หลังจากที่ Techsauce ได้นำเสนอข่าวถึงการรับเงินทุนสนันสนุนครั้งใหม่ไปแล้วนั้น วันนี้ Claim Di ก็ได้จัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย
เคลมดิ (ClaimDi) ผู้ชนะเลิศโครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท (dtac Accelerate) ปี 2557 ประกาศความสำเร็จ ขึ้นไปอีกขั้นอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 12 เดือน โดยเคลมดิ เป็นซอฟต์แวร์ที่ปฏิวัติวงการประกันภัยระดับโลก สามารถระดมทุนจากนักลงทุนระดับโลก ในรอบซีรียส์เอ เป็นเงินทั้งสิ้น 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐแล้วในปัจจุบัน และถือเป็นการลงทุนในระดับซีรียส์เอที่สูงที่สุดในวงการสตาร์ทอัพไทยในปัจจุบัน และเป็นการระดมทุนสร้างมูลค่าบริษัทที่สูงที่สุดนับจากการเป็นบริษัทของคนไทย ที่ไม่ใช่บริษัทต่างชาติหรือชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย และไม่ใช่บริษัทสตาร์ทอัพที่ต้องไปจดทะเบียนในต่างประเทศเพื่อระดมทุนทั้งที่เจ้าของเป็นคนไทย
นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก เปิดเผยว่า “เคลมดิ ประสบความสำเร็จในวันนี้ เพราะดีแทค แอคเซอเลอเรททำให้ชีวิตเปลี่ยนจากที่เคยเป็น SME มาตลอด 20ปี เข้าสู่เส้นทางของสตาร์ทอัพ ที่ทำให้เคลมดิโตเร็วแบบก้าวกระโดด จนได้รับการระดมทุนในรอบซีรียส์เอครั้งนี้ จำนวน 2 ล้านเหรียญสหรัฐ Lead โดย Cyber Agent venture ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ประกอบด้วยผู้ร่วมระดมทุน 8 ราย คือ Cyber Agent Venture, Golden Gate Venture, 500 Startup, 500 Durian, dtac Accelerate, Double A และอีก 2 Thai Private Investor
ในการระดมทุนครั้งใหม่ในรอบซีรียส์เอครั้งนี้ แตกต่างจากรอบพรีซีรียส์เอในปีที่ผ่านมาคือ ยังคงมีกองทุนเดิมที่เคยระดมทุนในรอบที่แล้วและมีความมั่นใจในตัวเคลมดิอยู่ จึงหันมาลงทุนในรอบนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อคงสัดส่วนหุ้นที่ตนเองต้องการเอาไว้ ขณะเดียวกันก็มีกองทุนใหม่ที่ให้ความสนใจจำนวนมากจากต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้ามาเจรจาผ่านเวทีการระดมทุนในระดับนานาชาติ และการเข้ามาติดต่อโดยตรง ที่สำคัญในการระดมทุนครั้งนี้มีทั้งกองทุนไทยและนักลงทุนไทยสนใจในหุ้นกลุ่มสตาร์ทอัพ เช่น เคลมดิ และได้ระดมทุนเข้ามาในที่สุด
การเลือกระดมทุนในรอบซีรียส์เอนี้ นอกจากจะทำให้บริษัทสามารถนำเงินทุนมาพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัทและขยายฐานทางการตลาดภายในประเทศแล้ว ยังเป็นการเลือกพันธมิตรการลงทุนเพื่อสามารถต่อยอดทางธุรกิจในการนำซอฟต์แวร์เคลมดิ ซึ่งจะช่วยปฏิวัติวงการประกันภัยใหม่ ให้ไปสู่ตลาดในต่างประเทศได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย โดยพันธมิตรทั้งหมดจะทำให้ซอฟต์แวร์เคลมดิสามารถเจาะเข้าสู่ตลาดประกันภัยรถยนต์ในประเทศมาเลเซีย, ลาว, ศรีลังกา, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ได้ในทันที โดยเป้าหมายหลักของซอฟต์แวร์เคลมดิจะอยู่ที่ตลาดในมาเลเซียและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดประกันภัยรถยนต์ที่ใกล้เคียงกับประเทศไทยและมีมูลค่าการประกันภัยสูงสุดในระดับเอเชีย”
จากการระดมทุนในครั้งนี้เคลมดิยังได้เปิดตัว 3 บริการใหม่ คือ
1.Claim Di Assist ซึ่งเป็นบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน ฟรี 500 บาทสำหรับทุกคนที่ดาวน์โหลดแล้วลงทะเบียนรถยนต์เข้ามา หากใช้บริการแล้วพึงพอใจ สามารถซื้อบริการผ่านแอพพลิเคชั่นหรือ in app ได้ในราคา1.99 – 5.99 เหรียญสหรัฐ หรือ 70-250 บาทได้
2.Claim Di Call เป็นบริการรับจ้างเป็นคอลล์เซ็นเตอร์ (Call Center) ที่ทำงานแบบ 24x7 หรือตลอดเวลาให้กับบริษัทประกันภัยที่ไม่ต้องการมีคอลล์เซ็นเตอร์เป็นของตนเอง โดยหันมาใช้บริการในรูปแบบ Outsource Call Center สำหรับงานรับแจ้ง ทั้งในเวลาทำการและนอกเวลาทำการ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของบริษัทประกันอย่างมาก เพราะธุรกิจคอลล์เซ็นเตอร์มีรูปแบบการทำดำเนินการแยกเป็นอิสระจากธุรกิจประกันภัยปกติและสามารถร่วมกันดำเนินการเพื่อนำไปสู่การประหยัดมากกว่าการแยกดำเนินการโดยบริษัทประกันรายใดรายหนึ่ง
3.Claim Di Bike เป็นบริการรับทำการสำรวจภัย ในกรุงเทพ และครอบคลุมทั่วประเทศภายในเดือนมีนาคมปีหน้า ซึ่งความแตกต่างจากผู้รับจ้างหรือ outsource ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบันคือ พนักงานจะไม่เป็นพนักงานประจำ บริษัทจะให้พนักงานเคลมประกันใช้ซอฟต์แวร์ Claim Di ในการทำงาน ในราคาที่บริษัทประกันจ่ายถูกกว่า ได้ข้อมูลทันทีหรือ real-time และแม่นยำกว่า สามารถปิดจบงานได้ภายในวันเดียว ในขณะที่พนักงานสำรวจภัยสามารถมีรายได้ และสวัสดิการที่สูงกว่าทำงานกับ outsource company รายอื่น มีงานส่งให้ต่อเนื่อง อยากทำงานเมื่อใดก็ได้ตามต้องการเพียงแค่เปิดแอพพลิเคชั่นเคลมดิก็สามารถทำงานตามพื้นที่ที่ตนเองสะดวก สามารถเบิกเงินได้ทุกสัปดาห์ ไม่ต้องกลับเข้าสำนักงาน สามารถจบงานได้ทันทีบนถนน
นอกจากการนำเงินระดมทุนมาสร้างแนวทางธุรกิจใหม่ของเคลมดิในครั้งนี้ การระดมทุนยังรวมถึงการนำเงินไปควบรวมกิจการของบริษัท A Plus ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจภัยอิสระหรือ Outsource Surveyor ที่มีชื่อเสียงในธุรกิจการรับสำรวจภัยให้กับประกันภัยหลายราย การควบรวมครั้งนี้จะทำให้ Claim Di สามารถตอบสนองการบริการเคลมประกันภัยรถยนต์ได้ทุกประเภท และหลายพื้นที่ในประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้นการขยายตลาดในต่างประเทศจะมีการเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องซึ่งตั้งอยู่ในท้องถิ่นอยู่แล้ว ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างฐานการใช้เคลมดิออกไปยังประเทศนั้นได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังจะทำให้เกิดระบบมาตรฐานการทำประกันภัยในระดับเดียวกันภายในภูมิภาคนี้ด้วยซอฟต์แวร์เคลมดิอีกด้วย
นายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจและ ดีแทค แอคเซอเลอเรท บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ดีแทค แอคเซอเลอเรท ภูมิใจในความสำเร็จของเคลมดิ ครั้งนี้หลังจบจากโครงการไป บริษัท เคลมดิ สามารถระดมทุนรวมไปแล้วกว่า 80 ล้านบาทและสามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดดถึง 15 เท่าทำให้บริษัทมีมูลค่ากว่า 350 ลัานบาทแล้วในปัจจุบัน ดีแทคยังคงให้การสนับสนุนทางเคลมดิ และสตาร์ทอัพในโครงการทั้ง3 รุ่นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นงบประมาณสนับสนุนทางด้านการตลาดอีกกว่า 20 ล้านบาทต่อปี ช่องทางการสื่อสารกับฐานลูกค้าของทางดีแทคเอง รวมถึงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผลิตภัณฑ์หลักของทางดีแทคไม่ว่าจะเป็น พรีเพด โพสต์เพด tourist SIM และบริการทางด้าน Digital Services ต่างๆอีกมากมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าดีแทคอย่างต่อเนื่อง”
นายธนฉัตร ตั้งศรีวงศ์ ผู้จัดการด้านการลงทุนประจำประเทศไทย บริษัทไซเบอร์เอเจนท์ เวนเจอร์ส กล่าวว่า "ClaimDi มีทุกสิ่งทุกอย่างที่นักลงทุนเฟ้นหาจากเหล่าสตาร์ทอัพ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบการใช้งานเรียบง่ายแต่มีสมรรถภาพในการใช้งานอันยอดเยี่ยม ประกอบกับการอยู่ในอุตสาหกรรมที่ถูกที่ถูกเวลา ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นกับศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ และที่ขาดไปไม่ได้คือความสามารถเชิงนวัตกรรมระดับโลกของ ClaimDi ซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆ เลยจากสตาร์ทอัพทั่วไป แต่เหนือสิ่งอื่นใด การที่ CliamDi มีหัวเรืออย่างคุณกิตตินันท์เป็นผู้นำทัพ ประกอบกับทีมงานชั้นเยี่ยมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถรอบด้าน ทำให้การตัดสินใจในการลงทุนครั้งนี้เป็นไปอย่างง่ายดายอย่างที่สุด"