐาน AIME และ MATH ซึ่งเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของโมเดล AI อย่างไรก็ตาม โมเดลนี้ยังมีจุดอ่อน เช่น การแก้ปัญหาเกมง่ายๆ อย่าง tic-tac-toe ซึ่งคล้ายกับ OpenAI o1 ที่ประสบปัญหาเดียวกัน
นอกจากนี้ DeepSeek-R1 ยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย สามารถถูกเจาะระบบได้ง่าย โดยการใช้คำสั่งที่ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยหนึ่งในผู้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X สามารถให้คำตอบสูตรการผลิตยาเสพติดได้
อีกทั้ง DeepSeek-R1 ยังถูกตั้งข้อสังเกตว่า มีข้อจำกัดในการตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองที่อ่อนไหว เช่น ชื่อของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมิน หรือ สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของไต้หวัน สาเหตุนี้น่าจะเป็นผลมาจากแรงกดดันของรัฐบาลจีนที่กำหนดให้ AI ในประเทศต้องสะท้อนหลักค่านิยมของสังคมนิยม และผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของประเทศ
DeepSeek มีแผนที่จะเปิดโอเพ่นซอร์ส DeepSeek-R1 และ API เพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ บริษัทได้รับการสนับสนุนจาก High-Flyer Capital Management ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ในประเทศจีนที่ใช้ AI ในการตัดสินใจซื้อขายในตลาดทุน
นอกจากนี้ High-Flyer ยังลงทุนมหาศาลใน การสร้างและใช้งานเซิร์ฟเวอร์คลัสเตอร์ของตัวเองเพื่อการฝึกอบรมโมเดล AI โดยใช้ GPU Nvidia A100 จำนวน 10,000 ตัว ด้วยงบประมาณ 138 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4.7 พันล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนา AI ระดับสูงผ่าน DeepSeek
DeepSeek เคยสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม AI ด้วยโมเดล DeepSeek-V2 ที่ผลักดันให้คู่แข่งในจีน เช่น ByteDance, Baidu และ Alibaba ปรับลดราคาการใช้งานโมเดลของตน และบางรายถึงกับเปิดให้ใช้งานฟรี
DeepSeek-R1 สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาดผู้พัฒนา AI โดยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของจีนในการสร้างเทคโนโลยีระดับโลก การลงทุนมหาศาลและความสามารถในการท้าทาย OpenAI บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นในการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด อย่างไรก็ตาม การควบคุมและกำกับดูแลอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งจำเป็น อนาคตของ AI จะขึ้นอยู่กับการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์อย่างมีความรับผิดชอบและการสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับความปลอดภัย
อ้างอิง: techcrunch
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด